พอย่างเข้าสู่เทศกาล "ต้าเสวี่ย" แล้ว พื้นที่ส่วนใหญ่ของจีนก็จะเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเต็มตัว โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน จะมีอุณหภูมิติดลบกว่า 10 องศา ส่วนพื้นที่ในแถบลุ่มแม่น้ำฮวงโหและกรุงปักกิ่งจะอยู่ที่ประมาณ 0 องศา และหากมีหิมะตก บนพื้นก็จะหลงเหลือกองหิมะให้เห็น แต่สำหรับพื้นที่ภาคใต้ของจีน โดยเฉพาะเมืองกวางเจาและแถบดินดอนสามเหลี่ยมแม่น้ำจูเจียง จะยังคงมีต้นไม้เขียวขจีให้เห็นได้เหมือนตอนหน้าร้อน และยากที่จะมีหิมะตก แต่จะมีหมอกลงบ่อยครั้งมากกว่า ซึ่งมักจะมีหมอกในตอนกลางคืนหรือช่วงเช้าตรู่ เรียกว่า "หมอกรังสี" จะแผ่กระจายไปทั่วและค่อยๆ จางหายหมดไปในตอนเช้า ซึ่งช่วงบ่ายจะมีความรู้สึกอบอุ่นขึ้นด้วย
ทราบกันดีว่า กระแสลมหนาวที่พัดมาจะก่อให้เกิดหิมะตกหนักจนกระทั่งเป็นพายุหิมะด้วย แม้ว่ามีผลดีหลายอย่าง เช่น แก้ปัญหาความแห้งแล้ง ฆ่าแมลงในนา และสามารถจัดกิจกรรมท่องเที่ยวในฤดูหนาว เป็นต้น แต่หิมะตกหนักจะทำให้ถนนลื่น เพราะหิมะที่ละลายจะกลายเป็นน้ำแข็ง และมักจะทำให้เกิดปัญหาการเดินทางต่างๆ เช่น เครื่องบินดีเลย์ เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน หรือการคมนาคมติดขัด บางพื้นที่ที่มีหิมะตกหนักจะทำให้ต้องปิดถนน โดยเฉพาะในเขตภูเขาหรือเขตปศุสัตว์ ชาวบ้านเรียกว่า "ภัยพิบัติสีขาว" จะเป็นภัยคุกคามต่อชีวติของมนุษย์และสัตว์เลี้ยงต่างๆ
ที่เมืองเปาโถว เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ผิวแม่น้ำจะจับตัวกลายเป็นน้ำแข็งหมด แม้ว่าตอนต้นแม่น้ำที่อาจอยู่ต่ำลงมาทางทิศใต้หน่อยจะยังเป็นน้ำไหลอยู่ แต่เมื่อตอนปลายกลายเป็นก้อนน้ำแข็งแล้วจึงเกิดปัญหาอุดตัน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำตอนต้นสูงขึ้น บางทีจะเกิดน้ำท่วม ฉะนั้น หากมีกระแสลมหนาวพัดมาเร็วหน่อย จะทำให้น้ำในแม่น้ำกลายเป็นน้ำแข็งในเวลาพอพอกันกลายเป็นผลดี แต่หากลมหนาวมาช้า อาจจะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในฤดูหนาวตอนเดือนธันวาคมด้วย
Yim/Ping