เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมนี้ นายพิริยะ เข็มพล เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอที่กรุงปักกิ่งเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง "ที่จีนเป็นผู้ริเริ่ม
นายพิริยะ เข็มพลกล่าวว่า "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" เป็นความริเริ่มที่เป็นประโยชน์อย่างมากต่อภูมิภาคและทั่วโลก เพราะว่าทุกประเทศทั่วโลกต้องการพัฒนาประเทศให้พ้นจากสิ่งที่เรียกว่า Middle Income Trap (กับดักรายได้ปานกลาง ) รวมทั้งประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคเอเชียด้วย เป็นไปไม่ได้เลยถ้าไม่มีนวัตกรรม ไม่มีการลงทุน เพราะฉะนั้น การที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้ประกาศแนวคิด "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง"นั้นเป็นโอกาสอันดีสำหรับประเทศต่างๆ ที่จะก้าวพ้นการอยู่ในกับดักของเศรษฐกิจ เนื่องจากไม่สามารถที่จะพัฒนาให้เกิดการมีรายได้ที่สูงขึ้นได้ ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น จีนในขณะนี้เป็นประเทศที่กำลังมีการพัฒนานวัตกรรมสูงมาก มีทั้งนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ เศรษฐกิจ การศึกษา และอื่นๆ เพราะฉะนั้น การประกาศแนวคิดนี้ขึ้นมาสอดคล้องกับความต้องการของโลกและภูมิภาค
ขณะนี้ เศรษฐกิจในสหรัฐฯ และยุโรปกำลังตกต่ำ เขาก็ต้องการแรงผลักดันให้เศรษฐกิจของเขากระเตื้องขึ้น ด้วยเหตุนี้ การเกิดของแนวคิดหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางจึงสอดคล้องกับสภาวการณ์ของโลก ทั้งภูมิภาคตะวันออกและตะวันตก
นายพิริยะ เข็มพลกล่าวว่า ถ้ามองที่ประเทศไทย ขณะนี้ไทยกำลังเข้าสู่ความเป็นหนึ่งเดียวในภูมิภาคอาเซียน ไทยเป็นสะพานเข้าสู่ภูมิภาคอาเซียน และอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง เป็นสะพานเข้าสู่ทุกที่ เพราะฉะนั้น การเกิดขึ้นของแนวคิดหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ประเทศไทยก็รองรับได้พอดี ไทยมีนโยบายไทยแลนด์ 4.0 มีนโยบายดิจิตอลไทยแลนด์ ประจวบเหมาะกับการเกิดขึ้นของความคิดริเริ่มของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงที่จะให้มีการติดต่อสองทางระหว่างจีนและภูมิภาค จะนำมาซึ่งการลงทุน การออกไปสู่โลกภายนอกของนักธุรกิจจีนซึ่งมีศักยภาพสูง รวมทั้งการเปิดให้นักธุรกิจไทยซึ่งมีศักยภาพเข้ามาทำมาค้าขายและลงทุนในประเทศจีนด้วย มันเป็นเรื่องของสองทาง เส้นทางสายไหมในสมัยใหม่ในยุคปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเส้นทางสายไหมทางบก หรือเส้นทางสายไหมทางทะเล ต่างก็ช่วยเหลือเกื้อกูลประเทศไทยและภูมิภาคอย่างยิ่ง
ไทยนอกจากมีนโยบายรองรับแนวคิดหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของท่านประธานาธิบดีจีนแล้ว ยังมีโครงการใหญ่ๆไว้รองรับเลย เช่นโครงการในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ อีอีซี พร้อมกับการเกิดขึ้นของเขตเศรษฐกิจหลายๆ จุดในทั่วประเเทศไทย เพราะฉะนั้น โครงการใหญ่ๆ เหล่านี้รองรับการเข้ามาของโครงการลงทุนด้านนวัตกรรมของจีน และของต่างประเทศทั่วโลกได้ แต่ขณะนี้ เรามองมาที่จีนมากกว่า เพราะว่า หนึ่ง อยู่ใกล้กับจีน สอง มีนโยบายสอดคล้องกัน คือ แนวคิดหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ความประจวบเหมาะทำให้การมีโครงการรองรับ ทำให้ไทยสามารถที่จะได้รับประโยชน์จากแนวคิดหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางอย่างมาก
นายพิริยะ เข็มพลทิ้งท้ายว่า ไทยต้องการการลงทุนเพื่อการพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยี แนวคิดหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางก็เป็นโอกาส แนวคิดนี้มาพร้อมกับความก้าวหน้าของจีนในเรื่องนวัตกรรม เพราะฉะนั้น การลงทุนด้านนวัตกรรมจากจีนจะช่วยนโยบายไทยแลนด์ 4.0ได้
(IN/cai)
