ปักกิ่งมาราธอนสมัยแรกจัดขึ้นตั้งแต่ปี 1981 จนถึงปัจจุบัน ก็นับได้ว่าจัดมาเป็นเวลา 31 ปีแล้ว ในสมัยแรก มีนักวิ่งเพียง 86 คนจาก 12 ประเทศและเขตแคว้นเข้าร่วม ในปีนี้ ถึงแม้ว่าปักกิ่งมาราธอนจัดในวันที่ 25 พฤศจิกายนซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวและอากาศเย็นลงหน่อย แต่ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายนเป็นวันเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมปักกิ่งมาราธอน มีจำนวนนักวิ่ง 30,000 คนได้ยื่นสมัครภายใน 4 วันเท่านั้นอากาศหนาวจัดไม่ได้เป็นผลต่อนักวิ่งมาราธอนทั้งหลาย ซ้ำยังทำให้ประชาชนเกิดความสนใจเข้าร่วมมาราธอนเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ จนในที่สุด จูฟา โรเปีย นักวิ่งชายเอธิโอเปียคว้าเหรียญทองประเภทชายของปักกิ่งมาราธอนประจำปี 2012 ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 9 นาที 39 วินาที ส่วนเหรียญเงินและเหรียญทองคำเป็นนักวิ่งจากเคนย่าและเอธิโอเปีย ส่วนเจี่ย เชาเฟิง นักวิ่งหญิงจีนคว้าเหรียญทองประเภทหญิงของปักกิ่งมาราธอนประจำปี 2012 ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง27 นาที 40 วินาที นับเป็นครั้งที่ 21 ของนักวิ่งหญิงจีนที่คว้าเหรียญทองในการแข่งขันนี้ นอกจากนี้ ซุน ล่าเหมยและซุน เหว่ยเหว่ยต่างก็คว้าเหรียญเงินและเหรียญทองคำด้วยเวลา 2 ชั่วโมง27 นาที 55 วินาทีและ เวลา 2 ชั่วโมง28 นาที 03 วินาที
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมาเป็นวันจัดปักกิ่งมาราธอน อุณหภูมิในวันนั้นลดลงเหลือประมาณ 3 องศาเท่านั้น จึงทำให้นักวิ่งอาจจะเกิดบาดเจ็บได้ ดังนั้น เจ้าภาพให้ความสำคัญกับความปลอดภัยระหว่างการวิ่ง โดยตั้งสถานที่รักษาพยาบาลชั่วคราวทุกๆ ระยะ 5 กิโลเตรตามริมถนนการวิ่ง พร้อมเตรียมรถพยาบาลตลอดเส้นทางการวิ่ง นอกจากนี้ เจ้าภาพยังเตรียมน้ำร้อนให้กับนักวิ่งในป้ายสุดท้ายอีกด้วย มาตรการป้องกันความปลอดภัยต่างๆ ระหว่างการแข่งขันมาราธอนได้ประสิทธิผลจริงๆ ตัวอย่างเช่น เกาเจิ้น หนุ่มชาวมณฑลเหอหนานที่เข้าร่วมปักกิ่งมาราธอนครั้งแรกกล่าวว่าหลังผ่านป้ายสุดท้ายก็พบว่า อุณหภูมิต่ำนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก ตอนเริ่มต้น ยังรู้สึกหนาวนิดหน่อย แต่ต่อมาก็ไม่รู้สึกหนาวแล้ว เขารู้สึกดีใจที่ได้เข้าร่วมวิ่งปักกิ่งมาราธอนด้วยความสำเร็จ
ปัจจุบัน มาราธอนนั้นเป็นที่นิยมทั่วประเทศจีน เพราะว่ามาราธอนเป็นกีฬาที่มีผลดีต่อสุขภาพ ไม่ต้องเสียเงินก็เข้าร่วมได้ และไม่ต้องวิ่งเร็วมาก เป็นการรักษาจังหวะการก้าวของชีวิตความเป็นอยู่อย่างหนึ่งที่ไม่ต้องมีเป้าหมายสุดท้าย มีแต่วิ่งไปข้างหน้า นอกจากนี้ มาราธอนยังเป็นการท้าทายความสามารถ และเป็นเครื่องพิสูจน์ความแข็งแกร่งของร่างกายได้เป็นอย่างดี ดังนั้น จึงมีพนักงานที่มีแรงกดดันจำนวนมากในการทำงานหันมานิยมวิ่งมาราธอนตอนหยุดงาน เพื่อผ่อนคลายความกดดันและฝึกฝนร่างกาย
การวิ่งมาราธอนไม่ใช่แค่คิดก็จะประสบความสำเร็จได้ ต้องฝึกวิ่งทีละขั้นตอน จนกระทั่งมีความสามารถวิ่งมาราธอนได้ อาจจะใช้เวลานาน คือไม่ใช่นับแค่วันหรือนับเดือนเท่านั้นอาจจะนับเป็นปีจึงจะวิ่งมาราธอนได้ ทุกคนสามารถวิ่งได้แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะวิ่งมาราธอนได้ ดังนั้น หากคุณผู้ฟังสนใจมาราธอนก็ต้องพยายามฝึกวิ่งทุกวันค่ะ ในระหว่างที่ทำการฝึกซ้อมนี้ หากเกิดมีอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ก็ต้องหยุดพักให้หายสนิทจริงๆเสียก่อน หรือถ้าจำเป็นก็ต้องรับการรักษาอย่างถูกต้องค่ะ เพราะสุขภาพไม่ใช่เรื่องเล็ก
Ying/kt