สระเทียนฉือบนภูเขาฉางไป๋ซาน :
หยกเขียวท่ามกลางเทือกเขา

เขา มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลเพียง 2,194 เมตรเท่านั้นก็
ตาม แต่ก็นับเป็นแอ่งน้ำภูเขาไฟที่สูงที่สุดของจีน สระน้ำมี
รูปทรงกลมรี มีเนื้อที่ 9.82 ตารางกิโลเมตร รอบขอบสระยาว
13.1 กิโลเมตร น้ำในสระลึกมาก โดยถัวเฉลี่ยลึก 204 เมตร
ที่ลึกที่สุด 373 เมตร จึงนับเป็นทะเลสาบที่มีน้ำลึกที่สุดของ
จีน มีปริมาณน้ำทั้งหมดประมาณ   2,000 ล้านลูกบาศก์เมตร
น้ำในสระไหลออกมาจากปากโหว่เล็ก   ๆ ไหลไปประมาณ
1,000 กว่าเมตร แล้วหลั่งลงไปจากหน้าผา   กลายเป็นน้ำตก
ใหญ่ภูเขาฉางไป๋ชื่อซานที่ลือชื่อ มีความสูง 60 กว่าเมตร เป็น
ทิวทัศน์ยิ่งใหญ่มาก น้ำตกส่งเสียงดังสนั่นไปไกลถึง 200 เมตร
น้ำของน้ำตกไหลไปสู่แม่น้ำซงฮัวเจียง โดยเป็นต้นน้ำแห่งหนึ่ง
ของแม่น้ำซงฮัวเจียง ณ สถานที่ห่างจากน้ำตกไม่ไกลนักยังมี
น้ำพุร้อนฉางไป๋    ซึ่งเป็นกลุ่มน้ำพุร้อนที่กระจายอยู่ในเนื้อที่
1,000 ตารางเมตร มีตาน้ำ 13 จุดพ่นน้ำพุออกมา
          ในสระเทียนฉือนอกจากน้ำแล้ว ยังมีหินก้อนมหึมา เดิมที
ในสระน้ำไม่มีสิ่งมีชีวิตแต่อย่างใด แต่ปีหลัง         ๆ นี้ได้พบปลา
rainbow trout    ซึ่งเป็นปลาน้ำเย็นชนิดหนึ่งในสระน้ำ ปลานี้
เติบโตช้ามาก เนื้อปลารสชาติอร่อย การได้ชิมปลาชนิดนี้ในการ
ไปท่องเที่ยวที่ภูเขาฉางไป๋ซาน       ก็นับเป็นลาภปากอย่างหนึ่ง

           สระเทียนฉือ (สระสวรรค์) ภูเขาฉางไป๋ซาน (ดอยขาว
ยาว)มีอีกชื่อหนึ่งว่าสระเทียนฉือภูเขาไป๋โถวซาน(ดอยหัวขาว)
ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของมณฑลจี๋หลิน เป็นทะเลสาบแบ่ง
พรมแดนจีนกับเกาหลีเหนือ โดยด้านเหนือของทะเลสาบอยู่
ในเขตมณฑลจี๋หลิน     เป็นภูเขาที่มีลักษณะสง่าเกรียงไกร
ทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ ทิวทัศน์สวยงามมาก
          ในยุคดึกดำบรรพ์ ภูเขาฉางไป๋ซานเดิมเป็นภูเขาไฟ
เอกสารประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16
เป็นต้นมา ภูเขาไฟเคยพ่นไฟอีก 3 ครั้ง หลังจากภูเขาไฟพ่น
หินลาวาเหลวหนืดออกมาแล้ว ตรงปล่องภูเขาไฟกลายเป็น
กรวยทรงแอ่งกะทะ เวลานานเข้า น้ำขังก็คั่งค้างเป็นแอ่งน้ำ
กลายเป็นสระเทียนฉือในปัจจุบัน ส่วนวัตถุหิน Lava ที่ไหล
หลั่งจากภูเขาไฟก็กองทับถบที่รอบภูเขาไฟ กลายเป็นยอดเขา
16 ลูกที่เรียงรายอยู่บริเวณใกล้เคียง ยอดเขาเหล่านี้ มี 7 ลูก
อยู่ในเขตเกาหลีเหนือ 9 ลูกตั้งอยู่ในเขตจีน ยอดเขาทั้ง 9 ลูก
ในแดนจีนต่างมีเอกลักษณ์ของตนเอง เป็นทรรศนียภาพที่
แปลกตาน่าอัศจรรย์
       สระเทียนฉือแม้จะอยู่ตรงกลางซึ่งล้อมรอบไปด้วยยอด

อำเภอลู่เฟิง : ถิ่นฐานไดโนเสาร์ที่มหัศจรรย์

          การณ์ที่ไดโนเสาร์ร้องเสียงก้องดังลั่นเมื่อ 180 ล้านปีที่
แล้ว บันดาลให้ตำราประวัติศาสตร์โลกบันทึกจุดเด่นสีแดงจุด
หนึ่ง : อำเภอลู่เฟิงในมณฑลยูนนาน
          อำเภอลู่เฟิงมีไดโนเสาร์อายุ200ล้านปีก่อน อันได้สะ-
ท้อนความลี้ลับที่ทำให้ท่านต้องครุ่นคิดเป็นเวลานาน ที่นั่นได้
ฝังซากของ วานร ลามา เมื่อ 10 ล้านปีก่อน เป็นการแย้มพราย
สิ่งอัศจรรย์เกี่ยวกับต้นกำเนิดของมนุษยชาติ ส่วนเฮยจิ่งซึ่งเป็น
เมืองโบราณทางวัฒนธรรมประวัติศาสตร์     เป็นถิ่นฐานที่ฉาย
แสงสีสันสดใส ภูเขาอู่ไถซานที่มีลำห้วยสวยใสดอยผาประหลาด
และดึงดูดจิตใจของผู้คน    เป็นการย้อนให้เห็นฝีมือชั้นเซียน
ของธรรมชาติ......
             อำเภอลู่เฟิงมีความได้เปรียบทางด้านคมนาคม ทางรถ

ไฟช่วงเฉิงตู-คุนหมิง และทางรถไฟช่วงกว่างทง-ต้าหลี่ ว่ิงผ่าน
อำเภอลู่เฟิง ตัวเมืองลู่เฟิงอยู่ชิดทางหลวงหมายเลย 320 ห่าง
จากคุนหมิงทางทิศตะวันออก   106 กิโลเมตร หลังจากสร้าง
ทางหลวงเชื่อมอำเภอลู่เฟิงกับทางด่วนช่วงอานหนิง  -ฉู่สยุง
แล้ว การเดินทางจากคุนหมิงถึงอำเภอลู่เฟิงจะใช้เวลาเพียง 40
นาทีเท่านั้น
             ทุกวันนี้อำเภอลู่เฟิงอาศัยความได้เปรียบของตนเอง
เสริมสร้างอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ให้ใหญ่โต
ขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยยึดถือการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์ต่อ
ฟอสซิลไดโนเสาร์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการพัฒนาการท่องเที่ยว
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2004 กระทรวงทรัพยากรแผ่นดินแห่ง
ชาติของจีน ได้พิจารณาอนุมัติและประกาศให้ “ไดโนเสาร์ลู่เฟิง
ยูนนาน”         เป็น 1 ใน 41 อุทยานธรณีวิทยาแห่งชาติงวดที่ 3
มณฑลยูนนานได้จัดให้การพัฒนาทรัพยากรฟอสซิลไดโนเสาร์
ลู่เฟิงเป็นโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวที่สำคัญ การสร้างอุทยาน
จูแรสซิกปาร์กแห่งประเทศจีนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ได้กลาย
เป็นความเห็นพ้องกันอย่างกว้างขวางแล้ว