ปัญหาทะเลจีนใต้เกิดขึ้นเนื่องจากบางประเทศบุกรุกเกาะและหินโสโครกบางแห่งในหมู่เกาะหนานซาของจีน อีกทั้งยึดครองน่านน้ำบางส่วนในหมู่เกาะหนานซาด้วย แต่นับตั้งแต่ทศวรรษ 1990 เป็นต้นมา สหรัฐฯ นับวันกลายเป็นผู้หนุนหลังบางประเทศในการท้าทายจีนในปัญหานี้ จนกลายเป็นอุปสรรคของการแก้ปัญหา ตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา สหรัฐฯ ได้เร่งวางแผนยุทธศาสตร์รอบทะเลจีนใต้ และเตรียมสร้างกระแสทางการทูต หมายจะเสริมสร้างบทบาทของตนให้มีน้ำหนักมากขึ้นจนสวมบทผู้พิพากษาในการแก้ปัญหาทะเลจีนใต้
ในด้านภูมิประเทศ ข้อเสนอของสหรัฐฯ ได้มองข้ามข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งคือ ปัญหาทะเลจีนใต้เกิดจากกรณีพิพาทเพื่อแย่งชิงอธิปไตยเหนือเกาะและหินโสโครกบางส่วนในหมู่เกาะหนานซา ตลอดจนการปักปันเขตแดนในทะเล หากไม่ใช่ปัญหาทั่วทะเลจีนใต้ โดยข้อเสนอของสหรัฐฯ มีความหมายแฝงอยู่คือ จีนไม่ควรก้าวก่ายฟิลิปปินส์ในการขนส่งเสบียงขึ้นเกาะเหรินไอ้ และก็ไม่ควรใช้ปฏิบัติการตามกฎหมายในการจัดการกับเรือประมงฟิลิปปินส์ที่ทำการประมงในน่านน้ำของจีน จีนไม่ควรขุดเจาะน้ำมันในหมู่เกาะซีซาและทะเลใกล้ฝั่ง ไม่ควรดำเนินการก่อสร้างบนเกาะของจีน สรุปแล้ว ไม่ว่าประเทศคู่กรณีกับจีนจะเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ หรือไม่ ไม่ว่าพฤติกรรมของประเทศเหล่านี้ถูกต้องตามกฎหมายสากลหรือไม่ ขอเพียงประเทศเหล่านี้เป็นฝ่ายต่อต้านจีน สหรัฐฯ ก็จะให้การสนับสนุน หากเป็นอย่างนี้ต่อไป ย่อมจะทำให้สถานการณ์ในทะเลจีนใต้สลับซับซ้อนและแผ่ขยายมากขึ้น