บุคคลที่มีชื่อเสียงของจีน—ตรุษจีน ๖
  2018-02-28 11:05:00  cri

กลอนคู่เป็นรูปแบบหนึ่งของวรรณกรรมจีนที่มีความพิเศษ โดยกลอนคู่นั้นจะเขียนบทกลอนลงบนกระดาษแดงสองชิ้น แล้วติดที่สองข้างของประตู เพื่อแสดงความปรารถนาดีในช่วงเทศกาลตรุษจีนของทุกปี ไม่ว่าเป็นในตัวเมือง หรือชนบท ทุกครอบครัวจะต้องเลือกกลอนคู่มาติดเพิ่มบรรยากาศให้กับเทศกาลเสมอ

อีกสิ่งหนึ่งที่นับว่าเก่าแก่ไม่แพ้กันก็คือเทพเจ้าเฝ้าประตู เทพเจ้าเฝ้าประตูนับเป็นผลงานภาพวาดเก่าแก่ของจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่ลัทธิเต๋าชื่น หรือแม้แต่ประชาชนคนจีนเองชื่นชอบมากที่สุด โดยจุดประสงค์ของการประดับเทพเจ้าเฝ้าประตู ก็เพื่อเป็นการไล่ภูติผีปีศาจ ป้องกันบ้านเรือน รักษาสันติภาพ และเพื่อความเป็นสิริมงคล

จริง ๆ แล้ว กลอนคู่กับเทพเจ้าเฝ้าประตูนั้น มีความเกี่ยวข้องกันในเทพนิยายโบราณของจีนเล่าต่อกันมาว่า มีโลกผี ในโลกผีมีภูเขา บนภูเขามีต้นท้อใหญ่ต้นหนึ่ง บนกิ่งไม้มีไก่ทองตัวหนึ่ง ไก่ทองขันในตอนเช้า ผีที่ออกไปในกลางคืนต้องกลับโลกของผี ซึ่งประตูของโลกผีอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของต้นท้อ ที่สองข้างของประตูมีสองคนชื่อ "เสินถู" (神荼) และ "วี่เหล่ย" (郁垒) เฝ้าอยู่ มีอยู่วันหนึ่ง ผีตนหนึ่งซึ่งมีฟันยาว ผมสีแดง และตาสีเขียว ขโมยลูกท้อที่อยู่บนต้น "เสินถู" และ "วี่เหล่ย" จึงใช้กิ่งต้นท้อตีผีตัวนี้ และส่งไปให้เสือกิน จากนั้นมา ภูตผีปีศาจกลัว "เสินถู" และ "วี่เหล่ย" มาก หลังจากสองคนนี้เสียชีวิตแล้วจึงกลายเป็นเทพเจ้าที่ปราบผีร้าย

ประชาชนจึงใช้ไม้ทอแกะสลักเป็นรูปของสองพระองค์ วางหน้าประตูบ้าน ต่อมาภายหลัง เมื่อประชาชนแกะสลักชื่อของ "เสินถู" และ "วี่เหล่ย" ลงบนแผ่นไม้ท้อ แล้วเห็นว่าสามารถใช้ขับไล่ภูตผีปีศาจได้เหมือนกัน จึงเรียกแผ่นไม้ท้อแบบนี้ว่า "ถาวฝู" (桃符)

ในสมัยก่อนสมัยราชวงศ์ถัง เทพเจ้าเฝ้าประตูไม่ใช่ "ฉินฉยง" และ "วี่ ฉือกง" แต่เป็น "เสินถู" และ "วี่เหล่ย" จนถึงสมัยจักรพรรดิถังไท่จง จึงนิยมติดภาพวาดของ "ฉินฉยง" และ "วี่ ฉือกง" แพร่หลายไปในประเทศ ทำให้ประชาชนเชื่อถือว่าสองท่านนี้เป็นเทพเจ้าเฝ้าประตู

นอกจากนี้ ประชาชนยังเชื่อว่า เทพเจ้าเฝ้าประตูนั้นเป็นสัญลักษณ์แห่งกำลัง และความยุติธรรม ซึ่งการจับ และขับไล่ภูตผีปีศาจนั้น เป็นหน้าที่ของพวกเขา เพราะฉะนั้น ภาพวาดของเทพเจ้าเฝ้าประตูจึงมีหน้าตาน่ากลัว ถืออาวุธอยู่ในมือ เหมือนจะต่อสู้ได้ทุกเวลา เนื่องจากในสมัยโบราณ ประตูของบ้านประชาชนจีนมีสองข้าง เทพเจ้าเฝ้าประตูจึงต้องมีสองท่าน

ต่อมาในสมัยราชวงศ์ซ่ง ประชาชนจีนไม่นิยมเขียนชื่อของเทพเจ้าเฝ้าประตูบนแผ่นไม้ท้ออีกแล้ว แต่เขียนบทกลอนแทน บทกลอนมีสองประโยค ซึ่งต้องมีตัวอักษรจำนวนเหมือนกัน และเป็นประโยคที่โครงสร้างเหมือนกัน มีเนื้อหาเป็นสิริมงคล ซึ่งถือว่าเป็นกลอนคู่ที่มีลักษณะเก่าแก่ที่สุด ต่อมาก็ได้เปลี่ยนแผ่นไม้ท้อเป็นกระดาษสีแดง เพื่อประดับประตู และเพิ่มบรรยากาศเทศกาล

ประเพณี และวัฒนธรรมของเทศกาลตรุษจีนมีอยู่มากมายหลายอย่าง บุคคลที่ได้กล่าวมามีนี้ความสำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของจีน โดยเฉพาะเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลใหญ่ที่สำคัญที่สุดของจีน แม้ว่าในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในตัวเมือง บรรยากาศการฉลองเทศกาลตรุษจีนจะมีการเปลี่ยนแปลง และต้องละเว้นประเพณีที่ไม่เหมาะสม เช่น การลดการจุดประทัดเพื่อรักษาสภาพแวดล้อม อย่างไรก็ตามชาวจีนก็ยังไม่ลืมวัฒนธรรมเก่าแก่ และบรรพบุรุษทุกท่าน ซึ่งพยายามต่อสู้เพื่อชีวิตของชาวรุ่นหลังให้ดีขึ้น

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040