โครงการ "มาร์สวัน" เป็นการส่งมนุษย์โลกไปใช้ชีวิตอยู่บนดาวอังคารครั้งแรกในปี 2023 หรืออีกสิบปีให้หลัง โดยองค์การที่ไม่แสวงหาผลกำไรในประเทศเนเธอร์แลนด์

ซึ่งเปิดรับสมัครตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา ถึงปัจจุบันมีผู้สมัครขออพยพไปอยู่ดาวอังคารแล้วกว่า 78,000 คน จาก 120 กว่าประเทศทั่วโลก โดยเป็นชาวสหรัฐมากสุดถึง 17,324 คน อันดับสองเป็นชาวจีน 10,241 คน อันดับสาม คือ อังกฤษ 3,581 คน ถัดลงไปคือ รัสเซีย เม็กซิโก บราซิล แคนาดา โคลัมเบีย อาร์เจนตินา และอินเดีย

คุณสมบัติผู้สมัครหลักๆ คือ อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ สุขภาพกาย-ใจแข็งแรงดีไม่มีโรคเรื้อรัง มีความสนใจใคร่รู้เป็นพื้นฐาน มีความสามารถในการปรับตัว และประยุกต์แก้สถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดี เป็นต้น หากผ่านเกณฑ์คร่าวๆ เหล่านี้แล้วก็สามารถส่งข้อมูลส่วนตัวแนะนำตนเอง ตอบคำถามสำรวจผ่านเว็บไซต์ทางการของโครงการ พร้อมแนบไฟล์วีดีโอความยาว 1 นาที กล่าวแนะนำตนเองและอธิบายถึงเป้าหมายที่ต้องการไปดาวอังคารครั้งนี้

โดยค่าสมัครอยู่ระหว่าง 5-75 ดอลลาร์สหรัฐแล้วแต่ประเทศ โดยชาวสหรัฐจะเสียค่าสมัคร 38 ดอลลาร์ ชาวจีน 11 ดอลลาร์ เป็นต้น

คาดว่าในจำนวนหลายหมื่นคนที่ตัดสินใจยื่นใบสมัครชิงตั๋วไปแล้วไปลับไม่มีขากลับนี้ มีไม่น้อยเนื่องเพราะใฝ่ฝันอยากไปท่องอวกาศเหมือนอย่างผู้สมัครหยางซือเหมิง วัย 23 ปีที่ตั้งกลุ่มคิวคิวแชทและห้องสนทนาประสา "คนรักมาร์สวัน" ในไป่ตู้ เขาว่าการมีตั๋วไปไม่มีกลับนี้ บอกไม่กลัวก็คงเหมือนโกหก ซึ่งทางบ้านก็ไม่สนับสนุนแต่ก็ไม่คัดค้าน และว่าวิทยาศาสตร์จำเป็นต้องมีจิตสำนึกแห่งการอุทิศตน ที่คิดสมัครเข้าร่วมโครงการก็รู้ซึ้งในอกดีอยู่ว่าต้องเผชิญกับความยากลำบากและอันตราย แต่วิทยาศาสตร์ก้าวหน้าไป ตนเองก็ย่อมไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่ เชื่อว่าเมื่อผ่านการฝึกอบรม 8 ปี ย่อมมากพอที่จะทำให้เขามีคุณสมบัติของนักบินอวกาศเพียบพร้อม และผ่านไป 10 ปีวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นก็ย่อมทำให้โครงการสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นตาม

ส่วนลุงซือเหยียน วัย 55 ปีบอกว่า ต้องการสมัครเป็นพลเมืองโลกกลุ่มแรกอพยพไปดาวอังคาร แม้ว่าเรื่องนี้ฟังดูแล้วไม่ต่างกับการถูกจองจำอย่างไม่มีกำหนดก็ตาม แต่พอลองคิดแล้วการใช้ชีวิตไปวันๆ สู้ไปลองผจญค้นหาสิ่งตื่นเต้นคืนให้กับชีวิตน่าจะดีกว่า และแม้ว่าอายุที่มากจะทำให้กำลังแรงกาย หรือการตอบสนองอะไรต่างๆ ลดน้อยถอยลง แต่ก็ว่าวัยอย่างตนนั้นเหมาะสมที่สุด เพราะพอถึงตอนนั้นก็อายุร่วม 65 ปีแล้ว หากส่งคนหนุ่มสาวไปเสี่ยงอันตรายดูโหดร้ายไปหน่อย ประกอบกับได้เคยตกลงกับครอบครัวไว้ก่อนหน้าแล้ว ว่าจะทำการบริจาคร่างกายให้กับการเรียนการสอนแพทย์ ดังนั้น พอเห็นข่าวการรับสมัครไปดาวอังคารจากหนังสือพิมพ์นี้ จึงรีบทำการสืบค้นผ่านอินเตอร์เน็ตและลงทะเบียนสมัครอย่างไม่ลังเล

ซึ่งภายหลังการปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการในวันที่ 31 สิงหาคมนี้แล้ว ก็จะทำการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมมาเข้ารับการฝึกเตรียมความพร้อมประมาณ 40 คน และเลือกผู้โชคดีมีคุณลักษณะสมบูรณ์พร้อมที่สุดเพียง 4 คน ส่งไปใช้ชีวิตอยู่ที่ดาวอังคารเป็นการถาวรเพื่อการศึกษาวิจัย

เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府