ถ้าเด็กมีความเคยชินที่"ไม่ดี"3 อย่างนี้ แสดงให้เห็นว่าเมื่อเขาเติบโตขึ้นจะเป็นคนเก่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถอมยิ้มได้
ระหว่างกระบวนการเจริญเติบโตของเด็ก คุณพ่อคุณแม่เกือบทุกคนต่างคงหวังว่าลูกของตนจะเติบโตขึ้นเป็นคนเก่งที่มากความสามารถ ก็เหมือนสำนวนจีนว่า "วั่งหนี่ว์เฉิงเฟิ่ง วั่งจื่อเฉิงหลง" แปลว่า หวังว่าลูกสาวจะเป็นดั่งหงส์ ลูกชายจะเป็นดั่งมังกร คือคาดหวังว่าลูกจะประสบความสำเร็จในชีวิต แต่พร้อมไปกับการพัฒนาของสังคมจีนในปัจจุบัน ลูกหลานของแต่ละครอบครัวต่างก็เป็นดั่งองค์ชายองค์หญิงน้อยที่ได้รับการตามใจ จะตีและดุก็ไม่ได้ แต่เด็กก็ยังคงเป็นเด็ก ย่อมมีพฤติกรรมความเคยชินที่ไม่ถูกต้องอบรมสั่งสอน ซึ่งผู้ปกครองบางคนเมื่อพบเห็นความเคยชินที่ไม่ดีของลูกก็จะรีบห้ามปรามปรับแก้ทันที แต่มีความเคยชินที่"ไม่ดี"บางอย่างที่ลูกน้อยแสดงออกหมายถึงว่าพวกเขาสามารถเติบโตขึ้นเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากได้ด้วย ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองทั้งหลายมาทำความรู้จักกันก่อนว่า มีความเคยชิน"3 ไม่ดี"ของลูกแบบไหน ที่แสดงให้เห็นว่าเมื่อเขาเติบโตขึ้นจะเป็นคนยอดเยี่ยมมาก และทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถอมยิ้มได้
1. ความเคยชินที่"ไม่ดี"อย่างแรกก็คือ ลูกชอบแกะรื้อสิ่งของ
คุณผู้ฟังต่างก็รู้ว่า เด็กเล็กต่างมีความสนใจกับทุกสิ่งทุกอย่างที่พบเจอ และเด็กบางคนก็ถึงกับชอบหยิบจับแกะรื้อสิ่งของในบ้านเล่นยามที่คุณพ่อคุณแม่เผลอไม่ทันเห็นด้วย อย่างเช่น วันนี้แกะแยกชิ้นส่วนรีโมททีวี วันพรุ่งนี้ก็ไปแยกชิ้นส่วนนาฬิกาปลุก นอกจากนี้ ลูกก็อาจจะไปเปิดรื้อสิ่งของชิ้นใหญ่ อย่างเช่น รื้อตู้ลิ้นชักต่างๆในบ้านเป็นต้น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่เห็นแล้ว ก็คงอดโมโหไม่ได้ เพราะว่าหากของชิ้นนั้นประกอบคืนดังเดิมไม่ได้ ของชิ้นนั้นก็จะต้องเสียเงินซื้อใหม่
ความจริง การรื้อแกะสิ่งของเป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็นสิ่งรอบกายของเด็ก เพราะเด็กก็อยากจะรู้โครงสร้างของสิ่งของนี้ว่าเป็นอย่างไร ถ้าเด็กชอบรื้อแกะสิ่งของ คุณพ่อคุณแม่จะไปซื้อของเล่นที่เป็นบล็อกตัวต่อต่างๆ เช่น ของเล่นตัวต่อ "เลโก้" ให้ลูกเล่นก็ดี เพราะนอกจากจะตอบสนองความอยากรู้อยากลองของลูกได้แล้ว ยังช่วยเสริมพัฒนาการและจินตนาการได้อีกด้วย คุณพ่อคุณแม่อย่าดุลูกและขจัดความอยากรู้อยากเห็นของเด็กอย่างเด็ดขาด
รู้อย่างนี้แล้ว ดิฉันก็จะไม่ดุว่าลูกชาย "หมี่ตัว" ที่ชอบแกะรื้อของเล่นแล้ว หมี่ตัวอายุ 3 ขวบแล้ว และเป็นเด็กชายที่ชอบรถยนต์ ของเล่นรถยนต์ที่เราซื้อให้เขา เขาก็แกะรื้อเล่นทุกวัน ตอนที่ดิฉันเห็นภาพที่เขาแกะรื้อของเล่นรถยนต์ หรือว่าชิ้นส่วนของของเล่นรถยนต์กระจายไปอยู่ทุกที่ในบ้าน ดิฉันรู้สึกโมโหมาก เพราะว่าเพิ่งซื้อของเล่นใหม่ให้กับเขา กลับแกะรื้อเป็นชิ้น แล้วของเล่นรถยนต์นั้นก็เสียเล่นไม่ได้อีก ตอนนี้รู้ว่าไม่ใช่เรื่องไม่ดี หลังจากนี้ถ้าดิฉันได้เห็นเขาแกะรื้อของเล่นอีก ก็จะไม่โกรธและดุแล้ว เพราะรู้แล้วว่าการแกะรื้อสิ่งของเป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็นของเด็ก เขาอยากรู้ว่าโครงสร้างของสิ่งของนี้เป็นอย่างไร และลองค้นหาวิธีการทำงาน ไม่แน่ว่าในอนาคตลูกชายดิฉันจะกลายเป็นนักประดิษฐ์คนเก่งที่มากความสามารถก็เป็นได้ ดิฉันขอเป็นผู้ปกครองที่นั่งอมยิ้มดูพัฒนาการของลูกไปในทางที่ดีดีกว่า
2. ชอบขีดเขียนวาดภาพเล่น
คุณพ่อคุณแม่อาจจะกังวัลกับการที่ลูกน้อยชอบขีดเขียนเล่นบนผนังกำแพงมาก คุณผู้ฟังลองนึกภาพดูว่า ขณะที่คุณเลิกงานแล้วถึงกลับบ้าน พอเปิดประตูก็เห็นกำแพงถูกขีดเขียนเต็มไปหมด เชื่อว่าย่อมจะทำให้คุณพ่อคุณแม่โมโหมาก สำหรับเด็กการขีดเขียนบนผนังเป็นการแสดงออกทางความคิดของพวกเขา การที่พวกเขาขีดเขียนแสดงถึงสีสันต่างๆ ที่ตาของเด็กเห็น ซึ่งในสายตาของคุณพ่อคุณแม่คงรู้สึกว่าเป็นเพียงการขีดเขียนเล่นเลอะเทอะเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว นี่คือการแสดงออกถึงจินตนาการและความสามารถในการลงมือปฏิบัติของเด็ก และเป็นการพยายามสำรวจโลกอย่างต่อเนื่องของพวกเขา สำหรับลายเส้นเลอะเทอะบนผนัง หากคุณพ่อคุณแม่ยอมรับไม่ได้ ก็ต้องแก้ปัญหาด้วยการชักชวนลูกให้ขีดเขียนลงบนกระดาษแทน หรือว่าซื้อกระดานไวท์บอร์ดเพื่อให้เด็กวาดเล่นต่างลงบนกระดานไวท์บอร์ดโดยเฉพาะแทนค่ะ
3. ชอบพูดไม่หยุด
ในชีวิตประจำวันอาจมีเด็กบางคนมีความสามารถในการแสดงออกที่เด่นชัดเป็นพิเศษ แต่ก็มีบางคนที่ไม่ชอบพูดและเป็นเด็กเงียบๆ เด็กบางคนอาจจะตื่นเวที แต่ก็มีบางคนที่ชื่นชอบกล้าพูดกล้าทำเวลาเจอกับคนอื่นด้วย หากลูกของคุณเป็นเด็กที่ชอบพูดคุย ก็ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะแสดงให้เห็นว่าลูกของคุณเก่งในการพูด และมีแววว่าจะเก่งด้านภาษาค่ะ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องพยายามไม่ไปขัดจังหวะการพูดของเด็กขณะที่พวกเขากำลังสื่อสารถ่ายทอดความคิดของตน เพราะว่า การชอบพูดคุยเป็นการแสดงออกที่ยอดเยี่ยมของพวกเขาค่ะ
ความจริง ความเคยชินที่ดูเหมือน"ไม่ดี"เหล่านี้ บางอย่างของเด็กอาจจะเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับเด็กเมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น จะทำให้เขากลายเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากยิ่งขึ้น ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องมีความสามารถในการสังเกตและการตัดสินใจที่เหมาะสมขณะที่สั่งสอนลูก อย่าให้ความไม่เข้าใจต่อพฤติกรรมที่คิดว่า "ไม่ดี" บางอย่างมาขจัดพรสวรรค์ที่ควรมีของเด็ก
Yim/kt