การวิ่งออกกำลังกาย (1)
  2017-06-08 13:33:44  cri

 ปัจจุบัน การวิ่งออกกำลังกายเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในจีน จำไม่ได้ว่า ตั้งแต่เมื่อไรที่ผู้คนเปลี่ยนจากการลงข่าวเรื่องอาหารการกินมาเป็นเรื่องการออกกำลังกายในโซเซียลมิเดีย โดยระบุว่า วันนี้เดินกี่ก้าว วิ่งกี่กิโลเมตร การวิ่งเป็นกระแสมาแรง ชายหญิงผู้เฒ่าเด็กเล็กล้วนพากันวิ่งออกกำลังกาย บางคนประมาณว่า แค่เพียงข้ามคืน ทุกคนต่างก็คลั่งไคล้การวิ่งแล้ว

นักเศรษฐศาสตร์ให้เหตุผลว่า เมื่อจีดีพีเฉลี่ยต่อคนของประเทศหนึ่งบรรลุ 5,000 ดอลล่าร์สหรัฐแล้ว ก็มุ่งเน้นคุณภาพชีวิต หันไปให้ความสำคัญกับการศึกษา การรักษาพยาบาล สุขภาพ และภาพลักษณ์ส่วนบุคคล

เขาบอกว่า ผู้สร้างกระแสคลั่งไคล้การออกกำลังกายด้วยการวิ่งครั้งนี้คือ ผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงผู้บริหารระดับสูงของวิสาหกิจ เจ้าของบริษัทเอกชน หัวหน้าหน่วยงาน ข้าราชการ และคนทำงานออฟฟิศทั้งหลาย โดยเฉพาะกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ และเมืองกว่าง โจวซึ่งเป็นเขตที่เศรษฐกิจพัฒนานั้นปรากฎว่า มีผู้ที่นิยมวิ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

"กูตง" แอพพลิเคชั่นออกกำลังกายยอดนิยมของจีนได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการวิ่ง และพบว่า ผู้วิ่งส่วนใหญ่วิ่งระยะทางเฉลี่ยครั้งละ 2.82 กิโลเมตร ความสูงของผู้วิ่งชายอยู่ที่ 1.75-1.80 เมตร น้ำหนักอยู่ที่ 60-80 กิโลกรัม อายุ 25-35 ปี ส่วนความสูงของผู้วิ่งหญิงระหว่าง 1.60-1.65 เมตร น้ำหนักระหว่าง 50-60 กิโลกรัม อายุระหว่าง 25-35 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่า กลุ่มสำคัญของผู้ที่ออกกำลังกายด้วยการวิ่งในจีนไม่ว่าอายุหรือสุขภาพล้วนอยู่ในช่วงทองซึ่งเป็นช่วงที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงดีที่สุด จากข้อมูลดังกล่าวพบว่า สตรีนิยมออกกำลังกายด้วยการวิ่งมากขึ้น เมื่อ 2016 ผู้วิ่งหญิงมากกว่าปี 2015 6.4 เท่า

ผู้คนตื่นตัวให้ความสนใจในการบริหารร่างกายด้วยการวิ่งออกกำลังกายแอพ "กูตง" เผยว่า ผู้วิ่งออกกำลังกายของเมืองต่าง ๆ มีเอกลักษณ์ต่างกัน โดยชาวเมืองกว่างโจวนิยมอวดผลงาน มีร้อยละ61.4 จะประกาศสถิติของตนลงในโซเซียลมีเดีย นักวิ่งชาวเซี่ยงไฮ้ขยันที่สุด เฉลี่ยแล้วจะวิ่งสัปดาห์ละ 2 ครั้ง อยู่อันดับแรกในบรรดาเมืองต่าง ๆ ของจีน ส่วนนักวิ่งปักกิ่งมีความอดทนมากที่สุด เฉลี่ยแล้ว แต่ละครั้งจะวิ่ง 5.26 กิโลเมตร สัดส่วนของผู้วิ่งหญิงในเมืองหางโจวสูงสุด สูงถึงร้อยละ47

มีรายงานว่า ช่วงเวลาในการวิ่งออกกำลังกายของชาวจีนก็ไม่เหมือนกับประเทศอื่น RunKeeper แอพออกกำลังกายชื่อดังในโลกได้ทำการสำรวจใน 30 ประเทศ และพบว่า ร้อยละ 18 นิยมวิ่งตอน 6-9 โมงเช้า ร้อยละ 32 นิยมวิ่งตอน 5 โมงเย็นถึง 2 ทุ่ม ร้อยละ 32 เช่นกันที่นิยมวิ่งในวันเสาร์และวันอาทิตย์ ตอน 8-11 โมงเช้า ชาวอินเดีย นิยมวิ่งตอนเช้า โดยร้อยละ 22 เลือกวิ่งตอน 6-7 โมงเช้าในวันทำงาน ส่วนชาวจีนร้อยละ 14 วิ่งตอน 3-4 ทุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 24-35 ปี ร้อยละ 57 นิยมวิ่งตอน 2-4 ทุ่ม เราทราบกันดีว่า การให้หนุ่ม ๆ สาว ๆ ตื่นเช้ามาออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ง่าย อย่างไรก็ตาม มีหนุ่ม ๆ สาว ๆ ส่วนหนึ่ง เมื่อเสร็จงานทั้งวันแล้ว จะเจียดเวลาไปวิ่งตอนค่ำ เพราะฉะนั้น จีนจึงมีคนกลุ่มหนึ่งเรียกว่า "เย่เผ่าจู๋" คำว่า "เย่" หมายถึงค่ำคืน คำว่า "เผ่า" หมายถึงวิ่ง และคำว่า "จู๋" หมายถึงกลุ่ม "เย่เผ่าจู๋" หมายถึงกลุ่มคนที่นิยมวิ่งกลางคืน

ตามความคิดเก่า การวิ่งเป็นกีฬาที่ให้ความรู้สึกว่าโดดเดี่ยวเดียวดาย แต่ในยุคดิจิดอล การวิ่งกลายเป็นวิธีการติดต่อไปมาหาสู่กันแบบใหม่ ผู้นิยมวิ่งมักจะแบ่งปันความรู้สึกนึกคิดเกี่ยวกับการวิ่งออกกำลังกาย แลกเปลี่ยนประสบการณ์การร่วมการแข่งขันประเภทต่าง ๆ แนะนำเส้นทางวิ่ง และนัดวิ่งด้วยกัน

(In/Zhou)

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040