สถิติจากเว็บไซด์ถูหนิวยังระบุว่า รอบปีที่แล้ว ในบรรดาลูกค้าที่ไปทัศนศึกษาต่างประเทศ เป็นหญิง 56% และชาย 44% หากแยกตามระดับการศึกษา 49% เป็นนักเรียนชั้นมัธยมต้น และ 24% เป็นชั้นมัธยมปลาย สองกลุ่มนี้รวมแล้วคิดเป็น 73% ซึ่งแสดงให้เห็นว่า คนที่ไปทัศนศึกษาต่างประเทศส่วนใหญ่เป็นเยาวชน 11% เป็นนักเรียนชั้นประถม ที่นับวันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และ 6% เป็นเด็กในโรงเรียนอนุบาล ซึ่งเป็นสัดส่วนไม่มาก เนื่องจากอายุยังน้อยมาก พ่อแม่ส่วนใหญ่เป็นห่วง ไม่กล้าส่งลูกไปต่างประเทศตามลำพัง
ด้านวัตถุประสงค์ที่ไปทัศนศึกษา 65% เพื่อไปเพิ่มความรู้และประสบการณ์ 58% เพื่อเพิ่มความสามารถในการใช้ภาษาต่างประเทศ 55% เพื่อฝึกความสามารถในการอยู่คนเดียวและจัดการปัญหาด้วยตนเอง 52% เพื่อสัมผัสกับวัฒนธรรมที่ต่างกัน ในกลุ่มนักเรียนที่ไปทัศนศึกษาต่างประเทศ 62% ไปกับเพื่อน 25% ไปคนเดียว 13%ไปกับครอบครัว
สิ่งที่น่าสังเกตคือ ขณะที่การแข่งขันในการทำงานมีความรุนแรงยิ่งขึ้น พนักงานจำนวนหนึ่งก็หวังจะไปเพิ่มความรู้ความสามารถโดยผ่านการทัศนศึกษาต่างประเทศด้วย ในรอบปีที่แล้ว ผู้บรรลุนิติภาวะที่ไปทัศนศึกษาต่างประเทศคิดเป็น 7% รายการ "ทัศนศึกษาสำหรับผู้บรรลุนิติภาวะที่นครนิวยอร์กสหรัฐฯ" และ"ทัศนศึกษาบาริสต้าออสเตรเลีย" ของเว็บไซด์ถูหนิวล้วนได้รับความนิยมอย่างมาก
สำหรับคนที่ไปทัศนศึกษาต่างประเทศนิยมไปที่ใดบ้าง?ปัจจัยที่ต้องพิจารณาคงมีหลายด้าน รวมถึงบรรยากาศทางวัฒนธรรม การกระจายของสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงโด่งดัง สภาพภูมิอากาศ ความสะดวกในการทำวีซ่า ความสงบเรียบร้อยของสังคม และค่าใช้จ่าย เป็นต้น