ธรรมเนียมเกี่ยวกับการเฝ้าปี คือ ชาวบ้านจะไม่เข้านอนในคืนวันสุดท้ายของปีเก่า ตามปฏิทินจันทรคติวันชิวอิดเป็นวันปีใหม่ของตรุษจีน ในวันส่งท้ายปีเก่าหลังจากร่วมกันรับประทานอาหารรวมญาติพี่น้องแล้ว จะไม่หลับนอนเพื่อรอต้อนรับปีใหม่ การเฝ้าปีในสมัยโบราณมีความหมายสองอย่าง คือ หากเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ การเฝ้าปีมีความหมายถึงการถนอมให้ความสำคัญกับวันเวลา หากเป็นคนหนุ่มสาวมีความหมายถึงการยืดอายุพ่อแม่ให้ยืนยาว การเฝ้าปีนี้จะเริ่มตั้งแต่การรับประทานอาหารมื้อค่ำ อาหารมื้อนี้จะรับประทานอย่างช้าๆ บางบ้านจะรับประทานไปเรื่อยๆ จนถึงดึกดื่นเที่ยงคืน
พอถึงวันชิวอิดหรือวันตรุษจีน ก็จะตื่นนอนแต่เช้า สวมเสื้อผ้าชุดใหม่ ออกจากบ้านไปเยี่ยมญาติและเพื่อน กล่าวคำอวยพรปีใหม่ให้กันและกัน การไปเยี่ยมญาติ มักจะเป็นผู้ใหญ่พาเด็กๆ ไปเยี่ยมญาติผู้สูงอายุ กล่าวคำอวยพรปีใหม่ให้กับผู้ใหญ่ด้วยถ้อยคำสิริมงคล ส่วนผู้ใหญ่จะให้ศีลให้พรกับลูกหลานตอบกลับไปเช่นกัน
พร้อมไปกับความพัฒนาก้าวหน้าของยุคสมัย ประเพณีการกล่าวอวยพรปีใหม่ให้แก่กันและกันระหว่างญาติพี่น้องและเพื่อนๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมด้วย นอกจากตามประเพณีดั้งเดิมแล้ว คนจีนรุ่นใหม่ยังนิยมอวยพรปีใหม่ผ่านเครื่องมือทันสมัย ส่งคำอวยพรปีใหม่ด้วยรูปแบบต่างๆ ผ่านมือถือ เช่น ส่งข้อความสั้นทางมือถือ ส่งผ่านวีแชท ส่งผ่านไลน์ เป็นต้น แม้ว่าได้เปลี่ยนวิธีการอวยพรปีใหม่ แต่จิตใจที่ต้องการให้ญาติพี่น้องและเพื่อนๆ มีความสุขนั้นไม่ได้เปลี่ยน
การติดแผ่นกลอนบนกระดาษแดงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดเสียมิได้ในช่วงตรุษจีน กลอนกระดาษแดงตรุษจีนนี้มีชื่อว่า กลอนคู่ ซึ่งจะติดที่สองข้างประตูของทุกบ้าน เป็นกลอนที่เขียนตัวอักษรจีนด้วยพู่กัน แฝงความหมายที่ว่าต้องการส่งมอบความปรารถนาดีให้แก่กัน