ช่วงเวลาหลังเทศกาลตงจื้อ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการบำรุงสุขภาพ เนื่องจากชาวจีนเชื่อกันว่า ฤดูหนาวนั้น ชีวิตของสิ่งต่างๆ จะเริ่มเปลี่ยนจากเหี่ยวแห้งไปเป็นเจริญงอกงาม จากสงบไปเป็นคึกคัก ฉะนั้น หากสามารถบำรุงสุขภาพตามหลักวิทยาศาสตร์ จะเป็นประโยชน์ในการรักษาสุขภาพ ป้องกันความเสื่อมโทรมเร็วเกิน และให้ชีวิตยืนยาวขึ้น แม้จะเป็นฤดูหนาว แต่อาหารการกินยิ่งต้องให้ความสำคัญกับการประกอบสารอาหารต่างๆ ต้องมีข้าว ผลไม้ เนื้อสัตว์และผักหลายชนิด โดยเฉพาะอาหารที่มีแคลเซียมสูง

เทศกาลตงจื้อ มีประเพณีเซ่นไหว้บูชาบรรพบุรุษตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ประเพณีดังกล่าว ปัจจุบันยังคงมีให้เห็นในแถวแต้จิ๋วเท่านั้น ชาวแต้จิ๋วจะกล่าวว่า เทศกาลตงจื้อสำคัญกว่า "เทศกาลตรุษจีนด้วยซ้ำ" "หากไม่กลับบ้านในวันเทศกาลตงตื้อ เท่ากับเป็นคนที่ไม่มีบรรพบุรุษ" ความเชื่อถือนี้ ยังมีอยู่ในไต้หวันด้วย พี่น้องร่วมชาติชาวไต้หวันก็ให้ความสำคัญกับวันตงจื้อเช่นกัน ถือว่าเป็นเทศกาลรวมสมาชิกครอบครัวอยู่ด้วยกัน

ชาวแต้จิ๋วในเทศกาลตงจื้อนี้ ต้องทำบัวลอย บัวลอยนี้จะทำจากถั่วเขียว ถั่วแดง ฟักและเผือก 4 ชนิด ซึ่งเป็นไส้ 4 อย่าง เวลาทำบัวลอยต้องมีสัญลักษณ์แสดงว่าบัวลอยลูกนี้เป็นไส้อะไร หลังจากต้มเสร็จแล้ว เวลาใส่ถ้วยต้องมีบัวลอยไส้ต่างๆ ครบทุกอย่าง หลังจากกินบัวลอยแล้ว ยังจะนำบัวลอยที่เหนียวๆ นี้ไปติดอยู่หน้าประตู หน้าต่าง โต๊ะอาหาร บันได และเตียง จนกระทั่งหัวเรือหรือเขาควายด้วย เพื่อความสิริมงคลและขอพรให้ครอบครัวมีความสุขความปลอดภัยตลอดกาล

แต่ภาคเหนือของจีน มักจะรับประทานเกี๊ยวในเทศกาลตงจื้อ ไม่ว่ามหาเศรษฐีหรือคนยากจน ต้องมีเกี๊ยวให้ทานในเทศกาลสำคัญ คนทางเหนือจะชอบมาก แต่สำหรับคนในภาคใต้อาจจะรู้สึกเฉยๆ ไม่คิดว่ามีอะไรแปลกใหม่

Yim/Ping