รองลงมาจากมณฑลกว่างตงคือ มณฑลฝูเจี้ยน ซึ่งเป็นอันดับที่ 4 เมืองที่มีรายได้เฉลี่ยต่อคนสูงสุดของฝูเจี้ยน คือ เมืองเซี่ยเหมิน 46,254 หยวน อยู่อันดับที่ 14 ในเมืองทั้งหมด 71 เมืองของ 5 มณฑลดังกล่าว ซึ่งในมณฑลฝูเจี้ยน มีเพียงเมืองเซี่ยเหมินแห่งเดียวเท่านั้นที่มีรายได้เฉลี่ยต่อคนเกินสี่หมื่นหยวน
เมืองรวยอันดับที่ 2 ของฝูเจี้ยน คือเมืองเฉวียนโจว มีรายได้เฉลี่ยต่อคน 39,656 หยวนเมื่อปีที่แล้ว เท่ากับระดับภาคกลางของมณฑลเจียงซู และเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองในการพัฒนาธุรกิจภาคเอกชน ส่วนเมืองฝูโจว เมืองเอกของมณฑลฝูเจี้ยน มีรายได้เฉลี่ยต่อคน 37,833 หยวน อยู่อันดับที่ 3 ของมณฑลดังกล่าว นอกเหนือจาก 3 เมืองดังกล่าวนี้ เมืองอื่นๆ อีก 6 เมืองของฝูเจี้ยน ล้วนมีรายได้ต่ำกว่าระดับเฉลี่ยทั่วประเทศ
เขตที่สภาพเศรษฐกิจค่อนข้างดีในมณฑลฝูเจี้ยนสู้มณฑลเจ้อเจียงไม่ได้ แต่ก็ไม่ล้าหลัง โดยภาพรวมแล้ว สภาพของมณฑลฝูเจี้ยนคล้ายกับมณฑลกว่างตง คือในฝูเจี้ยน มีเมืองเซี่ยเหมิน เมืองเฉวียนโจว และเมืองฝูโจวเพียง 3 เมืองที่รายได้สูงกว่าระดับเฉลี่ยทั่วประเทศ แต่ 3 เมืองดังกล่าวเป็นเมืองใหญ่สามอันดับแรกของมณฑลฝูเจี้ยน จีดีพีของ 3 เมืองดังกล่าวคิดเป็นประมาณ 60% ของจีดีพีทั้งมณฑล และในมณฑลฝูเจี้ยน มีเพียง 3 เมืองนี้เท่านั้น ที่มีประชากรประจำอยู่เกินหนึ่งล้านคน ด้วยเหตุนี้ 3 เมืองดังกล่าวจึงถือเป็นกำลังสำคัญด้านรายได้เฉลี่ยต่อคนของมณฑล
อีกด้านหนึ่ง ทางตอนใต้มณฑลฝูเจี้ยนมีเศรษฐกิจภาคเอกชน เป็นกำลังหลักเช่นเดียวกันมณฑลกว่างตง โดยอำเภอจิ้นเจียง ซึ่งโด่งดังเรื่องธุรกิจปั่นทอ มีรายได้เฉลี่ยต่อคน 42,597 หยวน อยู่ใน 10 อันดับแรกของ "อำเภอเข้มแข็งของจีน 100 แห่ง"
สิ่งที่น่าสังเกตคือ แม้สถิติของมณฑลฝูเจี้ยนไม่สะดุดตามากนัก แต่ระดับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวฝูเจี้ยนนับว่าไม่แพ้ใคร เพราะว่า สถิติรายได้เฉลี่ยต่อคน ส่วนใหญ่จะเป็นรายได้จากการทำงานประจำ ส่วนรายได้จากธุรกิจค้าขายส่วนบุคคล ยากที่จะได้รับบันทึกในสถิติอย่างครบถ้วน ที่จริงแล้ว ในฝูเจี้ยนมีผู้ประกอบธุรกิจการค้าส่วนบุคคลจำนวนมาก แม้ว่ายอดเศรษฐกิจของมณฑลฝูเจี้ยนคิดเป็นอันดับที่ 12 ของทั่วประเทศ แต่จำนวนนักธุรกิจผู้ร่ำรวยที่สุดในมณฑลนี้อยู่อันดับที่ 5 ของจีน