เพื่อนๆ ที่เคยไปเที่ยวกรุงปักกิ่ง ส่วนมากคงจะเคยไปชมพระราชวังต้องห้าม (กู้กง) และพระราชวังฤดูร้อน (อี๋เหอหยวน) กันมาแล้ว สำหรับผู้ที่ติดใจการเที่ยวชมพระราชวังและสถาปัตยกรรมแบบสถานที่ทั้งสอง ถ้ามีโอกาสได้มากรุงปักกิ่งอีกครั้ง แนนขอแนะนำว่าคราวนี้ลองไปเที่ยวพระราชวังตากอากาศเฉิงเต๋อบ้างดีไหมคะ เพราะว่าจะได้บรรยากาศของพระราชวังทั้งสองแห่งรวมกันอยู่ในที่เดียวเลยค่ะ จะได้ชมทั้งพระราชวังโบราณแล้วก็ยังสามารถเที่ยวชมอุทยานด้วย ส่วนสถานที่นั้นก็อยู่ไม่ไกลจากกรุงปักกิ่ง สามารถไปเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับโดยรถยนต์ได้ภายในวันเดียวค่ะ
บรรยากาศข้างทางระหว่างเดินทางไปจากปักกิ่ง
พระราชวังตากอากาศเฉิงเต๋อ ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อปี 1994 ตั้งอยู่ในเมืองเฉิงเต๋อ มณฑลเหอเป่ย ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงปักกิ่งไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 200 กิโลเมตร เป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่มีชื่อเสียงในภาคเหนือของจีน เป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมโบราณหลงเหลืออยู่มาก เนื่องจากเคยเป็นเมืองหลวงสำรองของราชวงศ์ชิง สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองนี้นั้น นอกจากจะมีพระราชวัง ซึ่งขึ้นชื่อเป็นที่หนึ่งแล้ว ยังมีสถานที่ตากอากาศอื่นๆ เช่น หมู่วัดบนเขาที่สร้างด้วยการผสมสถาปัตยกรรมระหว่างทิเบตกับจีน ด้วยค่ะ
สภาพภูมิประเทศโดยรอบเมืองเฉิงเต๋อ
พระราชวังตากอากาศเฉิงเต๋อ เป็นพระราชวังฤดูร้อนของพระจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ชิง 3 รัชกาล คือ ในสมัยจักรพรรดิคังซี หย่งเจิ้ง และเฉียนหลง รวมระยะเวลาแล้วนานถึง 90 ปี เลยค่ะ การก่อสร้างพระราชวังแห่งนี้เริ่มขึ้นจาก ครั้งหนึ่งระหว่างทางที่จักรพรรดิคังซีเสด็จประพาสภาคเหนือผ่านเมืองเฉิงเต๋อ ทรงพอพระราชหฤทัยภูมิอากาศที่อบอุ่นเย็นสบายและทัศนียภาพที่งดงามของเมืองนี้ และยังทรงเล็งเห็นว่า สถานที่นี้เป็นจุดยุทธศาสตร์สำหรับเฝ้าดูความเป็นไปของพวกมองโกล จึงทรงรับสั่งให้สร้างพระราชวังขึ้น และในฤดูร้อนของทุกปี พระองค์ก็จะเสด็จออกจากพระราชวังต้องห้ามไปเมืองเฉิงเต๋อ เพื่อพักร้อนและล่าสัตว์ ภาพที่พระองค์ทรงม้า ติดตามด้วยขุนนางผู้ใหญ่และข้าทาสบริวารอีกนับหมื่น เพื่อล่าสัตว์ในทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ ย่อมมีผลทางจิตวิทยาต่อชนกลุ่มน้อยทางเหนือเผ่าต่างๆ ให้ศิโรราบต่อราชสำนักชิงในยุคนั้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะชนเผ่ามองโกลนั่นเอง
ความงดงามของพระราชวังตากอากาศเฉิงเต๋อ
พระราชวังตากอากาศเฉิงเต๋อ นอกจากจะมีความสำคัญทางการเมือง คือเป็นประตูเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างราชสำนักส่วนกลางกับชนกลุ่มน้อยต่างๆ แล้ว ยังมีความสำคัญในด้านศิลปะ เนื่องจากการออกแบบจัดสร้างของที่นี่แตกต่างจากพระราชวังและอุทยานทั่วไป กล่าวคือเป็นศิลปะการปลูกสวนป่าใกล้เคียงธรรมชาติ ทำให้พระราชวังตากอากาศเฉิงเต๋อได้ชื่อว่าเป็นตัวอย่างของ "ที่สุดของสวนคลาสสิก" ในประวัติศาสตร์การสร้างสวนของจีน
เล่าประวัติศาสตร์กันมาพอสมควรแล้ว แนนขอแนะนำเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในพระราชวังแห่งนี้บ้างนะคะ ปัจจุบันพระราชวังตากอากาศเฉิงเต๋อเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เก็บค่าผ่านประตูประมาณคนละ 100 หยวน แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับช่วงเวลา แต่ค่าผ่านประตูนี้ไม่แพงเลยค่ะ ถ้าเทียบกับการที่เพื่อนๆ จะได้เที่ยวชมเขตท่องเที่ยวถึง 4 เขตในอาณาเขตของพระราชวังแห่งนี้ เขตทั้ง 4 ที่กล่าวถึงก็คือ เขตพระราชฐาน เขตทะเลสาบ เขตทุ่งราบ และเขตภูเขา
ในจำนวน 4 เขตนี้ เขตที่กว้างใหญ่มากที่สุดก็คือ เขตภูเขา ซึ่งกินพื้นที่ถึง 4 ใน 5 ของอาณาเขตทั้งหมด (ประมาณ 4.22 ตร.กม.) ในบริเวณนี้ มีวัด ศาลาพักร้อนและวิหารอยู่มากมายค่ะ
ส่วนเขตที่ผู้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมกันมากนั้นก็คือ เขตพระราชฐาน เพราะว่าเป็นที่ว่าราชการและที่ประทับของจักรพรรดิในเวลานั้น สถาปัตยกรรมในเขตพระราชฐานนั้นโดยหลักแล้วย่อส่วนมาจากพระราชวังต้องห้าม และบางส่วนก็สร้างเลียนแบบจากพระราชวังฤดูร้อนค่ะ นอกจากจะมีพระราชฐานเป็นใจกลางของเขตแล้ว ส่วนรอบนอกของพระราชฐานก็ยังมีสถานที่อื่นๆ ที่น่าสนใจอีก นั่นก็คือ กลุ่มโบราณสถานวัดลามะ 8 แห่ง หรือที่เรียกกันว่า "วัดนอกเขตวังทั้งแปด" นั่นเองค่ะ วัดเหล่านี้สร้างขึ้นในสมัยต้นราชวงศ์ชิง ซึ่งเป็นช่วงที่ศาสนาพุทธนิกายลามะได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างมาก โบราณสถานส่วนใหญ่ของวัดเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานศิลปวัฒนธรรมของชนเผ่าต่างๆ มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรม 3 ลักษณะที่โดดเด่น คือ ศิลปะแบบทิเบต ศิลปะแบบฮั่น และศิลปะผสมผสานทั้งทิเบตและฮั่น ดังนั้นจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความสมัครสมานสามัคคีของชนกลุ่มน้อยต่างๆ ได้เป็นอย่างดีค่ะ
ทางทิศเหนือของเขตพระราชฐานคือ เขตทะเลสาบ กินพื้นที่ 0.5 ตร.กม. ประกอบด้วยเกาะทั้งหมด 8 เกาะ ซึ่งแบ่งพื้นน้ำออกเป็น 5 ทะเลสาบ ทุกเกาะเชื่อมถึงกันได้ด้วยสะพาน และยังอุดมด้วยแมกไม้เขียวขจี เขตนี้จึงเหมาะกับการเดินชมธรรมชาติมากค่ะ
ทางตะวันออกของเขตทะเลสาบคือ เขตทุ่งราบ ซึ่งกินพื้นที่ประมาณ 0.5 ตร.กม. เช่นกัน พื้นที่ในเขตนี้เป็นที่ราบตีนเขา เหมาะสำหรับการชมทิวทัศน์ทุ่งหญ้าเขียวขจีค่ะ
ความสงบของบรรยากาศโดยรอบพระราชวัง
โดยสรุปแล้ว การไปเที่ยวพระราชวังตากอากาศเฉิงเต๋อนั้น เพื่อนๆ จะได้ชมสถาปัตยกรรมที่สวยงามเหมือนพระราชวังต้องห้าม และยังได้บรรยากาศร่มรื่นแบบพระราชวังฤดูร้อน นับว่าเป็นการท่องเที่ยวที่คุ้มค่ามาก ดังนั้นคราวหน้าไปปักกิ่ง อีกครั้ง อย่าลืมนึกถึงพระราชวังตากอากาศเฉิงเต๋อด้วยนะคะ
แนน