หลังรื่นรมย์ชมหิมะ ก็ไปจ่ายตลาดเพราะมีนัดปาร์ตี้อาหารเจที่บ้านตอนเที่ยง เมนูที่กะไว้ เต้าหู้ทอด ข้าวโพดทอด แกงเขียวหวาน ผัดผัก ตอนซื้อเต้าหู้ คนขายซึ่งเป็นชายวัยกลางคน ผอมสูง หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ร้านเขาขายเต้าหู้นับสิบชนิด บางอย่างยังร้อนอยู่เลย ฐานที่เขารู้ว่าเราเป็นคนไทยก็จะทักทายด้วยคำว่าสวัสดีพร้อมยกมือไหว้ ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ว่าเราเป็นคนไทย ก็ขายแพง แต่พอรู้จักกันเลยเหมือนเพื่อนลดราคาให้ เศษหยวนสองหยวนไม่คิดหรือบางทีก็มีเต้าหู้อย่างอื่น แถมมาให้ชิมด้วย
เต้าหู้ทุกอย่างขายเป็นชั่งหมด เต้าหู้ที่ทำออกมาใหม่ ๆ ทั้งหอม ทั้งอร่อย เอามานึ่งแล้วทานเล่นก็เข้าที แต่คนมีปัญหาเรื่องการย่อย ดูไม่ค่อยเหมาะ ที่ร้านเต้าหู้จะมีถั่วเหลืองที่เขาแช่จนนุ่มแล้วสามารถเอาไปผัด ต้ม หรือแกงได้เลย ก็เลยซื้อมา 3 ขีด ไว้แกงเขียวหวาน
จากร้านเต้าหู้ก็ไปร้านผัก ร้านผักที่เป็นแฟนประจำกันนี่มีสามร้าน แต่ละร้านแข่งกันบริการลูกค้าสุดฤทธิ์ ยามนี้ข้าวโพดทั้งข้าวโพดซุเปอร์สวีทหรือข้าวโพดหวานฝักสีเหลือง(เถียน อวี้หมี่) ข้าวโพดข้าวเหนียว ฝักสีขาว(เหนียน อวี้หมี่) เริ่มออกสู่ตลาดอีกครั้ง เพราะในช่วงหน้าหนาวจะไม่มี มีแต่ข้าวโพดที่เขาแช่แข็งไว้ สนนราคาต่อชั่งจึงค้อนข้างแพง ชั่งละ 4 หยวน แต่อย่างว่าซื้อผักที่จีน ผู้ซื้อจะได้ผักที่มีคุณภาพจริง ๆ เพราะพ่อค้าจะตัดส่วนที่เป็นไหมข้าวโพดออกทั้งหัวทั้งปลายให้เหลือแต่ฝักข้าวโพดที่มีเม็ดเต็มจริง ๆ ยิ่งตามซุเปอร์มาเก็ตของคนจีนเองอย่าง หย่งฮุย ซุเปอร์มาเก็ต นั่นเขายิ่งเอาใจลูกค้า ให้เลือกปอกเปลือกหักทิ้งเอาเองตามชอบใจเหลือไว้แต่เนื้อจริง ๆ คนซื้อได้ประโยชน์เต็ม ๆ
หันไปหยิบหน่อไม้หวานต้นฤดูมาหน่อหนึ่งยาวสักแค่คืบ แอบหยิกเนื้อดู ยังอ่อนมากสนนราคา 7.5 หยวน มะเขือยาวสีม่วง 2 ลูก เห็ดชาปิยองขนาดอวบ 2 ดอก แล้วก็เลือกบร็อคโคลี่กับต้นกระเทียมและเห็ดหอมมาผัดรวม หิ้วถุงผักที่ไม่หนักกลับบ้านฝ่าเส้นทางที่หิมะละลายบนถนนที่ลื่นด้วยน้ำมัน ต้องค่อย ๆ เดิน ไม่งั้นเป็นได้วัดฟื้นอวดชาวบ้าน
เพื่อนชาวอังกฤษ สก็อตแลนด์และอินโดนีเซีย เป็นหนูทดลองยาของมื้อนั้น ดีว่าทุกคนกินง่ายไม่บ่นเรื่องรสชาติ บางคนกินเจมาตลอดและคุ้นกับอาหารไทย เจ้าภาพก็เลยรอดตัวไป หนุ่มอังกฤษที่กินเจมาตลอดนี่สังเกตได้ชัด ผิวพรรณเขาผ่องใส นัยตาแจ่มใส ไม่พร่ามัว ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี ไม่ค่อยเจ็บป่วย แถมเป็นคนชอบออกกำลังกายด้วย ขณะที่ชาวสก็อตแลนด์หนุ่มสูงวัยร่างใหญ่พุงโตกินเจแบบปีละไม่กี่มื้อ หนักไปทางแป้งและเนื้อสัตว์ ส่วนชาวอินโดนีเซีย หนุ่มน้อยร่างเล็ก แม้จะไม่ถึงขั้นกินเจเคร่งครัดทุกมื้อแต่ก็เน้นผักและผลไม้เป็นสำคัญ
กินกันไปคุยกันไป ทุกคนต่างมีความเห็นว่า ที่ปักกิ่งนี่ผักผลไม้บริบูรณ์มาก รสชาติก็ดี คุณภาพดี ราคาไม่แพงมาก เหมาะแก่การกินเจ หลังหนาวแล้ว เราจะกินเจกันมากขึ้น ออกกำลังกายกันมากขึ้น เตรียมร่างกายจิตใจให้พร้อมรับกับทุกสภาพอากาศและทุกการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
หกโมงเย็นของวันนั้น ดิฉันลงมาเดินออกกำลังกายอีกรอบ ภาพเมื่อเช้าที่มีหิมะตกปกคลุมไปทั่ว ไม่เหลือเค้า เพราะถนนแห้งเป็นปกติ มีหิมะที่เขากวาดไปกองไว้โคนต้นไม้และละลายไปเกือบหมดแล้ว
มาถึงที่ทำงานวันจันทร์ คุณพัลลภ สามสี บอกว่าเริ่มกินเจวันนี้กะกินสักอาทิตย์ ดีท็อกซ์ซะหน่อย ดิฉันทั้งตกใจและดีใจ ที่ตกใจเพราะแต่ไหนแต่ไรที่เชิญทานเจ จะถูกปฏิเสธทุกครั้ง ตอนนี้เขาทานเองจึงดีใจ แข่งกันดูแลสุขภาพไง
เมื้อเที่ยงวันนี้ นั่งทานอาหารกับคุณสี่ว์ ผิงผิง เธอบอกว่า เมื่อเช้าตอนอยู่ในลิฟท์ ได้ยินสองสาวคุยกันว่าค่ำวันเสาร์เธอเข้านอนตอนหิมะยังไม่ตกและเมื่อเธอตื่นมาวันอาทิตย์หิมะก็ละลายแล้ว หิมะตกจริง ๆ หรือ? นี่แปลว่าวันหยุด เธอหลับได้ยาว พักผ่อนได้เต็มที่จริง ๆ จึงไม่มีโอกาสทักทายกับหิมะที่มาส่งท้ายให้หายคิดถึง มาเร็วไปเร็ว เหมือนฝันจริง ๆ