50 ปีที่ผ่านมานี้หมู่บ้านหัวซีได้ค่อยพัฒนาจาก 10 ด้านด้วยกันคือ
หนึ่ง. การผลิตเสื้อผ้า จากเดินที่ผลิตเพื่อให้ชาวบ้านท้องถิ่นราว 50,000 คน ที่รวมทั้งชาวบ้านดั้งเดิมและผู้ย้ายถิ่นมาทำงานได้มีใช้กัน จนพัฒนาการเป็นการส่งออก และสร้างชื่อเสียงจนกลายเป็นแบรนด์ของตัวเอง โดยเฉพาะถุงเท้าคุณภาพดีที่ส่งออกไปจากหมู่บ้านหัวซี
สอง. การผลิตอาหาร ที่จากที่เคยอดอยากพัฒนาจนมีการกินอย่างดี และยังพัฒนาไปถึงการกำหนดคุณภาพอาหาร โดยมีการว่างจ้างนักโภชนาการมาให้ความรู้พ่อครัวและแม่บ้านในการประกอบอาหารที่เกิดประโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย ซึ่งไม่ว่าใน "จินถ่าโหลว" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์เก่า หรือ "เหวินฮว่าต้าโหลว" อาคารสูงเสียดฟ้าแห่งใหม่ของหมู่บ้านหัวซีก็ล้วนสามารถรับประทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการและมีรสชาติอร่อยได้เสมอ
สาม.บ้าน ที่พัฒนามาจากบ้านที่สร้างด้วยดิน จนเป็นอพาร์ตเม้นต์หลายชั้น และบ้านเดี่ยวแบบวิลล่า ซึ่งหมู่บ้านเป็นคนสร้างและจัดสรรให้กับชาวบ้านทุกคนว่าใครจะได้ไปอยู่ที่ไหน บ้านแบบไหน และบ้านทั้งหมดเป็นของหมู่บ้านจะทำการซื้อขายไม่ได้
สี่. คือเรื่องของการคมนาคม ที่เปลี่ยนจากการเดินมานั่งเรือ ขับรถ และปัจจุบันหมู่บ้านหัวซีมีเฮลิคอปเตอร์เป็นของตนเองถึง 2 ลำ และในปีหน้าจะซื้อเพิ่มอีก 3 ลำ เพื่อให้บริการการท่องเที่ยว รวมถึงการสร้างระบบขนส่งสาธารณะด้วยรถไฟฟ้านำเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิงแวดล้อมอีก 73 คัน ที่บริการชาวบ้านทั่วไปและนักท่องเที่ยว
ห้า.พัฒนาเรื่องการสื่อสารจากโทรศัพท์บ้านเป็นโทรศัพท์มือถือและอินเตอร์เน็ต
หก. การบันเทิง ซึ่งหมู่บ้านหัวซีได้สร้างสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีทะเลสาบและจำลองเอาสถาปัตยกรรมสำคัญๆ ทั้งของจีนและของโลกมาไว้ที่หมู่บ้านเชิงเขา เช่น กำแพงเมืองจีน พลับพลาเทียนอันเหมิน แนวระเบียงของพระราชวังฤดูร้อนอี๋เหอหย่วน ประตูชัยของฝรั่งเศส ซิดนีย์ โอเปร่าเฮ้าส์ และทำเนียบขาว เป็นต้น