เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เขียนถึงสถานการณ์แรงงานอพยพจีนในเมืองใหญ่และมีผลสำรวจตัวชี้วัดเกี่ยวกับความสุข ความพอใจและความฝันในชีวิตของแรงงานอพยพจีนเหล่านี้ ซึ่งสะท้อนได้อย่างมีความหมายยิ่งกับการดำรงอยู่และความหมายของชีวิตมนุษย์ที่เกิดมาเหมือนกัน แต่ทำไมจึงมีโอกาสและทางเลือกแตกต่างกัน (หากท่านผู้อ่านอยากทราบถึงผลสำรวจ สามารถอ่านย้อนหลังได้ใน ปักกิ่งเพลินเพลิน "คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยากของแรงงานอพยพจีนในเมืองใหญ่" ประจำวันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม 2555)
ขณะเดียวกัน เมืองจีนก็กำลังเปิดกว้างและอ้าแขนต้อนรับชาวต่างชาติที่มีทักษะและเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากมาย ปัจจุบันการอพยพหลั่งไหลจากชาวต่างชาติจากทั่วทุกสารทิศเพื่อมาหางานทำในเมืองจีนนั้นมีมากขึ้นหลายเท่าตัว เนื่องจากจีนมีนโยบายอำนวยความสะดวกและต้อนรับชาวต่างชาติที่เชี่ยวชาญเพื่อมาทำงานหรือทำธุรกิจ เมื่อเร็วๆ นี้ ทางการได้ประกาศในการพิจารณาออกกรีนการ์ดให้กับชาวต่างชาติที่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่เคยสร้างคุณูปการและพัฒนาประเทศ รวมถึงการออกและจัดการโควต้าให้กรีนการ์ดกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่เริ่มทำงานในจีนด้วย แต่ต้องขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและเงื่อนไขซึ่งอยู่ภายใต้การพิจารณาร่วมกันของหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบและผู้ว่าจ้างงานด้วย
ยิ่งวิกฤตเศรษฐกิจเกิดขึ้นทั่วโลก บางประเทศเกิดภาวะสูญญากาศและเกิดการว่างงานสูงถึงร้อยละ 50 ทำให้คนหนุ่มสาวจากประเทศต่างๆ จากยุโรป หรือฝั่งอเมริกาที่เพึ่งจบการศึกษาต่างเข้ามาทำงานในเมืองจีนมากขึ้น จากการสัมภาษณ์ชาวต่างชาติที่ตัดสินใจมาหางานทำที่นี่นั้น ในตอนแรกพวกเขาก็รู้สึกแปลกและค่อนข้างจะตัดสินใจยากในการมาทำงานที่จีน พอมาถึงเมืองจีน สิ่งแรกที่ได้รับคือ การเสนอการจ้างงานอย่างน้อย 2-3 งานจากหลายบริษัท และเพียงแค่ 2-3 วัน พวกเขาก็ได้งานทำโดยมีสวัสดิการที่น่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็น การได้ตั๋วเครื่องบินไป-กลับประเทศอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง การได้เงินสนับสนุนค่าที่พักในจีน ประกันสุขภาพ เป็นต้น รวมทั้งได้มีโอกาสเรียนรู้ชีวิตในต่างแดนที่มีวัฒนธรรมอันหลากหลาย ยังได้ท่องเที่ยวในจีนและประเทศต่างๆ ในเอเชียได้อย่างสะดวกสบายและราคาถูกกว่าจากประเทศของตน
ทางการจีนไม่ได้เกรงว่า การเปิดรับต่างชาติเข้ามามากมายจะก่อให้เกิดปัญหาหรือแย่งงานชาวจีนทำแต่อย่างใด เพราะหากมองย้อนกลับไปในอดีต จีนเองได้ว่าจ้างชาวต่างชาติที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางมากมายเข้ามาทำงานและพัฒนาประเทศเป็นหลัก ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้ว่า การก้าวกระโดดของจีนที่มายืนเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจโลกและผู้นำของกลุ่มประเทศโลกที่ 3 นี้ ส่วนหนึ่งมาจากทางการผลักดันเพื่อให้เกิดพลวัตด้านบุคลลากรที่เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการพัฒนาประเทศ เพราะเกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์และทักษะต่างๆ ระหว่างชาวต่างชาติกับชาวจีนอย่างผสมกลมกลืนกัน
สุชารัตน์ สถาพรอานนท์