ขณะนี้ นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อ เฉียงของจีน กำลังอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ บรูไน ไทยและเวียดนาม และเข้าร่วมการประชุมอาเซียนที่บูรไน โดยประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีนก็ได้ไปเยือนอินโดนีเซียและมาเลเซีย พร้อมเข้าร่วมการประชุมผู้นำเศรษฐกิจครั้งที่21 ที่บาหลี อินโดนีเซียด้วย
เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง วิบูลย์ คูสกุล
เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง วิบูลย์ คูสกุล ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุซีอาร์ไอ ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไทยจีน และจีน อาเซียน โดยกล่าวว่าในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกันเมื่อพิจารณาแล้วไทยเป็นประเทศที่มีความได้เปรียบค่อนข้างมาก เพราะไม่มีปัญหาข้อพิพาทใดๆ กับจีน และมีความร่วมมือที่ดีระหว่างกันโดยตลอด มีมิตรภาพอันแน่นแฟ้นมายาวนาน ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ไม่ถึง 20 เดือนในฐานที่ไทยเป็นประเทศผู้ประสานงานอาเซียน ก็ได้ใช้โอกาสและจังหวะที่ดีนี้ ในการทำหน้าที่เป็นตัวกลางเพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่าง จีน กับกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกัน รวมทั้งการทำให้เกิดเวทีของการเจรจาพบปะและหารือเกี่ยวกับข้อพิพาทต่างๆ ทีเกิดขึ้นระหว่างจีนกับบางชาติสมาชิกอาเซียนด้วย
ล่าสุด กลางเดือนกันยายนที่ผ่านมาก็มีการประชุมสำคัญระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสในอาเซียนเกี่ยวกับปัญหาในหมู่เกาะทะเลจีนใต้ ซึ่งจีนยืนยันท่าทีในการยินดีเข้าร่วมวงเจรจาพูดคุยเพื่อแก้ปัญหา และขอมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น ให้การแก้ปัญหาดำเนินอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งเป็นเรื่องที่จีนให้ความสำคัญเนื่องจากเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์ดังกล่าว
"ไทยได้แสดงบทบาทสำคัญในการเป็นสะพานเชื่อมให้มีการเจรจาและคุยกัน ก่อนหน้านี้ก็มีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศจีนกับอาเซียนที่ปักกิ่ง ซึ่งผู้แทนระดับสูงของไทย ก็มาร่วม และก่อนนั้นก็มีการจัดเวทีหารือที่หัวหินในเมืองไทย เราก็ช่วยประสานงานให้ การที่จีนเริ่มมีท่าทีเปิดและเข้าร่วมโต๊ะเจรจา เป็นสัญญาณที่ดีและถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแล้ว ส่วนที่จะมีผู้บอกว่า ต้องเร่งรัดให้ได้แนวทางโดยเร็ว ได้ข้อสรุปโดยเร็ว น่าจะยังไม่รวดเร็วได้ขนาดนั้นเพราะต้องพิจารณาจากหลายองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง"
เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่งกล่าวเพิ่มเติมว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง จีนกับอาเซียน มีมากกว่าประเด็นปัญหาพิพาทในหมู่เกาะทะเลจีนใต้ มูลค่าการค้าระหว่างกันมากถึง 4 แสนล้านหยวน จีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของอาเซียน ขณะที่อาเซียนเป็นคู่ค้าใหญ่อันดับสามของจีน มีกรอบความร่วมมือที่หลากหลายด้าน ทั้งด้านเครือข่ายคมนาคม การขนส่ง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประชาชนด้วยกันเองและอื่นๆ นอกจากนี้จีนก็ยังมีความพร้อมที่จะเปิดตลาดและพื้นที่ความร่วมมือใหม่ๆ หลายด้าน อาทิด้านการเงิน และยังมีความร่วมมือที่เป็นเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนด้วย โดยจีนตั้งเป้าว่า ภายในปี 2020 จะขยายยอดมูลค่าการค้าระหว่างกันไปให้ถึง 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับความร่วมมือระหว่างไทยจีน ซึ่งประเทศไทย ยังมีอีกฐานะหนึ่งในชาติสมาชิกอาเซียน เอกอัครราชทูตวิบูลย์มองว่าบทบาทก็ไม่ได้ขัดกันในความสัมพันธ์แบบทวิภาคี เพราะมีความร่วมมือที่ดีมาโดยตลอด มูลค่าการ ค้าระหว่างกัน 6,900 ล้าน และตั้งเป้าไว้ว่า จะขยายให้ได้ 1 แสนล้านภายในปี 2015 ก็มีความเป็นไปได้ ส่วนภาคการท่องเที่ยว ค่อนข้างมั่นใจว่า ภายในสิ้นปีนี้ น่าจะมีตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนไปยังเมืองไทยได้ถึง 4 ล้านคน
โสภิต หวังวิวัฒนา เรียบเรียง