ปีหลังๆนี้ จีนเกิดกระแสนิยมพากันทัศนศึกษาต่างประเทศขึ้นมา ช่วงนี้ใกล้จะถึงช่วงปิดเทอมฤดูร้อนของจีนแล้ว พ่อแม่ต่างๆที่คิดจะส่งลูกไปทัศนศึกษาต่างประเทศในช่วงนี้ก็พากันวางแผนแล้ว
เมื่อเดือนธันวาคมปี 2016 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 11 หน่วยงาน รวมถึงกระทรวงศึกษาธิการจีน ได้ร่วมกันให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการส่งเสริมการทัศนศึกษาของนักเรียนชั้นมัธยมและชั้นประถม โดยเรียกร้องให้พื้นที่ต่างๆในจีนให้ความสำคัญกับการทัศนศึกษามากยิ่งขึ้น และส่งเสริมให้พัฒนาการจัดทัศนศึกษาให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากการสนับสนุนด้านนโยบายแล้ว การที่รายได้ครอบครัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและแนวคิดการอบรมสั่งสอนของพ่อแม่ค่อยๆเปลี่ยนแปลงนั้น ต่างก็เป็นสาเหตุที่ทำให้รายการ "การท่องเที่ยว+การศึกษา" นับวันเป็นที่นิยมมากขึ้น
เมื่อเร็วๆนี้ เว็บไซต์ถูหนิว ซึ่งเป็นเว็บไซต์บริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์ที่มีชื่อเสียงของจีนประกาศรายงานผลการสำรวจและผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการทัศนศึกษาต่างประเทศของจีนปี 2017 โดยมีการวิเคราะห์อย่างละเอียด
ผลการสำรวจปรากฏว่า ครอบครัวที่มีรายได้ปีละ 2 แสนหยวน (ประมาณ 1 ล้านบาท) ขึ้นไป เป็นกลุ่มที่หวังจะส่งลูกไปทัศนศึกษามากที่สุด ถึงเป็นครอบครัวที่มีรายได้ค่อนข้างน้อย แต่ก็ปรารถนาที่ให้ลูกไปทัศนศึกษา
สถิติของเว็บไซด์ถูหนิวระบุว่า ขณะนี้ ลูกค้ากำลังแห่กันจองทัวร์เพื่อไปทัศนศึกษาต่างประเทศ จนถึงขณะนี้ รายการทัศนศึกษาที่ได้รับความนิยมอย่างมากรวมถึง "การทัศนศึกษาที่ฝั่งทะเลตะวันออกและตะวันตกและสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงของสหรัฐฯเป็นเวลา 12-14 วัน" "การไปทัศนศึกษาที่รัฐแคลิฟอร์เนียและเมืองซานดิเอโกสหรัฐฯเป็นเวลา 15 วัน" "การไปทัศนศึกษาในโรงเรียนอังกฤษเป็นเวลา 15 วัน" และ "การไปทัศนศึกษาที่แคนาดาเป็นเวลา 16 วัน" เป็นต้น ผู้รับผิดชอบที่เกี่ยวข้องของเว็บไซด์ถูหนิวระบุว่า หากพิจารณาจากประสบการณ์ในอดีตและสภาพปัจจุบัน คาดว่า ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนปีนี้จะมีเด็กไปทัศนศึกษาต่างประเทศจำนวนมากในช่วงตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม