สัปดาห์ก่อนโน้นผมพาคุณผู้อ่านไปทานหม้อไฟในร้านหูท่งมาแล้ว วันนี้ขอพามาชิมอาหารเพื่อสุขภาพตำรับกวางตุ้งกันอีกสักมื้อกับร้านที่เพิ่งเปิดสาขาในกรุงปักกิ่งได้ไม่นานครับ ชื่อว่า "เพิงหรันซื่อจี้" เพิงหรัน ก็คือ หม้อไฟ ส่วน ซื่อจี้ ก็คือ 4 ฤดู ตั้งอยู่ชั้น 2 อาคารสำนักงานแห่งหนึ่งแถววงแหวน 3 เขตเฉาหยาง (บอกละเอียดกว่านี้เดี๋ยวจะหาว่าได้ค่าโฆษณา) ร้านนี้โดดเด่นด้วยการนำ "น้ำและเนื้อ" ของมะพร้าวมาทำเป็นซุปครับ ความแปลกตรงนี้เองที่ทำให้เพื่อนชาวจีนลากผมมาทานถึงร้าน
หน้าร้านประดับด้วยผักสดที่เพาะกันดื้อ ๆ อย่างนั้นเลย ทราบทีหลังว่าก็คือผักที่นำมาเสิร์ฟให้เรา ๆ ทานกันเนี่ยแหละ ถัดมาอีกนิดก็เป็นตู้ตระกูลเห็ดครับ ผมหยุดชะงักเบิกตามองความอลังการของเห็ดเล็กน้อย คิดในใจว่าตัวผมเองทั้งที่ก็ไปตลาดสดแถวที่พักอยู่บ่อย ๆ ยังไม่ยักจะเจอเห็ดใหญ่โตขนาดนี้
บรรยากาศร้านวันนี้คนเยอะไม่เบา น่าจะด้วยเพิ่งเปิดใหม่จึงเป็นกระแสเรียกความสนใจแก่หนุ่มสาวทั่วไปได้ไม่ยาก โต๊ะที่เราจับจองไว้อยู่ริมหน้าต่างพอดี เบื้องหน้ามีหม้อยักษ์และเครื่องเคียงสำหรับผสมน้ำจิ้มพร้อม ประกอบด้วยซีอิ้วขาว ขิง กระเทียม ส้มจี๊ด พริกแดงซอย เขียนไป ต่อมน้ำลายก็ขยันทำงานวนไป
ระหว่างทีรอซุปน้ำมะพร้าวเดือดได้ที่ ก็มีของมาให้ทานเล่นเป็นวุ้นมะพร้าวกะทิ ที่เจ้าของรับประกันว่านำเข้าจากไทยกัน ดูมนุษย์เพื่อนชาวจีนจะร่าเริงกับสิ่งนี้กันใหญ่ ในขณะที่ผมชิมแล้วกลับรู้สึกเฉย ๆ ใครมาทานอยากจะข้ามก็ไม่เสียหาย สิ่งที่น่าสนใจกว่าสำหรับผมกลับเป็นเจ้า "กระดาษเช็ดปาก" ครับ ผมเกือบโชว์ความทึ่มแล้วจริง ๆ เพราะบ้านเราก็ยังไม่มี ทีแรกผมนึกว่าเจ้าสิ่งนี้คือลูกอมครับ ทำมาเป็นเม็ด ๆ ใส่ซองขาวนวลน่าทานเชียว ที่ไหนได้ พอพนักงานเดินมาแกะแล้วเอาน้ำร้อนราดเท่านั้นแหละ ค่อยถึงบางอ้อว่า ข้อดีที่ทำบรรจุภัณฑ์แบบนี้มาก็ประหยัดเนื้อที่ร้านไปได้มาก ๆ เลยนะครับ แนะนำจริง ๆ สำหรับผู้ประกอบการชาวไทย
คุยไปคุยมาได้สักพัก พนักงานสาวคนเดิมขน "ไก่บ้าน" สับถาดโตมาเทลงหม้อน้ำซุป ตามด้วยเนื้อมะพร้าวซอย เต้าหู้ มะเขือเทศ เยื่อไผ่ และเห็ดยักษ์หน้าร้าน ตัวผมเองขณะกำลังเอื้อมมือไปหยิบโกดังลูกชิ้นมาเทใส่ให้บ้าง คุณเธอรีบหันค้อนและร่ายยาวเป็นภาษาจีนกวางตุ้งทันที "ยังค่ะ ยังนะคะ คุณจะยังใส่ลูกชิ้นไม่ได้นะคะ คุณต้องทานที่ฉันเทลงไปให้หมดก่อนค่ะ เพื่อที่จะได้น้ำซุปที่ข้นพอสำหรับรอบต่อไป" สรุปคือร้านนี้เขามีขั้นมีตอนครับ หนึ่ง สอง สาม สี่ จะลัดไม่ได้ สิ้นเสียงเธอ ผมเหมือนโดนสปอร์ตไลท์ส่องกลางเวที ชาวจีนโต๊ะอาณาบริเวณหันมามองกันใหญ่ สงสัยคิดในใจว่าไอ้นี่ลงดอยไหนมา ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขา
ผมนั่งสงบเสงี่ยมเจียมตัวยาวจนได้เวลาจึงค่อย ๆ ตักไก่บ้านชิ้นโตลงถ้วยพร้อมซุปน้ำมะพร้าว พอตักเข้าปากครั้งแรกก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมไม่มีรสชาติน้ำมะพร้าวอยู่เลย ออกจืดเสียด้วยซ้ำ "เอาน่า อย่างน้อย ถ้านี่เป็นซุปน้ำมะพร้าวก็ดีต่อสุขภาพล่ะวะ" ผมนึกในใจ
ร้านหม้อไฟ 4 ฤดูแห่งนี้ไม่ได้มีแค่เนื้อไก่บ้านครับ ยังมีลูกชิ้นหมู ปลาทำมือ หมูย่างมาเก๊า ปลิงทะเล เนื้อวัว ตามแต่จะสั่ง ถ้าถามผมผมว่าร้านนี้เหมาะสำหรับคนที่รักสุขภาพมาก ๆ ครับ เพราะทุกอย่างตั้งแต่ผัก เนื้อสัตว์ ซุป กระดาษเช็ดปาก ฯลฯ เขาตั้งใจเสนอบริการอาหารที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจริง ๆ คุณผู้อ่านท่านใดมีโอกาสแวะมาเที่ยวปักกิ่ง หรือชาวไทยคนไหนที่อยู่ปักกิ่งนาน ๆ แล้วอยากเปลี่ยนแนวการกิน ลองดูร้านนี้ไว้พิจารณาก็ไม่เสียหลายนะครับ