นับจากนี้อีกไม่กี่ชั่วโมง พิธีเปิดมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติกำลังจะเริ่มขึ้นที่กรุงลอนดอน ณ สหราชอาณาจักร การแข่งขันกีฬาโอลิมปิคฤดูร้อน ประจำปี 2012 ครั้งที่ 30 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 กรกฏาคม ถึงวันที่ 12 สิงหาคม ตามด้วยการแข่งขันพาราลิมปิคเกมส์ ครั้งที่ 14 ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม ถึงวันที่ 9 กันยายน 2012 และถือเป็นเมืองแรกที่เป็นเจ้าภาพโอลิมปิคถึงสามครั้ง (ปี 1944 ปี 1948 และปี 2012)
สถานที่จัดการแข่งขันและสัญลักษณ์ต่างๆ ของโอลิมปิค ลอนดอน 2012
สำหรับมาสคอตหรือสัญลักษณ์อย่างเป็นทางการของการแข่งขันในครั้งนี้ คือเจ้า "เว็นล็อค" (Wenlock) ที่ควงคู่มากับ "แมนเดวิล" (Mandevil) เพื่อนอีกหนึ่งตัว ซึ่งจะเป็นสัญลักษณ์ของพาราลิมปิก เกมส์ ที่จะจัดขึ้นหลังจากโอลิมปิก มาสคอตทั้งสองตัวจะจับคู่กันเพื่อประชาสัมพันธ์กีฬาระดับโลกนี้ ถึงจะหน้าตาประหลาดไปนิด แต่ก็มีคาแรกเตอร์น่ารักน่าเอ็นดู โดยทั้งสองตัวถูกสร้างขึ้นมาจากคอนเซ็ปท์ที่เน้นกีฬาของเด็ก ๆ และเยาวชน และยังมีโลโก้ของกีฬา โอลิมปิก 2012 นี้ ออกแบบโดย "วอล์ฟฟ์ โอลินส์" โดยรูปทรงยึกยือนั้นสามารถอ่านได้ว่า "2012" หมายถึงปีของการแข่งขันกีฬาและมีตัวหนังสือคำว่า "London" และสัญลักษณ์ห้าห่วงของกีฬาโอลิมปิกอยู่ด้วย โลโก้นี้จะใช้เป็นสัญลักษณ์ของทั้งกีฬาโอลิมปิก 2012 และพาราลิมปิก 2012 เช่นเดียวกัน อีกหนึ่งสิ่งพิเศษของโอลิมปิคลอนดอน 2012 นี้ มีการวางแผนไว้เพื่อทำให้งานครั้งนี้เป็นกีฬาโอลิมปิคแบบยั่งยืน ( Sustainable Olympic Games) หรือ การจัดงานแบบกีฬาสีเขียว โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 5 ข้อดังนี้ 1) ลดการปล่อยคาร์บอนระหว่างการพัฒนาอุทยานโอลิมปิคและสถานที่อื่นๆ 2) ผลิตของเสียให้น้อยที่สุดระหว่างการก่อสร้าง 3) ใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด 4) ปรับปรุงและสนับสนุนการดำรงชีวิตเพื่อสุขภาพอันดี และ 5) ทำงานร่วมกับชุมชนทั้งในและนอกบริเวณโอลิมปิค ปาร์ค สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ได้เน้นไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ชาวอังกฤษให้เข้ามามีส่วนร่วมวางแผนและปฏิบัติการทุกขั้นตอน
สื่อจีนให้ความสนใจและตั้งหน้าเว็บไซต์รายงานพิเศษเกี่ยวกับโอลิมปิค ลอนดอน 2012
นอกจากนี้ส่วนสำคัญอย่างหนึ่งของโอลิมปิคก็คือ การวิ่งคบเพลิง เพื่อส่งต่อความฝัน ความสามัคคีและเป็นการประชาสัมพันธ์ไปในตัว และการที่ใครได้มีส่วนร่วมย่อมได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดีว่าเป็นตัวแทนประเทศ ขณะเดียวกันผู้ถูกคัดเลือกก็ภาคภูมิใจ โดยเฉพาะคนที่ได้รับคัดเลือกถึงสองครั้งสองครา เมื่อสี่ปีที่แล้วอีกซีกโลกตะวันออกนั้นมีกรุงปักกิ่งเป็นเจ้าภาพโอลิมปิค ปักกิ่งเกมส์ 2008 ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวให้โลกประจักษ์ถึงศักยภาพและความพร้อมของความเป็นจีนสมัยใหม่ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ไม่มีที่ติ "หลาง หลาง" นักเปียโนวัย 30 ปี ที่มีชื่อเสียงระดับโลก คือหนึ่งในจำนวนคนที่ได้รับเกียรติเป็นตัวแทนคนจีนรุ่นใหม่ วิ่งคบเพลิงโอลิมปิคตั้งแต่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินซึ่งถือว่าเป็นหัวใจของจีนนั่น และสำหรับโอลิมปิคครั้งนี้ก็เช่นกัน เขาได้รับเลือกเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ เข้าร่วมการวิ่งคบเพลิงที่กรุงลอนดอนในวันที่ 22 กรกฏาคมที่ผ่านมา โดยวิ่งเป็นระยะทาง 300 เมตร ผ่านควีนส์เธียเตอร์ และมาส่งต่อที่บริเวณอัล-เฟรสโก ตลอดระยะทางมีผู้คนมากมายทั้งชาวอังกฤษและชาติอื่นๆ ต่างส่งเสียงและปรบมือให้กำลังใจ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความภาคภูมิใจของชาวจีนและตัวของหลาง หลางเอง
"หลาง หลาง" ตัวแทนชาวจีน วิ่งคบเพลิงที่โอลิมปิค ลอนดอน 2012
"หลาง หลาง" ได้บอกเล่าถึงความรู้สึกว่า เป็นความตื่นเต้นและความภาคภูมิใจคนละแบบกับโอลิมปิคที่กรุงปักกิ่ง ครั้งนี้เป็นเหมือนตัวแทนของชาวจีนทั้งประเทศมาส่งมอบความฝัน ความหวัง ความสุขให้กับชาวอังกฤษที่เป็นเจ้าภาพและผู้คนจากทั่วโลกที่เฝ้ารอคอยชมมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาตินี้ และภารกิจของเขายังไม่จบลงเพียงเท่านี้ เพราะเขาได้ถูกรับเลือกเป็นทูตแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม จะมีการจัดแสดงเปียโนที่ศูนย์บาร์บิคัน ถือเป็นศูนย์กลางการจัดแสดงสื่อศิลปะผสมที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป และในวันที่ 1 สิงหาคม เขาจะแสดงเปียโนบนเรือมังกรจีนในแม่น้ำเทมส์ แต่ระหว่างนี้ "หลาง หลาง" กำลังนับถอยวันถึงเข้าชมพิธีเปิดโอลิมปิค ลอนดอน 2012 อย่างใจจดใจจ่อ รวมทั้งเดินสายเชียร์นักกีฬาจีนและกีฬาที่ชื่นชอบ ซึ่งเขาเพิ่งสามารถซื้อตั๋วเข้าชมการแข่งขันปิงปองประเภทชายเดี่ยวได้ และหวังว่าจะสามารถซื้อตั๋วเช้าชมการแข่งขันยิมนาสติคได้เช่นกัน
"ลอนดอนเกมส์ 2012" จะเป็นศูนย์รวมของนักกีฬาจากชาติสมาชิกคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ทั้ง 205 ชาติ ที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งครบทุกชาติ โดยนักกีฬาสหราชอาณาจักร "เจ้าภาพ" ส่งนักกีฬามากสุด 542 คน ตามมาด้วยสหรัฐอเมริกา 530 คน รัสเซีย 436 คน ส่วนมหาอำนาจอย่างจีนซึ่งเป็นเจ้าเหรียญทองโอลิมปิกยุคนี้ มีนักกีฬาทั้งหมด 386 คน สำหรับประเทศไทยส่งนักกีฬา 37 คน มากที่สุดในอาเซียน เรามาร่วมส่งกำลังใจไปให้กับนักกีฬาที่ชื่นชอบและกีฬาที่สนใจไปพร้อมๆ กับหวังให้เป้าหมายของการจัดโอลิมปิคครั้งนี้ประสบผลสำเร็จท่ามกลางความไม่สงบของอีกหลายชาติที่ไม่สามารถส่งนักกีฬามาเข้าร่วมได้เต็มที่
กีฬานั้นสามารถสร้างคน สร้างชาติได้รวมทั้งทำให้คนเรียนรู้แพ้ รู้ชนะ และรู้อภัย ทุกคนต่างหวังว่าโอลิมปิคจะสามารถสร้างความฝัน ความสุข ความหวังให้กับโลกนี้เพื่อให้เกิดความเข้าใจและทำให้ทุกคนตระหนักถึงคำว่า "น้ำใจนักกีฬา" อีกครั้ง
สุชารัตน์ สถาพรอานนท์