วันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา นายโรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เยือนญี่ปุ่นเป็นวันที่ 2 โดยได้เข้าร่วมงานเลี้ยงของสหพันธ์องค์กรเศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าพบเจรจากับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่นายอาเบะเป็นเจ้าภาพ สื่อมวลชนญี่ปุ่นให้ความสนใจกับการเยือนของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์อย่างสูง ทั้งตั้งข้อสงสัยว่า ขณะที่การเจรจราในที่สาธารณะระหว่างผู้นำสองประเทศนั้นดูจะชื่นชมวัตถุประสงค์ที่แท้ของ นาย ดูเตอร์เตคืออะไรกันแน่
นายอาเบะกล่าวในการแถลงข่าวหลังพบกับประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ว่า ญี่ปุ่นกับฟิลิปปินส์ได้ยืนยันจุดยืนเกี่ยวกับปัญหาทะเลจีนใต้ โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศสู่ขั้นใหม่ จีนญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ต่างก็เป็นประเทศริมฝั่งมหาสมุทร สองประเทศจะกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทะเล
ปีนี้เป็นครบรอบ 60 ปีการสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ การที่ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เยือนญี่ปุ่นในเวลานี้ที่แท้จริงแล้วเป็นเรื่องน่ายินดียิ่ง ทว่าว่าวงการการเมืองและสื่อมวลชนญี่ปุ่นกลับให้ความสำคัญกับการให้ฟิลิปปินส์ร่วมมือกับสหรัฐฯ เพื่อด่วงดุลกับจีน ด้วยแนวคิดสงครามเย็นที่ว่านี้ ญี่ปุ่นจึงสงสัยว่า นายดูเตอร์เตเป็นศัตรูหรือมิตรกันแน่ เขาจะเป็นประธานาธิบดีที่ใกล้ชิดกับจีน คัดค้านสหรัฐฯ และห่างจากญี่ปุ่นหรือผู้อำนวยการบริษัท NHK ประจำกรุงมะนิลาวิเคราะห์ว่า
กล่าวโดยรวมแล้ว ฟิลิปปินส์ให้ความสำคัญกับญี่ปุ่น และหวังจะพัฒนาความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นด้วยมูลเหตุ 2 ประการ คือด้านเศรษฐกิจ ฟิลิปินส์หวังจะได้รับความช่วยเหลือทั้งจากญี่ปุ่นและจีน แต่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วฟิลิปปินส์เพิ่งได้รับเงินช่วยเหลือจากจีนมหาศาล เพราะฉะนั้นจึงมีความปรารถนาต่อจีนมากกว่าญี่ปุ่น อีกประการหนึ่งคือปัจจัยด้านความมั่นคง ซึ่งฟิลิปปินส์กับญี่ปุ่นได้พัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงอย่างดีในด้านนี้ จึงหวังจะรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับญี่ปุ่นในด้านนี้ด้วย
(Toon/cici)