อย่าเลี้ยงลูก"รักลูกมากเกินไป"ซึ่งจะทำร้ายลูกหลานโดยไม่รู้ตัว วิธีลงโทษลูกของคุณแม่ชาวตะวันตก

สำหรับครอบครัวที่เพิ่งมีลูกหรือหลานคนแรก ก็จะทะนุถนอมเป็นพิเศษราวกับเป็นหัวแก้วหัวแหวน อาจจะมีคุณพ่อคุณแม่หรือว่าปู่ย่าตายายเลี้ยงดูด้วยความรักที่มีมากเกินจนอาจย้อนกลับมาทำร้ายลูกหลานโดยไม่รู้ตัว

การเลี้ยงลูกไม่ควรตามใจลูกจนเกินไป เพราะว่า "รักลูกมากเกินไป"จะทำให้ลูกมีหลงว่าตนเป็นศูนย์กลาง หาให้เอาแต่ใจตัวเอง อาจก่อนิสัยเห็นแก่ตัวและเอาความคิดตนเป็นใหญ่ ซึ่งเป็นนิสัยไม่ดี ความจริง ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับลูกอยู่บนพื้นฐานความรัก ถ้าระหว่างพ่อแม่และลูกไม่มีความรักความผูกพันที่ดีจริง ก็ไม่อาจจะสร้างครอบครัวที่มีความสมัครสามัคคีและรักใคร่กลมเกลียวได้

โรงพยาบาลมณฑลหูหนานทำการสำรวจเด็กวัย 5-7 ขวบจำนวน 353 คนพบว่าการเลี้ยงดูลูกด้วยความรักที่มากเกินไป ส่งผลเสียต่อเด็กดังต่อไปนี้

หนึ่ง จะทำให้ลูกเลือกกินอาหารและกินแต่เฉพาะที่ตัวเองชอบเท่านั้น ทำให้สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายเด็ก เช่น โปรตีนและไขมัน เป็นต้น ได้รับไม่เพียงพอ จนทำให้เด็กผอมลงเรื่อยๆ มีภูมิต้านทานต่ำ ร่างกายอ่อนแอ และการเติบโตพัฒนาทางร่างกายและสติปัญญาช้าลง

สอง ทำให้ลูกขาดทักษะในการใช้ชีวิตโดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น เพราะว่าพ่อแม่ทำให้หมด เช่น เด็กบางคนใกล้เข้าโรงเรียนประถมแล้ว แต่ยังแต่งตัวเองไม่เป็น ล้างหน้าแปรงฟันเองไม่ได้ ยังต้องให้พ่อแม่ป้อนข้าว ซึ่งจะทำให้กลายเป็นเด็กขี้ขลาด มีการพึ่งพาพ่อแม่มาก จนไม่มีความสามารถในการปรับตัวใช้ชีวิตอย่างอิสระไม่ได้ ความสามารถที่จะคิดเองและมีการกระทำที่เป็นอิสระ

สาม การเลี้ยงดูลูกด้วยความรักที่มากเกินไปจะทำให้ลูกมีจิตใจที่ถือตัวเองเป็นศูนย์กลางและเห็นแก่ตัว เนื่องจากพ่อแม่บางคนกลัวว่าลูกอาจถูกคนอื่นรังแก จึงไม่ให้ลูกเล่นกับเด็กอื่นๆ และทำให้ลูกกลายเป็นคนที่ไม่ใส่ใจคนอื่น ขาดความคิดที่มีความรับผิดชอบร่วมกันแบบเป็นหมู่คณะ ไม่รู้จักไมตรีจิต ไม่คิดถึงคนอื่น และถือตัวเองเป็นศูนย์กลาง จนกลายเป็นคนที่ไม่มีศีลธรรมของสังคม

สี่ ทำให้ลูกไม่รู้จัดที่จะประหยัด ผลสำรวจพบว่า อัตราการใช้จ่ายฟุ่งเฟือยในที่เด็กที่เป็นลูกคนเป็นร้อยละ 62 แต่ในกลุ่มเด็กที่ไม่ใช่ลูกคนเดียวเป็นเพียงร้อยละ 5 ความเคยชินในการใช้จ่ายเงินสิ้นเปลืองเป็นผลเสียที่พ่อแม่เลี้ยงดูลูกด้วยความรักที่มากเกินไป ซึ่งไม่เพียงแต่ทำลายการเติบโตอย่างมีสุขภาพจิตที่ดีของเด็กเท่านั้น หากยังส่งผลกระทบต่อสังคมด้วย ผลสำรวจยังพบว่า อัตราความจู้จี้จุกจิกกับการใส่เสื้อผ้าของเด็กที่เป็นลูกคนเดียวเป็นร้อยละ 90 แต่ของเด็กที่ไม่ใช่ลูกคนเดียวเป็นเพียงร้อยละ 14

ความเคยชินที่ไม่ดีและปฏิบัติการที่ไม่ดีเหล่านี้ของเด็กมีความสัมพันธ์โดยตรงจากการเลี้ยงดูลูกด้วยความรักที่มากเกินไป ดังนั้น ถ้าพ่อแม่ต้องการให้ลูกมีการเติบโตอย่างมีสุขภาพกายและใจที่ดี ควรฝึกอบรมให้ลูกมีความเคยชินในการดำรงพึ่งพาตนเองเป็นชีวิตแบบ และมีคุณธรรมจริยธรรมที่ดี และอย่าเลี้ยงลูกด้วยการให้ความรักที่มากเกินเหตุ

Yim/kt