นอกจากนี้ อดนอนบ่อยๆ จะทำให้ความจำเสื่อม ปวดหัว นอนไม่หลับและปฏิกิริยาเชื่องช้า เพราะเซลล์ที่รับผิดชอบความทรงจำในสมองจะทำงานในช่วงนอน ถ้าอดนอนบ่อยๆ เซลล์ส่วนนี้จะถูกทำลาย เป็นเหตุทำให้ความจำเสื่อมลง ถ้าอดนอนก็หมายความว่าประสาทที่รับผิดชอบการทำงานของร่างกายต้องทำงานเพิ่ม ผลเสียจากการอ่อนเพลียของระบบประสาทก็คือปฏิกิริยาเชื่องช้า ไม่มีสมาธิ เกิดอาการปวดหัวและนอนไม่หลับ
ผลเสียข้อสุดท้ายคือระบบภูมิคุ้มกันถดถอยลง กลางคืนเป็นช่วงที่เกิดเซลล์ใหม่มากที่สุดของร่างกาย การอดนอนทำให้ร่างกายต้องตกอยู่ในสภาวะสิ้นเปลืองอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้น ระบบภูมิคุ้มกันต้องทำงานหนักขึ้นขณะต่อต้านผลกระทบจากภายนอกและปรับสภาพภายในร่างกาย ผลสำรวจพบว่า ผู้ใหญ่ที่ไม่สามารถนอนได้ 7-8 ชั่วโมงติดกัน 3 คืน ระบบภูมิคุ้มกันจะลดลงร้อยละ 60 ถ้าระบบภูมิคุ้มกันไม่ดี ศักยภาพต่อต้านของร่างกายจะต่ำลง เป็นโรคบ่อยๆ
สรุปแล้วก็คือ ถ้าไม่นอนให้เหมาะสม พิษในร่างกายก็ไม่สามารถขับถ่ายออกไปอย่างทันกาล ถ้าสะสมไว้เป็นเวลานาน สภาพภายในร่างกายจะขาดการบำรุงรักษา ระเบียบธรรมชาติของร่างกายจะถูกทำลาย ตกอยู่ในสภาพที่หมุนเวียนแบบเลวร้าย
ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องได้เปรียบเทียบวิจัยกลุ่มคนที่อดนอนเป็นเวลานานกับกลุ่มคนที่นอนเช้าตื่นเช้า โดยพบว่ากลุ่มคนที่อดนอนเป็นเวลานานตกอยู่ในสภาวะทำงานต่อเนื่องกันยาวนาน ฮอร์โมนต่างๆ ภายในร่างกายจะสูงกว่ากลุ่มที่นอนเช้าตื่นเช้าร้อยละ 50 โดยเฉพาะต่อมหมวกไตได้ขับออกไปมากเกินควร ทำให้การหดตัวของเส้นโลหิตสูงกว่ากลุ่มคนนอนเช้าตื่นเช้าร้อยละ 50
นอกจากนี้แล้ว คนที่อดนอนเป็นเวลานานง่ายที่เป็นโรคมะเร็ง เพราะว่าเซลล์มะเร็งได้เกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์ แต่การแบ่งตัวของเซลล์มักจะเกิดขึ้นท่ามกลางการนอนในตอนกลางคืน การอดนอนทำให้ระเบียบการนอนผิดปกติ ส่งผลกระทบต่อการแบ่งตัวเป็นปกติของเซลล์ ทำให้เกิดเซลล์โรคมะเร็งได้
ผู้เชี่ยวชาญที่วิจัยจังหวะสิ่งที่มีชีวิตพบว่า มีหลักฐานมากยิ่งขึ้นแสดงให้เห็นว่า ผลกระทบจากการนอนไม่เพียงพอจะสะสมไว้ได้ ในที่สุดจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสุขภาพ โรคอ้วนและโรคมะเร็งล้วนเกี่ยวข้องกับการอดนอนโดยตรง
อย่างไรก็ตาม เมื่อท่านผู้ฟังได้ทราบผลร้ายจากการอดนอนแล้ว ขอให้ปฏิเสธการอดนอน ขอให้ท่านผู้ฟังเข้านอนแต่หัวค่ำเพื่อรักษาสุขภาพเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป