เวลานี้ หากเอ่ยถึงกรุงปักกิ่งแล้ว คงมีน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักและยังเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของนักเดินทางอีกหลายคน ด้วยความเป็นเมืองหลวงของประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีประชากรมากที่สุดในโลกและกรุงปักกิ่งก็มีประชากรกว่ายี่สิบล้านคน จึงมักมีผู้คนที่ไม่เคยมาถึงแต่จินตนาการไปถึงความแออัด ความไร้น้ำใจของผู้คน หรือการจราจรติดขัดแสนสาหัสอย่างเมืองหลวงอื่นๆ ในโลก แต่ถ้าถามถึงความประทับใจหรือความชอบสำหรับผู้คนที่เคยมาเยือนปักกิ่งรวมทั้งชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ที่นี่แล้ว ส่วนใหญ่จะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ประทับใจและถูกใจระบบขนส่งมวลชนโดยเฉพาะรถไฟใต้ดินที่มีประวัติอันยาวนาน นอกจากนั้นยังสะดวกสบาย ประหยัดทั้งเวลาและราคา ไม่ต้องหงุดหงิดกับการจราจรติดขัดบนท้องถนน
เมื่อไม่นานมานี้ การรถไฟใต้ดินของกรุงปักกิ่งยังเพิ่มบริการให้ยืมรองเท้าแตะกับผู้โดยสารอีกด้วย เนื่องมาจากว่าช่วงนี้เป็น "ฤดูร้อน" รวมถึงบางวันก็มีฝนตกจึงทำให้ชาวจีนนิยมสวมรองเท้าแตะออกจากบ้าน ระหว่างที่ใช้บริการรถไฟใต้ดินที่ต้องเดินเปลี่ยนสายรถไฟ และเผชิญกับผู้คนมากมายในช่วงเวลาเร่งด่วน อาจทำให้รองเท้าแตะหรือรองเท้าที่สวมใส่มาหลุดหายไป ทำให้มีผู้คนไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟเป็นจำนวนมาก จนทางการรถไฟใต้ดินคิดบริการนี้ขึ้นมาซึ่งครอบคลุมทั่ว 182 สถานี (15 เส้นทางสายรถไฟใต้ดิน) ในแต่ละวันจะมีผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการรับรองเท้าแตะอย่างน้อยสถานีละ 5 คู่ในชั่วโมงเร่งด่วน ช่วยให้ผู้โดยสารไม่ต้องเสียเวลาและไม่ต้องไปทำงานสาย รวมทั้งมีให้เลือกหลายสี หลายขนาด เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย
เจ้าหน้าที่สถานีรถไฟใต้ดินกำลังให้บริการยืมรองเท้าแตะแก่ผู้โดยสาร
การบริการรองเท้าแตะนี้ถือว่าเป็นหน้าที่ของทางการฯ ต้องอำนวยความสะดวกสบายอย่างหนึ่งให้กับชาวเมือง เมืองใหญ่บางแห่งยังมีการให้บริการรถจักรยานยืมจากสถานีรถไฟใต้ดินไปยังที่พักอาศัยด้วย ขณะที่เมืองใหญ่อย่างนครเซียงไฮ้ นอกจากจะให้บริการยืมรถจักรยานแล้วยังให้ยืมร่มแก่ผู้โดยสารในวันฝนตกหนักอีกต่างหาก สำหรับสถานีรถไฟใตดินในกรุงปักกิ่ง นอกจากการบริการให้ยืมรองเท้าแตะแล้ว ทางสถานีรถไฟใต้ดินยังเพิ่มบริการให้ยืมเสื้อกันฝนและเตรียมชุดยาไว้ในกรณีฉุกเฉินสำหรับคนที่จะเป็นลมแดดจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด
เสียงสะท้อนจากชาวเมืองสำหรับการให้บริการยืมรองเท้าแตะ ส่วนใหญ่จะรู้สึกชื่นชอบในการบริการนี้ และมองว่า หากคนที่ยืมรองเท้าไปนำมาคืนเพื่อจะให้คนอื่นได้ใช้ต่อไป ยิ่งจะช่วยให้การบริการนี้ยั่งยืนและมีประโยชน์กับสังคมไปอีกนาน
อย่างไรก็ตาม จำนวนการคืนรองเท้าก็ยังมีไม่ถึงครึ่งของจำนวนการยืมอยู่ดีเพราะไม่ต้องลงทะเบียนหรือมีระบบอะไรที่เข้มงวดมากนัก ไม่เหมือนกับการยืมรถจักรยาน แต่หากมองในอีกแง่หนึ่ง จำนวนการคืนรองเท้านั้น สามารถนำมาประเมินระดับจริยธรรมและจิตอาสาของคนในสังคมได้เป็นอย่างดี ดังเช่น มีการคืนรองเท้ากลับมาคู่หนึ่ง โดยคู่นั้นอยู่ในสภาพที่สะอาดและผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้วด้วย สิ่งเล็กๆน้อยๆ เหล่านี้จะหล่อหลอมให้สังคมเมืองใหญ่น่าอยู่ยิ่งขึ้น หากทุกคนเห็นความสำคัญและคุณค่าของส่วนรวม
สุชารัตน์ สถาพรอานนท์