มองเมืองจีนในสายตานักข่าวกีฬาไทย
หลายคนเริ่มสงสัยว่า ผมมาทำอะไรที่ปักกิ่ง นานเป็นเดือน คำตอบมาตามโครงการแลกเปลี่ยน ระหว่าง สถายีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กับสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติจีน หรือ CRI [ China Radio International ] พอมีเวลาว่างก็ได้ ไปโน่น ไปนี่ ในกรุงปักกิ่ง แล้วก็เอามาเขียนเล่า ให้ญาตสนิท มิตรสหาย ได้รับทราบกันครับ วันหยุดที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปชม พระราชวังฤดูร้อน อี้เหอหยวน ที่อยู่ชานกรุงปักกิ่ง ต้องบอกนะครับว่า เล็กๆไม่ ใหญ่ๆ ต้องที่ เมืองจีน แค่พระราชวังฤดูร้อน ผมก็ใช้เวลาตั้งแต่ ๙ โมงเช้า ถึง ๕ โมงเย็น ซึมซับบรรยากาศแบบเต็มอิ่ม แต่ถ้าเป็นมาเที่ยวชมกับคณะทัวร์ ผมยืนยันได้นะครับว่ามาชมได้เพียงแค่ ๑ ใน ๑๐ เท่านั้น เพราะเวลาที่มีให้เพียงแค่ ๑-๒ ชั่วโมง
ส่วนจั่วหัวเรื่องวันนี้ หลายคนสงสัยว่า ทำไมถูกจัง อธิบายอย่างนี้ครับ ค่ารถไฟใต้ดินในกรุงปักกิ่ง ขึ้นสถานีไหนก็ได้ ถ้าคุณยังไม่โผล่ออกมา เห็นเดือนเห็นตะวัน ๒ หยวนครับ ต่อไปได้ทุกสายทุกสถานี เรียกว่าไปกลับก็แค่ ๔ หยวน เราใช้ สาย ๔ ครับ ออกมาจากกลางเมือง ประมาณ ๑๒ สถานี ขึ้นที่ก่อนสุดท้ายนะครับ และเริ่มเที่ยวชม จากประตูด้านทิศเหนือ แล้วกลับออกมาทางประตูทิศตะวันออก ซึ่งก็จะมี สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน อีกสถานีหนึ่ง ส่วนค่าเข้าชม คนละ ๓๐ หยวนนะครับ รวมแล้วก็ ๓๔ หยวน แต่ที่แนะนำ ต้องพกน้ำดื่มมาด้วยนะครับสักขวด หรือถ้าจะเที่ยวแบบผม แซนด์วิช แฮมเบเกอร์ ซื้อติดมาเลยครับ หิวตรงไหน กินตรงนั้น รวมค่าอาหารอีกประมาณ ๑๕ หยวน เห็นไหมครับ รวมค่าใช้จ่ายในการชม พระราชวังฤดูร้อน ไม่ถึง ๑๐๐ หยวน หรือ ไม่ถึง ๕๐๐ บาท แต่ที่ท่านจะได้รับ ผมรับรองว่า สุดนะครับ ดีกว่า ทัวร์ ชะโงก เป็นร้อยเท่า
แค่ก้าวแรกที่เดินเข้าไปก็ประทับใจแล้วครับ ประทับใจกับคำบอกเล่าของเพื่อนร่วมงานชาวจีน ที่บอกว่า พี่ครับไปเที่ยวพระราชวังฤดูร้อน ในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ระวังนะครับ คนจะเยอะมากๆและเวลาถ่ายภาพอะไร ระวังจะเจอแต่หัวคนนะครับ และยอมรับครับ ว่าคำบอกเล่าไม่เกินความจริงเลย และมีอีกอย่างที่อยากจะแนะนำ ถ้าหากจะมาเที่ยว พระราชวังฤดูร้อน อี้ เหอ หยวน ให้ได้รับความรู้และสนุก ขอความกรุณาอ่านประวัติมาก่อนนะครับ เพราะสถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่เมื่อประมาณ ๑๐๐ กว่าปีที่ผ่านมา ตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๔ และ ๕ ของไทยเรา ซึ่งเป็นยุค ล่าอาณานิคม จีนเองซึ่งอยู่ในสมัยของ ซูสี ไทเฮา ก็ประสบความยากลำบากไม่แพ้กัน และ พระราชวังแห่งนี้ เกิดข้อตกลงต่างๆมากมาย ที่ทำให้ จีนในขณะนั้น เสียเปรียบชาติตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การอนุญาตนำเข้าฝิ่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสนธิสัญญาอีกหลายฉบับ จนเป็นที่มาของการพยายามล้มล้างการปกครองแบบราชวงศ์ หาอ่านกันมาก่อนนะครับ
และการนำชมพระราชวังฤดูร้อนในสมัยนี้ ถ้าไม่มีเงินก็ไม่ต้องจ้างไกด์นะครับ เพราะค่าจ้างค่อนข้างแพง อย่างเราๆนี่ถ้าอยากจะรู้รายละเอียดของแต่ละจุดก็เช่า เครื่องช่วยฟังที่มีภาษาต่างๆ แล้ว เขาก็จะมีเครื่องหมาย เป็นเลขต่างๆ เราก็ใส่ฟัง ไปถึงจุดไหนก็ จูนให้ตรง ก็จะมีคำอธิบาย สะดวกดีครับ สำหรับผม ท่านว่า ผมจะเลือกภาษาอะไร เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี รัสเซีย ญึ่ปุ่น หรือเกาหลี ดีครับ
นี่ขนาดยังไม่เดินเข้าไปชม ยังมีเรื่องราวน่าสนใจมากมาย แต่ใกล้หมดเนื้อที่แล้วครับ วันนี้ เลยยังไม่พาเข้าชม ด้านใน เป็นพระยาเลียบค่ายไปก่อนนะครับ เพราะมาเห็น ที่นี่เขาเป่าน้ำตาลหรือ ตังเม ใครที่มีอายุวัยสามสิบขึ้นไปคงเคยเห็นและเคยกินนะครับ
ของแบบนี้ เรียกความสนใจ จากเด็กๆดีนักแหละ เห็นเป็นต้องเดินเข้ามาทันที และต้องบอกนะครับว่า การเป่าน้ำตาลเป็นรูปสัตว์ต่างๆนี่ ต้องอาศัย ฝีมือ ประสบการณ์ที่สั่งสมมาเป็นสิบปี และที่สำคัญ จินตนาการนะครับ เพราะการเป่าน้ำตาล หรือ ตังเม แบบนี้ ไม่มีแบบนะครับ เป็นงาน ระดับ มาสเตอร์ พีช ชิ้นเดียวเท่านั้นนะครับ ชิ้นอื่นที่ทำใหม่อีก ก็ไม่เหมือน
ตอนต่อไปต้องติดตามแล้วนะครับ จะพาเดินเข้าไปชม พระราชวังฤดูร้อน อี้เหอหยวน แล้วอย่างที่บอก ใครมีโอกาสมาปักกิ่ง อยากเที่ยวแบบนี้ อย่าซื้อ ทัวร์ชะโงก เลยครับ มันไม่อิ่ม
สมภพ จันทร์ฟัก