กาสะลองส่องจีน ตอน 4.1 : ทหารหนุ่มไทยใจกว้าง กับการใช้สื่อใหม่สร้างกองทัพผู้ประกอบการไทยลุยตลาดจีน : ร.ท. อภิธัช เสาะการ
  2014-12-20 14:03:40  cri

คุณผู้อ่านคิดว่าในชีวิตของคนเราสามารถทำอะไรไปพร้อมกันได้สักกี่อย่างครับ หนึ่งอย่าง ? สองอย่าง ? สี่อย่าง ? แต่จะกี่อย่างก็ตามเถอะ ผมอยากชวนให้ลองมาอ่านเรื่องราวของคนคนนี้ ที่เริ่มทำมัน "ทุกอย่าง!" ทั้งที่ก็ไม่รู้ว่าทางนั้นมันจะใช่หรือไม่ใช่สำหรับตัวเอง

จากนักเรียนโรงเรียนนายร้อย สู่นักธุรกิจขายตรง ขายผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ขายเสื้อผ้าออนไลน์ ขายคำปรึกษาการนำเข้าส่งออกสินค้าไทย-จีน และล่าสุดกับการใช้สื่อใหม่เป็นตัวกลางเผยแพร่ข้อมูลด้านการค้าและการลงทุน ที่พูดมาทั้งหมดนี้เกิดขึ้นกับคนคนนี้ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี กับหนุ่มร่างเล็กแต่ใจใหญ่นายนี้ : แมน ร้อยโท อภิธัช เสาะการ

พี่แมนเกิดและเติบโตขึ้นท่ามกลางความอบอุ่นของครอบครัวข้าราชการครู ในมุมเมืองหนึ่งของจังหวัดนครนายก วัยเด็กของพี่เขาก็คงจะคล้ายกับหลาย ๆ คน คือยังไม่รู้ว่าตัวเองมีความฝันอะไร อยากจะเอาตัวเองไปอยู่จุดไหน สิ่งที่ทำได้ในตอนนั้นก็คือตาม ๆ เพื่อนไปก่อน ความบังเอิญของกระแสภาพยนต์นายร้อยสอยดาวพัดผ่านไปแถวเพื่อนพ้องพี่เขาพอดี (นานใช่เล่นนะเนี่ย) ทำให้เกิดความฮึกเหิมรักชาติ อย่างปกป้องประชาชนกันยกใหญ่ ตรงนั้นเองก็กลายมาเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้พี่เขาสมัครเข้ามาเป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหารเลื่อนชั้นขึ้นมาเป็นนักเรียนโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) ได้ในที่สุด

หลังจากเรียนจบก็บรรจุเข้ารับข้าราชการทันทีที่กรมแผนที่ทหาร กองบันชาการกองทัพไทย ช่วงนั้นเองที่พี่แมนได้มีโอกาสรู้จักกับทุนการศึกษาที่ช่วยต่อยอดความรู้เกี่ยวกับที่เรียนมาพอดี และที่สำคัญคือเรียนต่อที่ "จีน!" เสียด้วยสิ ไม่พูดพร่ำทำเพลงเลยครับพี่แกบอก "...ผมนี่ทำเรื่องลาศึกษาต่อแล้วย้ายตัวเองมาอยู่ในปักกิ่งเลย" จากเวลานั้นถึงตอนนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 6 แล้วที่มาศึกษาต่อปริญญาโท-เอกสาขาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการสำรวจระยะไกล

เห็นว่าธุรกิจแรกที่เริ่มทำเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการขายตรง?

"....ใช่แล้วครับ เวลานั้นคงต้องย้อนกลับไปสมัยยังเป็นนักเรียนนายร้อย จำได้ว่าตอนนั้นอยู่ปีสอง ขายตรงเป็นอะไรที่ดังสุด ๆ เราเองก็ยังไม่รู้อะไรมาก พี่มาชวนให้สมัครเราก็สมัคร เป็นธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเสริมความงาม บอกแค่พูดให้คนสมัครต่อเราก็ได้ตังค์ ประกอบกับช่วงนั้นสิวขึ้นพอดี ไอ้เราก็เป็นพวกทหารดูแลตัวเอง (หัวเราะ) ไปรักษาตามคลินิกที่ดัง ๆ อยู่ตลอด พอมาเจอธุรกิจตัวนี้ เขาบอกว่าได้ใช้เองด้วย ขายได้ด้วย เราก็เอามาลองใช้แล้วรู้สึกว่ามันดี ไม่ต้องไปหาหมอถี่ ๆ แบบเมื่อก่อน ก็เลยตัดสินใจเริ่มทำธุรกิจขายตรงตั้งแต่ตอนนั้น บอกก่อนเลยว่าอารมณ์เราไม่ใช่คนที่ชอบไปชวนคนนั้นคนนี้นะ นี่ไม่ใช่ตัวเราเท่าไหร่ จะเป็นแบบถ้ามีปัญหาผิวพรรณค่อยแนะนำมากกว่า ด้วยความที่ยังเด็กในตอนนั้นเราไม่รู้ว่าโลกนี้มันมีธุรกิจอะไรมั่ง รู้แต่ว่ามันได้เงินเราก็เลยทำ จนเข้าปีสี่ ตรงนี้เป็นจุดพลิกเลยของธุรกิจขายตรงสำหรับเรา.."

"...มีอยู่วันหนึ่ง เราโทรหาน้องผู้หญิงซึ่งเป็นเด็กต่างจังหวัดที่มาเรียนที่นครปฐม น่าจะวิทยาลัยพยาบาลมั้ง ตอนนั้นเราทำงานเหลือหนี้ต้องปิดอีกประมาณ 6 หมื่น คิดอย่างเดียวอยากได้เงิน ๆ ต้องสำเร็จ ๆ น้องมากันสองคน เราก็เอาเลย สเต๊ปแรกจ่ายก่อนสองหมื่นหนึ่ง (ค่าแรกเข้า) พอน้องทำงานกับเราไปได้เดือนนึง จนถึงวันที่ต้องปิดยอด เราก็เร่งเขาว่ายังไง ได้หรือยัง เราโทรหาเขาหลายสายมากจนน้องเขาขอลงไปข้างล่างบริษัท ผ่านไปสองชั่วโมงยังไม่ขึ้นมาเราก็โทรตาม น้องบอกนั่งอยู่ข้างล่าง เราก็เลยเดินลงไปหาเห็นน้องเขานั่งกอดเข่ากันอยู่สองคน เราก็ถามว่าเป็นอะไรทำไมไม่ขึ้นไป น้องตอบว่าหนู่กำลังคิดอยู่กับเพื่อนสองคนว่า ถ้าปิดยอดไม่ได้จริง ๆ หนูจะเอาทองไปขาย เราพูดอะไรไม่ออก เหตุการณ์นั้นทำให้เราหยุดทุกอย่างเลย ของมีค่าที่น้องเขามี ไม่รู้ว่าพ่อแม่ทำงานด้วยน้ำพักน้ำแรงขนาดไหนมาซื้อให้น้องเขาใส่ นี่เรากำลังจะขายทองน้องเขานะเว้ย เป็นเวลาเกือบสามเดือนที่เราไม่เคยบอกที่บ้านเลยว่าทำธุรกิจนี้ เราโทรบอกแม่ ร้องไห้หนักมาก แม่ก็เข้าใจและบอกจะรับผิดชอบเงินก้อนนั้นให้ เป็นครั้งแรกและเป็นบทเรียนสำคัญเลยที่สอนให้เรารู้ว่าเราจะไม่รีบด่วนตัดสินใจจนรู้ว่าเราสามารถทำมันได้ อีกข้อหนึ่งคือเราจะไม่ยืมเงินคนอื่นมาใช้อย่างเด็ดขาด"

หลังจากบอบช้ำจากธุรกิจที่ไทย ยังมีแรงใจทำธุรกิจที่จีนอีก?

"...ตอนมาถึงจีนช่วงแรกก็บอกกับตัวเองว่าจะไม่ทำอะไรนะ จะตั้งใจเรียนอย่างเดียว (หัวเราะ) แต่ความดื้อไง พออยู่ได้สองสามเดือน ช่วงนั้นก็มีคนมาทักว่า อยู่จีนก็น่าจะหาลู่ทางทำธุรกิจที่จีนนะ ลองหาอะไรมาขายที่ไทยสิ เราก็เริ่มเครื่องติดอีกรอบ บังเอิญแฟนตอนนั้นก็อยากทำธุรกิจขายของด้วย ผลเลยมาลงที่การขายเสื้อผ้า พอรู้ว่าจะทำอะไรแล้วทีนี้ก็สืบใหญ่เลย ร้านเสื้อผ้าไทยรับมาจากไหน อ๋อจีนใช่ไหม เข้าแก๊บเลยทีนี้ แต่ตอนนั้นภาษาจีนเราก็ยังไม่ได้ ก็เลยอาศัยข้อมูลจากกูเกิล ทำไปสักเกือบสองปีรายได้ตอนนั้นกำลังดีมาก ๆ แต่ก็ปิดตัวลงเพราะช่วงนั้นหนักเรื่องการทำทีสิส คนไทยที่ค้าขายรูปแบบเราก็มีเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ไอ้จะลดราคาแข่งก็แทบไม่ได้อะไรแล้ว ก็เลยเอาวะ ปิดร้านเถอะ..."

"...คนซื้อหายไปก็จริง แต่คนที่เข้ามาขอซื้อ "ความรู้" ในการทำธุรกิจจีน-ไทยนี่สิ ทำให้มันเป็นไอเดียว่า เออ ถึงเราจะปิดร้านไปแต่มันก็ยังทำเงินได้นี่ ตอนนั้นคนมาขอเคำปรึกษาเราเยอะมาก ก็เลยใช้โอกาสนี้ทำธุรกิจที่ปรึกษาการนำเข้าส่งออกสินค้าไทย-จีนเสียเลย ซึ่งก็ยังทำอยู่จนถึงทุกวันนี้นะ"

ยกตัวอย่างกรณีศึกษาการทำธุรกิจของตัวเองที่ดูจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านสักหน่อย?

"...ช่วงปีสองปีก่อนนี่เอง พอรู้ว่าตัวเองได้ทุนเรียนต่อปริญญาเอกที่นี่ เราก็คิดกลับกันว่าทำไมไม่ลองเอาสินค้าไทยมาขายที่จีนบ้าง เราพิจารณาตัวเองว่าที่ผ่านมาเรามีประสบการณ์อะไร ใช่เรารู้เรื่องผลิตภันฑ์เสริมความงามนี่ อยู่กับมันมาตั้งแต่เรียนปีสอง เจ็บกับมันก็เยอะ เราก็เลยหาข้อมูลหนัก ๆ อีกครั้ง ว่าสมุนไพรไทยตัวไหนดังที่นี่ แต่คิดจะทำแบบโมเดิร์นหน่อยนะ มีการสกัดสารจากว่านหางจรเข้อะไรแบบนี้ เราสร้างแบรนด์ของเราขึ้นมาเองเลย มีหุ้นส่วนกันสามคน คนหนึ่งมาจากสายชิปปิ้ง อีกคนก็เป็นนักเรียนที่เรียนที่นี่ ลงขันกันคนละสามสี่หมื่น พอมันเป็นรูปเป็นร่างเสร็จ มาถึงจีนปุ๊ป เริ่มเครียดแล้วเพราะไม่รู้จะขายยังไง มันไม่มีช่องทาง เราไม่รู้ว่าคนจีนเขาขายยังไง ทาบทามเจ้าของร้านในเถาเป่าเขาก็ไม่รับฝากขายเพราะไม่มีใครรู้จักแบรนด์นี้ สามเดือนผ่านไปก็ยังขายไม่ออก เครียดใหญ่เลย บังเอิญไปรู้จักคนที่ฝึกงานอยู่หอการค้าไทยในจีน เขาก็แนะนำให้เขาไปคุยกับประธานหอการค้า พอเราเข้าไปท่านก็แนะนำให้ไปออกงานแสดงสินค้าสิ นี่ก็เป็นช่องทางที่เราไม่เคยคิดมาก่อน ท่านก็บอกสามารถออกบูธได้แต่ก็ต้องเตรียมหน้าร้าน โบรชัวร์ นั่นนี่เยอะแยะไปหมด ซึ่งก็ต้องใช้เงินอีกแล้ว เราเลยกลับไทยไปปรึกษาหุ้นส่วนว่าจะทำต่อไหมเห็นทางแล้ว ปรากฎเขาไม่อยากไปต่อ สุดท้ายก็เลยขายไม่ได้เททิ้งหมด"

"จากตรงนี้ที่เราเรียนรู้ก็คือเราได้คอนเนคชั่น รู้แล้วว่าการจะทำธุรกิจต้องใช้ช่องทางไหน อุปสรรคที่เราไปไม่รอดเพราะเราไม่ได้ศึกษาและไม่มีพาร์ทเนอร์ชาวจีนที่ช่วยเราได้"

กาสะลองส่องจีน ตอน 4.2 (สัปดาห์หน้า) : (การเรียนทหารสอนอะไรในการทำธุรกิจ - การใช้สื่อนิวมีเดียแบ่งปันความรู้ด้านการค้าและการลงทุนให้แก่คนไทย - แนวโน้มธุรกิจที่ไทยที่จะเติบโตในจีนปี 2015 )

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
泰国
v กาสะลองส่องจีน ตอน 3 : จากข้าราชการกระทรวงไอซีทีไทย สู่นักศึกษาทุนปริญญาโท กรุงปักกิ่ง : นพคุณ สุนทรหงส์ 2014-12-12 16:15:01
v กาสะลองส่องจีน ตอน 2.2 : จากนักเรียนโอลิมปิกวิชาการคอมพิวเตอร์ สู่ว่าที่ดอกเตอร์ผู้บุกเบิกวงการ "พระเครื่องไทยในแผ่นดินจีน" : ภัณฑิล จงจิตรตระกูล 2014-12-05 19:09:36
v กาสะลองส่องจีน ตอน 2.1 : จากนักเรียนโอลิมปิกวิชาการคอมพิวเตอร์ สู่ว่าที่ดอกเตอร์ผู้บุกเบิกวงการ "พระเครื่องไทยในแผ่นดินจีน" : ภัณฑิล จงจิตรตระกูล 2014-11-28 18:08:39
v กาสะลอง ส่องจีน (ปฐมบท) ตอนที่ 1.2 จากความเชื่อในเรื่องของกฎแห่งการแลกเปลี่ยนสู่ความฝันที่อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจ : แนน จิรนันท์ อมรประดิษฐ์กุล 2014-11-21 14:18:37
v กาสะลองส่องจีน(ปฐมบท) ตอนที่ 1.1:การแลกเปลี่ยน ชีวิต ธุรกิจ:แนน จิรนันท์ อมรประดิษฐ์กุล 2014-11-07 14:19:12
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040