ร้าน Papaya Restaurant (ปิดบริการไปแล้ว)
ตามที่แนนเคยอ่านในข่าว บอกว่า ชาวจีนในเมืองใหญ่มีค่าใช้จ่ายด้านอาหารขยายตัวเฉลี่ยประมาณร้อยละ 4.3 ต่อคนต่อปี และกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ชาวจีนใช้จ่ายเงินเพื่อการบริโภคอาหารในสัดส่วนค่อนข้างสูง โดยเฉพาะเริ่มนิยมซื้ออาหารจากร้านค้าปลีกและรับประทานอาหารนอกบ้านเพิ่มขึ้น และชาวจีนยุคใหม่นิยมบริโภคอาหารรสจัดและมีสมุนไพรเป็นส่วนประกอบซึ่งสอดคล้องกับลักษณะของอาหารไทย ทำให้ธุรกิจร้านอาหารไทยมีแนวโน้มสดใสท่ามกลางความหลากหลายของวัฒนธรรมการบริโภคของชาวจีนในปัจจุบัน
กลุ่มลูกค้าที่นิยมรับประทานอาหารไทยมี 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มที่มีรายได้สูงและอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ กลุ่มวัยรุ่นที่นิยมรับประทานอาหารของชาติต่างๆ และกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมทั้งชาวตะวันตกที่ทำงานในจีน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราวร้อยละ 30-40 ของลูกค้าร้านอาหารไทยทั้งหมด
ร้านอาหารไทยในกรุงปักกิ่งมีประมาณ 40 ร้านค่ะ แต่ก็ยังมีปัญหาบางอย่างที่ทำให้อาหารไทยยังไม่เป็นที่แพร่หลายในจีนมากนัก คือ 1) มีราคาแพงเนื่องจากต้องใช้วัตถุดิบนำเข้า 2) กว่าร้อยละ 70 ของร้านอาหารไทยในจีนมีคนจีนเป็นเจ้าของ อีกทั้งพ่อครัวและแม่ครัวก็ไม่ใช่คนไทย ทำให้ส่วนประกอบและรสชาติของอาหารอาจผิดเพี้ยนไปจากดั้งเดิม 3) บางร้านมีการจำหน่ายปะปนกับอาหารชาติอื่นๆ ทำให้ขาดเอกลักษณ์ของอาหารไทยไป
แต่ถึงกระนั้น ทุกครั้งที่แนนไปทาน ไม่ว่าจะร้านไหนก็ยังเห็นคนจีนมาทานกันเยอะ และทานกันอย่างเอร็ดอร่อยด้วย แต่ด้วยความแตกต่างวัฒนธรรม ส่วนมากแล้วจะเห็นคนจีนรับประทานอาหารไทยด้วยตะเกียบ ไม่ว่าจะเป็นการคีบผัดผักหรือไข่เจียวก็ตาม ดูแล้วเป็นการผสมผสานวัฒนธรรมกันอย่างลงตัวแบบยุคโลกไร้พรมแดนจริงๆ ค่ะ
แนน