ในช่วงเกือบ 1 เดือนตั้งแต่ฟิลิปปินส์ใช้ปฏิบัติการก่อกวนที่บริเวณเกาะหวงเหยียน แทนที่สถานการณ์จะสงบลง กลับตึงเครียดมากขึ้นจากการยั่วยุของฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา นางฟู่ อิ๋น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนนัดพบกับอุปทูตฟิลิปปินส์ประจำจีนอีกครั้ง โดยเตือนว่า จีนได้เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดยิ่งขึ้น
นายหยาง ซีอวี่ นักวิจัยสถาบันวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของจีนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า การนัดพบของนางฟู่ อิ๋นเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมาสื่อให้เห็นถึงความหมาย 2 ประเด็น อันได้แก่ ประการแรก จีนถือการคุ้มครองอธิปไตยเหนือดินแดนเป็นอันดับแรก หากฟิลิปปินส์ทำตามความคิดเห็นของตนเองโดยไม่ฟังคำทักท้วงของผู้อื่น จีนก็พร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่ซับซ้อน หรือตึงเครียดยิ่งขึ้น คำกล่าวทางการทูตนี้แท้ที่จริงก็คือการเตือนระดับสูงสุด ประการที่สองคือ แสดงให้ฟิลิปปินส์เห็นว่า จีนยินดี และหวังจะแก้ปัญหาเกาะหวงเหยียนด้วยสันติวิธี
การที่ฟิลิปปินส์ใช้ปฏิบัติการย่อยๆ บ่อยครั้งย่อมไม่สามารถเปลี่ยนเจ้าของเกาะหวงเหยียน จีนมีอธิปไตยเหนือเกาะหวงเหยียนโดยมีหลักฐานทางกฎหมายอย่างเต็มที่ จีนเป็นประเทศแรกที่พบ และตั้งชื่อเกาะหวงเหยียน และก็เป็นประเทศแรกที่ระบุเกาะหวงเหยียนไว้ในแผนที่ของตน บริเวณน่านน้ำเกาะหวงเหยียนเป็นเขตที่ชาวประมงของจีนจับปลากันมาตั้งแต่โบราณกาล ส่วนฟิลิปปินส์กลับแสดงหลายครั้งว่า เกาะหวงเหยียนไม่ได้เป็นดินแดนของตน เมื่อเร็วๆ นี้ นายหลิว เว่ยหมิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเคยระบุอย่างชัดแจ้งว่า ก่อนปี 1997 ฟิลิปปินส์ไม่เคยมีความเห็นต่างกันเกี่ยวกับอธิปไตย และการพัฒนาเพื่อใช้ประโยชน์เกาะหวงเหยียน แผนที่ฟิลิปปินส์ฉบับปี 1981 และ 1984 ก็ระบุอย่างชัดเจนว่า เกาะหวงเหยียนไม่ได้เป็นดินแดนของฟิลิปปินส์
(In/cici)