เก่าเล่าไป ใหม่บอกมา:ตงจื้อ- วันเทศกาลกินเกี๊ยว!
  2011-12-23 16:05:56  cri

ตงจื้อ หรือ ตงเจี๋ย ในสำเนียงจีนกลาง ตรงกับวันที่ 17 เดือน 11 ตามปฏิทินจันทรคติจีนของทุกปี (สำหรับปีนี้ตรงกับวันที่ 22 ธันวาคม) โดยวันตงจื้อนี้จะเป็นวันที่พระอาทิตย์ส่องแสงตรงกับเส้นรุ้งที่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรของโลก23องศา27ลิปดาไปทางใต้ ทำให้ซีกโลกเหนือมีช่วงกลางวันสั้นกลางคืนยาวนานที่สุดในรอบปี ซึ่ง "ตงจื้อ" มีความหมายว่า "หน้าหนาวมาถึงแล้ว" โดยชาวจีนทางเหนือจะนิยมรับประทาน "เกี๊ยวต้ม" เพื่อกันไม่ให้หูจับแข็งจนหลุดเพราะความหนาว ซึ่งที่มาของความเชื่อนี้มีอยู่ว่า

ในอดีตสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก มีหมอชื่อดังคนหนึ่งนามว่า จางจ้งจิ่ง เป็นชาวเมืองหนานหยาง มณฑลเหอหนาน ต่อมาภายหลังลาออกจากตำแหน่งขุนนาง ด้วยเหตุผลที่ว่าต้องการนำวิชาความรู้ที่ตนมีกลับไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ตกทุกข์ได้ยาก โดยระหว่างที่เดินทางกลับบ้านเกิดนั้นประจวบเหมาะกับเป็นช่วงฤดูหนาว เขาเห็นชาวบ้านริมสองฝั่งแม่น้ำไป๋เหอ มีใบหน้าเหลืองซีดร่างกายซูบผอม และต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสกับสภาพอากาศที่เหน็บหนาว หลายคนโดนพิษความหนาวกัดใบหูจนเป็นแผล

จางจ้งจิ่ง จึงสั่งให้บริวารจัดการกางเต้นท์ แล้วตั้งหมอขนาดใหญ่ต้มน้ำแกงขับไล่ความหนาวออกแจกจ่าย โดยนำเนื้อแพะ พริก และสมุนไพรจีนที่มีสรรพคุณขับไล่ความหนาวใส่ลงต้มพร้อมกัน หลักจากนั้นตักเนื้อแพะและสมุนไพรที่ต้มออกมาสับ แล้วนำแป้งมาห่อรูปลักษณ์คล้ายใบหู พอต้มสุกแล้วก็แจกจ่ายให้กับชาวบ้านคนละ 2 ชิ้นพร้อมกับน้ำซุปร้อนๆ เพื่อดื่มขับไล่ความหนาวอีกหนึ่งถ้วย เมื่อชาวบ้านรับประทานเข้าไปต่างรู้สึกว่าร่างกายอบอุ่น และร้อนจนถึงใบหู นานวันเข้าแผลช้ำจากพิษความหนาวก็ค่อยๆ หายดี จนเป็นที่มาของการกินเกี๊ยวเพื่อขับไล่ความหนาว พร้อมกับเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของ "หมอเทวดาจางจ้งจิ่ง" ซึ่งไส้เกี๊ยวที่ชาวจีนนิยมรับประทานกันนั้น ได้แก่

ไส้เนื้อแพะ+แครอท โดยแครอทมีสรรพคุณช่วยต่อต้านการเกิดโรคหัวใจ ลดความดันโลหิตสูง ป้องกันโรคหลอดเลือดแข็งตัว และยังช่วยการทำงานของอวัยวะตับในการขับแอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย ส่วนเนื้อแพะช่วยบำรุงเลือด และไต ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องเลือดจาง ปวดเอว ปวดข้อเข่า และปัสสาวะบ่อยในผู้สูงอายุ หรือหญิงสาวที่มีปัญหาเรื่องปวดประจำเดือน

ไส้หมู+เห็ดหูหนู+หัวไชเท้า โดยหัวไชเท้ามีสรรพคุณบำรุงม้าม ช่วยย่อยและลดเสมหะ เห็ดหูหนูช่วยบำรุงเลือดลม ช่วยขับถ่าย ลดความเข้มข้นของกระแสเลือด ลดระดับคอเลสเตอรอล ซึ่งเหมาะสำหรับการบำรุงรักษาไตในช่วงหน้าหนาว

ไส้เกาลัด+รากบัว ซึ่งไส้นี้จะแตกต่างกับไส้อื่นเพราะเป็นไส้หวาน โดยรากบัวมีสรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจ สร้างเม็ดเลือด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของม้ามและกระเพาะอาหาร ส่วนเกาลัดนอกจากช่วยบำรุงม้ามและกระเพาะอาหารแล้ว ยังสามารถบำรุงตับและไต เพิ่มความแข็งแรงให้กระดูกและกล้ามเนื้อ

สำหรับคนธาตุเย็นหลังทานเกี๊ยวไส้หมูแล้ว ตามด้วยแอปเปิ้ลก็จะช่วยบำรุงม้ามและกระเพาะ แต่ถ้าเป็นคนธาตุร้อนหลังทานไส้เนื้อแพะหรือเนื้อวัวแล้ว ทานสาลี่หรือส้มโอจะช่วยลดความร้อนในร่างกายได้ หรือถ้าเจริญอาหารกินมากจนแน่นกระเพาะเกิน ทานผลกีวีก็จะช่วยในเรื่องการย่อย โดยควรทานผลไม้หลังผ่านไปแล้วครึ่งชั่วโมงจึงจะดี

นอกจากนี้ควรระวังในเรื่อง หลังจากรับประทานเกี๊ยวแล้วไม่ควรดื่มน้ำชาตามมากๆ เนื่องจากใบชามีสารที่เมื่อไปรวมตัวกับโปรตีนจากเนื้อสัตว์แล้ว จะลดประสิทธิภาพการทำงานดูดซึมของลำไส้ ทำให้เกิดอาการท้องอืดจุกเสียด และกระทบถึงระบบขับถ่ายอีกด้วย

เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040