"ซานฝู"เป็นช่วงร้อนที่สุดในรอบหนึ่งปี เฉกเช่น "ซานจิ่ว" ที่เป็นช่วงหนาวที่สุดในรอบปี วันเวลาของช่วง "ซานฝู" ในแต่ละปีไม่ค่อยตรงกัน แต่อยู่ราวกลางเดือนกรกฎาคม-กลางเดือนสิงหาคม ซึ่งแบ่งออกเป็นสามช่วง โดยเรียกว่า "โถวฝู" "เอ้อฝู" และ "ซานฝู" โดย "โถวฝู" มี 10 วัน "จงฝู" บางทีเป็น 10 วัน บางทีเป็น 20 วัน ซึ่งขึ้นอยู่กับวัน "เซี่ยจื้อ" และวัน "ลี่ชิว" ตามปฏิทินจันทรคติของจีน ส่วน"โม่ฝู" มี 10 วัน ปีนี้ "โถวฝู" อยู่ระหว่างวันที่ 18-27 กรกฎาคม "จงฝู" อยู่ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม-วันที่ 6 สิงหาคม ส่วน "โม่ฝู" อยู่ระหว่างวันที่ 7-16 สิงหาคม

จีนทางเหนือ โดยเฉพาะในกรุงปักกิ่งมีประเพณีที่ว่า"โถวฝูกินเกี๊ยว เอ้อฝูกินบะหมี่ ซานฝูกินเปาะเปี๊ยะกับไข่เจียว" ซึ่งประเพณีนี้มีมานานแล้ว เนื่องจากว่า คนสมัยก่อน ปกติอาหารการกินไม่ค่อยดี เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน กินอะไรก็รู้สึกว่า ไม่อร่อย แต่ช่วงย่างเข้า "ซานฝู" พอดีเป็นช่วงเก็บเกี่ยวข้าวสาลีเสร็จ คนทั่วไปจึงนำแป้งสาลีที่เพิ่งเก็บเกี่ยวมาทำเกี๊ยวทานกัน ส่วน "เอ้อฝูกินบะหมี่" ก็คือ รับประทานบะหมี่ที่มีซุบร้อนๆ สามารถจะขับความชื้นและความร้อนออกจากตัว ส่วน "ซานฝูกินเปาะเปี๊ยะกับไข่เจียว" ก็เพื่อเสริมโภชนาการหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวสาลีเสร็จ เพื่อมีกำลังวังชามากเพียงที่จะไปทำการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง ส่วนในจีนทางใต้ แต่ละท้องที่จะมีประเพณีในการรับประทานอาหารที่ต่างกัน อย่างเช่น ชาวเซี่ยงไฮ้นิยมกินเกี๊ยวน้ำใน "โถวฝู" และดื่มชาใน "เอ้อฝู" ชาวหังโจวนิยมกินหมูแฮมใน "โถวฝู" กินไก่ใน "เอ้อฝู" และกินขาหมู่ใน "โม่ฝู" ส่วนชาวเจียงซีและชาวหูหนานต่างเห็นว่า กินเนื้อไก่ใน "โถวฝู" จะมีสุขภาพแข็งแรงทั้งปี

　ผู้เชี่ยวชาญด้านประเพณีพื้นบ้านระบุ ขณะนี้ แม้เกี๊ยว ไก่ บะหมี่ เปาะเปี๊ยะกับไข่เจียวกลายเป็นอาหารที่คนทั่วไปรับประทานเป็นประจำแล้ว แต่ประเพณีเหล่านี้ ก็ยังสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน

จีนยังมีสุภาษิตที่ว่า "โถวฝูปลูกหัวผักกาด เอ้อฝูปลูกผัก" หมายความว่า ถ้าปลูกหัวผักกาดในช่วงโถวฝู เมื่อถึงต้นฤดูใบไม้ร่วงก็มีหัวผักกาดรับประทานแก้ร้อนในที่เกิดจากฤดูร้อน และมีผักให้รับประทานกัน