2. ผู้หญิงที่ให้ความสำคัญกับเงินตราเกินไป
ปัจจุบัน ราคาสินค้า โดยเฉพาะราคาบ้านเพิ่มสูงขึ้นแบบติดจรวด เมื่ออยากมีชีวิตที่สบายและมั่นคง จึงต้องมีเงินมากพอ อย่างน้อยต้องมีบ้านของตนเอง เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะตกลงเป็นแฟนกัน ผู้หญิงแบบนี้ต้องรู้ว่าผู้ชายที่ตัวเองพบทำงานอะไร เงินเดือนเท่าไร พ่อแม่ทำงานอะไร มีบ้านและรถหรือไม่ คนจีนเรียกผู้หญิงแบบนี้ว่า "拜金女" (ไป้จินนวี่) "拜" หมายความว่าบูชา "金" หมายถึงทองคำ ซึ่งประโยคที่ใช้เอ่ยเปรียบผู้หญิงแบบนี้เป็นที่รู้กันทั่วไปของชาวจีนก็คือ ยอมนั่งร้องไห้ในรถ BMW ดีกว่าหัวเราะบนรถจักรยาน ซึ่งกล่าวโดยนางสาวหม่านั่วเมื่อเข้าร่วมรายการหาคู่ทางโทรทัศน์ ซึ่งผู้หญิงแบบนี้จะยอมแต่งงานกับผู้ชายที่ร่ำรวยแต่ไม่รักเธอ ดีกว่าแต่งงานกับผู้ชายที่รักเธอแต่ไม่มีเงิน
อย่างไรก็ตาม "拜金女" เป็นเพียงกลุ่มคนส่วนน้อย ผู้หญิงส่วนใหญ่ขอเพียงมีบ้านเป็นของตนเองก็พอ เพื่อมีความรู้สึกมั่นคงในชีวิต แต่ในเมืองใหญ่ๆ เช่น กรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ ราคาบ้านสูงมาก ยิ่งบริเวณศูนย์กลางของตัวเมืองมีราคากว่า 6 หมื่นหยวนต่อตารางเมตร พ่อแม่จึงต้องทุ่มเงินทั้งหมดซื้อบ้านให้ลูก บางครอบครัวก็อาจไม่มีความสามารถพอ โดยเฉพาะคนต่างมณฑลที่ทำงานในเมืองใหญ่ๆ ส่วนผู้หญิงก็ไม่ยอมแต่งงานกับผู้ชายที่เช่าบ้าน จึงต้องตกเป็น "เซิ่งหนี่ว์" ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ชายส่วนใหญ่ก็รู้สึกต่อต้านกับผู้หญิงแบบนี้ไม่น้อย
3. ผู้หญิงที่ฟื้นฝอยหาตะเข็บ อยากหาแฟนที่ดีเลิศสมบูรณ์แบบ
ภาพลักษณ์ของแฟนในใจของผู้หญิงจีนได้ยกระดับขึ้นมาก เนื่องจากละครรักโรแมนติกทั้งหลาย เพราะในละคร พระเอกเป็นคนหน้าตาหล่อ หุ่นดี แถมมีฐานะ หรือไม่รวยก็จะเป็นคนที่มีความสามารถ และจะกลายเป็นคนรวยในภายหลัง นอกจากนี้ แต่งกายดีสุภาพ แทบไม่มีที่ติ ถึงจะมีก็จะเป็นจุดอ่อนที่น่ารัก เมื่อนางเอกมีปัญหา พระเอกก็จะรู้และปรากฏตัวช่วยเหลือขึ้นอย่างทันท่วงที ทำให้ผู้หญิงทุกคนรู้สึกว่า แฟนของตนเองก็ต้องเป็นอย่างนี้ แต่ความจริง ทุกคนมีจุดอ่อนของตนเองทั้งด้านนิสัยและการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ผู้หญิงแบบนี้จะปรารถนาที่จะพบแฟนอย่างพระเอกในละคร ทำให้รู้สึกไม่พอใจกับผู้ชายอยู่รอบข้างทุกคน และผู้ชายก็จะมีแรงกดดันมากหากต้องคบกับผู้หญิงแบบนี้
4. ผู้หญิงมีรักฝังใจหรือถูกทำร้ายจิตใจอย่างแสนสาหัส
ผู้หญิงแบบนี้ได้ประสบกับความรักที่น่าประทับใจมาก และยังหลงยึดติดกับอดีตแสนหวานนั้นอยู่ มักเทียบผู้ชายทุกคนกับแฟนเก่า ไม่สามารถมอบใจให้กับใครอื่นได้อีก หรือบางคนอาจถูกแฟนเก่าทำร้ายใจ จึงกลัวที่จะเสียใจอีกครั้ง จึงป้องกันตนเองเกินไป ไม่ยอมเปิดใจกับใครอื่นง่ายๆ
5. ผู้หญิงที่ชอบความเป็นส่วนตัว รักอิสระภาพ
ผู้หญิงแบบนี้มักจะทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตนเอง อยากทำอะไรก็ทำโดยไม่ต้องบอกใคร พวกเธอยุ่งกับการทำงาน การออกกำลังกาย การรู้จักกับเพื่อน และการท่องเที่ยว แต่ไม่ได้ให้เวลากับตนเองหรือแฟน จึงรู้สึกว่ามีแฟนแล้ว ก็จะไม่เป็นอิสระ แฟนจะถามนุ่นถามนี่ หลังแต่งงานแล้ว ก็ยิ่งไม่สามารถมีชีวิตอิสระแบบที่ตนเองชอบได้อีก
6. ผู้หญิงที่กลัวการแต่งงาน
ผู้หญิงแบบนี้ก็มีจำนวนไม่น้อย โดยเป็นกังวลว่า ยังรู้จักแฟนไม่ดีพอ กลัวว่าชีวิตหลังแต่งงานจะไม่มีความสุข พวกเธอมีความปรารถนาต่อชีวิตหลังแต่งงานสูงมาก จึงจิตกว่า ชีวิตจะไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ และมีคนจำนวนมากกังวลว่าแฟนจะไม่ซื่อสัตย์ ปัจจุบัน จีนมีอัตราการหย่าสูงมาก กระทรวงกิจการพลเรือนจีนประกาศว่า เมื่อครึ่งปีแรกของปี 2013 มีสามีภรรยาจำนวนกว่า 1,930,000 คู่หย่าร้าง ซึ่งสูงกว่าอัตราการแต่งงานมาก และยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นหลังปี 1980 ซึ่งรู้สึกว่า การแต่งงานไม่ใช่เรื่องศักดิ์สิทธิ์อีกแล้ว จึงแต่งงานเร็ว และหย่าร้างเร็วมาก บางคู่แต่งงานแล้วไม่ถึงปีก็ไม่ยอมอยู่ร่วมกันอีกแล้ว ทำให้ผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงานกลัวว่า ตนเองก็ต้องประสบกับสภาพเช่นนี้ บางคนรู้สึกผิดหวังกับการแต่งงานมาก
นอกจากนี้ ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่มีสาเหตุว่า ทำงานหนักมาก จึงไม่มีเวลาส่วนตัวไปพบเพื่อนและรู้จักคนอื่น เมื่ออายุมากแล้วจึงตกเป็น "เซิ่งหนี่ว์"