การพัฒนาของจีนเป็นการพัฒนา ที่สันติ เปิดกว้าง และร่วมมือกัน

หนทางการพัฒนาอย่างสันติ    การพัฒนาของจีนเป็นการพัฒนา
ที่สันติ การพัฒนาที่เปิดกว้าง    การพัฒนาที่ร่วมมือกัน การยืน
หยัดแนวทางการพัฒนาอย่างสันติก็คือ    รวมทั้งพัฒนาตนเอง
ด้วยการขวนขวายสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศที่สันติและ
ส่งเสริมสันติภาพของโลกด้วยการพัฒนาตนเอง โดยจะเป็นพลัง

              ประธานาธิบดีหู จิ่นเทาแห่งประเทศจีนแสดงปาฐกถา
สำคัญในประเด็นทิศทางการพัฒนาของจีน ฯลฯ ที่ศาลาว่าการ
นครลอนดอน ท่านชี้ให้เห็นอย่างแจ่มแจ้งว่า    สิ่งที่ประเทศจีน
เลือกสรรและยืนหยัดคือแนวทางการพัฒนาอย่างสันติ    การ
พัฒนาของจีนเป็นการพัฒนาที่สันติ การพัฒนาที่เปิดกว้าง การ
พัฒนาที่ร่วมมือกัน
       ประธานาธิบดีหู จิ่นเทากล่าวในปาฐกถาว่า ในยุคปัจจุบัน
ที่โลกหลายขั้วกับโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มพัฒนา
อย่างลุ่มลึก ประชาชนประเทศต่าง ๆ ในโลกต้องส่งเสริมการ
พัฒนาของประเทศตน ร่วมกันสร้างโลกสมานฉันท์ที่มีสันติ-
ภาพยาวนานและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน ต้องเพิ่มพูนความ
เข้าใจกัน เสริมสร้างความไว้วางใจกัน
               ท่านชี้ให้เห็นว่าตั้งแต่ดำเนินการปฏิรูปและเปิดสู่ภาย-
นอกมานาน 27 ปี การพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของจีนได้
ประสบความสำเร็จที่ทำให้ทั่วโลกสนใจกัน    การพัฒนาของจีน
ได้รับความสนใจจากทั่วโลก    หากจะศึกษาทิศทางการพัฒนา
ของจีน สิ่งสำคัญที่สุดคือ       จะต้องศึกษาว่าจีนได้เลือกสรร
หนทางการพัฒนาอย่างไร หนทางที่จีนเลือกสรรและยืนหยัดคือ

      การที่จีนยืนหยัดแนวทางการพัฒนา
โดยสันติวิธี   เป็นทางเลือกที่แน่วแน่อัน
เนื่องมาจากวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ที่
สืบทอดมาช้านานของจีน ประชาชาติจีน
รักษาสัตย์  ปรองดองกับเพื่อนบ้านและ
รักสันติภาพแต่ไหนแต่ไรมา    ในประ-
วัติศาสตร์ยุคใกล้ จีนถูกอิทธิพลภายนอก
รุกรานและย่ำยี    ประชาชนจีนจึงทราบ
อย่างดีว่า    สันติภาพเป็นสิ่งล้ำค่า นับตั้ง
แต่สถาปนาจีนใหม่เป็นต้นมา       จีนยืน
หยัดนโยบายการต่างประเทศที่เป็นเอกราช
มีอธิปไตยของตนเองและมุ่งสู่สันติภาพ
จึงเป็นพลังอันแข็งแกร่งแต่ไหนแต่ไรมา

ด้วยการขวนขวายสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศที่สันติและ
ส่งเสริมสันติภาพของโลกด้วยการพัฒนาตนเอง โดยจะเป็นพลัง
อันแข็งแกร่งในการพิทักษ์สันติภาพของโลก ส่งเสริมการพัฒนา
ร่วมกันตลอดไป จีนจะอาศัยกำลังของตนเองและการปฏิรูป การ
สร้างนวัตกรรมเป็นหลักเพื่อบรรลุซึ่งการพัฒนาขณะเดียวกัน
ก็จะยืนหยัดนโยบายพื้นฐานแห่งชาติในการเปิดสู่ภายนอก
ดำเนินการแลกเปลี่ยนและร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
บนพื้นฐานเสมอภาคและเกื้อกูลด้วยกัน เพื่อพยายามบรรลุซึ่ง
ชัยชนะร่วมกันที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน
        การที่จีนยืนหยัดแนวทางการพัฒนาโดยสันติวิธี เป็นทั้ง
ความต้องการตามความเป็นจริงของการพัฒนาของจีนและมี
มูลเหตุทางประวัติศาสตร์ในการพัฒนาของจีน
               การที่จีนยืนหยัดแนวทางการพัฒนาโดยสันติวิธี เป็น
ทางเลือกที่แน่วแน่อันเนื่องมาจากสภาวการณ์ของประเทศจีน
แม้จีนได้ประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวงในการพัฒนา แต่
จีนยังคงเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดในโลก การที่จีน
จะพัฒนาเศรษฐกิจให้ติดระดับประเทศพัฒนาปานกลาง    ยัง
ต้องฟันฝ่าต่อสู้อีกระยะยาวมากสภาวการณ์พื้นฐานดังกล่าวนี้
กำหนดให้การผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและการปรับ-
ปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น
ภาระหน้าที่หลักของจีนตลอดไป

ในการพิทักษ์สันติภาพของโลกและส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน
              การที่จีนยืนหยัดแนวทางการพัฒนาโดยสันติวิธี เป็น
ทางเลือกที่แน่วแน่อันเนื่องมาจากกระแสการพัฒนาของโลก
ปัจจุบัน การขวนขวายสันติภาพ    การส่งเสริมการพัฒนา การ
แสวงหาความร่วมมือ เป็นความปรารถนาร่วมกันของประชาชน
ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และเป็นกระแสประวัติศาสตร์ที่มิอาจ
จะขวางกั้นได้ ประเทศใด ๆ ก็ตามต่างต้องคล้อยตามแนวโน้ม
การพัฒนาของโลกเพื่อบรรลุซึ่งเป้าหมายการพัฒนาของตนเอง
นโยบายการต่างประเทศของจีนมีวัตถุประสงค์เพื่อพิทักษ์สันติ
ภาพโลก ส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน จีนมีความเห็นว่า ความ
สัมพันธ์ระหว่างประเทศต้องเป็นแบบประชาธิปไตยและมีรูป
แบบการพัฒนาอย่างหลากหลาย โดยผลักดันโลกาภิวัตน์ทาง
เศรษฐกิจให้พัฒนาไปในทางที่เป็นผลดีต่อการบรรลุซึ่งเจริญ
รุ่งเรืองร่วมกัน ผลักดันอย่างแข็งขันในการสร้างระเบียบใหม่
ทางการเมืองเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่เป็นธรรมและสม-
เหตุผล การพัฒนาของจีนจะนำมาซึ่งโอกาสมากยิ่งขึ้นและตลาด
ที่กว้างยิ่งขึ้นให้แก่นานาประเทศจีนจะเชิดชูธงแห่งสันติภาพ
การพัฒนาและความร่วมมืออย่างไม่ลดละตลอดไป จะเดินแนว
ทางการพัฒนาโดยสันติวิธีอย่างแน่วแน่    ร่วมมือกับประชาชน
ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก     เพื่อร่วมกันผลักดันภารกิจอันสูงส่ง
ว่าด้วยสันติภาพและการพัฒนาของมนุษยชาติ

จีนผลักดันการสนทนาระหว่างอารยธรรม ที่แตกต่างกันในประชาคมโลกอย่างแข็งขัน

และเปิดกว้าง ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เป็นแบบ
ประชาธิปไตย ร่วมใจร่วมแรงสร้างโลกสมานฉันท์ที่อารยธรรม
ต่าง ๆ       สั่งสมคงอยู่ร่วมกัน เมื่อไม่นานมานี้ ที่ประชุมครั้งที่
33 ขององค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติได้ลงมติผ่าน “กติกา
สัญญาว่าด้วยการคุ้มครองความหลากหลายของสาระทางวัฒนธรรม
และรูปแบบการแสดงออกทางศิลปะ” ซึ่งเป็นผลสำเร็จสำคัญ
ที่ประชาคมโลกได้ประสบในการปกป้องความหลากหลายทาง
วัฒนธรรมของโลก แสดงให้เห็นว่า ความหลากหลายทางวัฒ-
ธรรมถูกยกระดับสูงขึ้นเป็นศีลธรรมและจริยธรรมที่ประชาคม
โลกควรปฏิบัติตามแล้ว
         หัวข้อการประชุมฟอรัมครั้งนี้คือ เคารพความหลากหลาย
ทางวัฒนธรรม    ร่วมกันสร้างสรรค์โลกที่สมานฉันท์ โดยมีวัตถุ

                   หลังจากองค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติมีมติผ่าน
“กติกาสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองความหลากหลายทางวัฒนธรรม”
แล้ว       “โฟรัมโลกาภิวัตน์ครั้งที่ 3 : ความหลากหลายทางวัฒน-
ธรรมโลก”       ที่มีสำนักหนังสือพิมพ์เหรินหมินรึเป้า มูลนิธิความ
ร่วมมือทางโลกาภิวัตน์และสันนิบาตความหลากหลายทางวัฒน-
ธรรมขององค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติร่วมเป็นเจ้าภาพ    ได้
จัดขึ้นอย่างมโหฬารที่หอประชุมประชาชนมณฑลเจ้อเจียง
                 จีนเป็นผู้ริเริ่มให้สร้างสรรค์โลกที่สมานฉันท์ และเป็น
ผู้ปฏิบัติตามความเห็นนี้ด้วย       จีนมีความเห็นแต่ไหนแต่ไรให้
รักษาไว้ซึ่งความหลากหลายของอารยธรรมด้วยจิตใจที่เสมอภาค

ประสงค์เพื่อผลักดันอารยธรรมที่แตกต่างกันให้เปิดการสนทนา
อย่างเสมอภาค       ส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาร่วมกันของ
โลก ตั้งแต่ทศวรรษปี    1990    เป็นต้นมา พร้อม ๆ กับการพัฒนา
วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องและโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ
ที่ลุ่มลึกขึ้นทุกวัน       ประเทศจำนวนมากในโลกต่างรับรู้ว่า ความ
หลากหลายและสมบูรณ์ทางวัฒนธรรมกำลังได้รับการคุกคาม
อย่างร้ายแรง       มนุษยชาติจำต้องค้นหาแนวทางพัฒนาที่สามารถ
รักษาไว้ซึ่งความหลากหลายทางวัฒนธรรม
          มณฑลเจ้อเจียงในฐานะเป็นแหล่งกำเนิดอารยธรรมโบราณ
ของจีนแห่งหนึ่ง          มีการสั่งสมทางวัฒนธรรมที่แน่นหนา ซึ่งทำ
ให้วัฒนธรรมของมณฑลเจ้อเจียงมีเอกลักษณ์ที่หลากหลาย       ใน
ประวัติศาสตร์อันยาวนานของมณฑลเจ้อเจียง          วัฒนธรรมดิน
แดนชั้นในกับวัฒนธรรมทะเล          วัฒนธรรมหวูเยว่ในท้องถิ่นกับ
วัฒนธรรมจงหยวนภาคกลางผสมผสานกัน             วัฒนธรรมที่สืบ
ทอดกับวัฒนธรรมร่วมสมัยกลมกลืนกัน             วัฒนธรรมจีนกับ
วัฒนธรรมตะวันตกกระตุ้นฮึกเหิมด้วยกัน          ประกายของวัฒน-
ธรรมต่าง ๆ          สะท้อนแสงแวววาว ทำให้วัฒนธรรมของมณฑล
เจ้อเจียงเปล่งสีสันแพรวพราว