ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่เวียดนามรบกวนการดำเนินงานของแท่นขุดเจาะน้ำมันของจีนในน่านน้ำบริเวณหมู่เกาะซีซาในทะเลจีนใต้และภายในประเทศเวียดนามเกิดการจลาจลต่อต้านชาวจีนเป็นต้นมา ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศตกสู่จุดต่ำสุดอย่างไม่เคยมีมาก่อน จำนวนนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวเวียดนามลดลงอย่างมาก

กรมสถิติเวียดนามประกาศตัวเลขล่าสุดว่า เดือนมิถุนายน นักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศเวียดนามมีประมาณ 539,700 คน ลดลงกว่าเดือนพฤษภาคม 19.9% นักท่องเที่ยวจีนที่ไปเที่ยวเวียดนามมีเพียง 136,726 คน ลดลงกว่าเดือนพฤษภาคม 29.5% ที่มี 194,018 คน การที่จำนวนของนักท่องเที่ยวจีนลดลงนั้น ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงอย่างมาก การขัดแย้งระหว่างจีนกับเวียดนามได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดการท่องเที่ยวของเวียดนาม การท่องเที่ยวตามชายแดนยิ่งน่าเป็นห่วง เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ต่อต้านจีน ทำให้วิสาหกิจต่างชาติ รวมถึงโรงงานจีนได้รับความเสียหายและทำให้แรงงานชาวจีนเสียชีวิตด้วย ทั้งนี้ได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวตามชายแดนอย่างมาก ห้องทำวีซ่าท่องเที่ยวที่เคยมีคนหนาแน่นนั้น มีคนเบาบางมาก

การท่องเที่ยวระหว่างจีนกับเวียดนามมีความหมายสำคัญอย่างยิ่งต่อเวียดนาม รายได้จากการท่องเที่ยวเป็นประมาณ 6% ของจีดีพีเวียดนาม โดยจีนเป็นประเทศที่ส่งนักท่องเที่ยวไปเที่ยวเวียดนามจำนวนมากที่สุด เมื่อปี 2013 มี 1.9 ล้านคน สร้างรายได้แก่เวียดนามอย่างมาก รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนามกล่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนมักเดินทางไปเที่ยวเวียดนามโดยทางอากาศและทางบก โดยปกติจะอยู่ในเวียดนาม 5 วัน ผู้ที่เข้าสู่เวียดนามโดยทางบกเฉลี่ยแล้วจะใช้จ่ายประมาณ 300 ดอลลาร์สหรัฐ ทางอากาศจะใช้จ่ายประมาณ 700 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรับมือกับสภาวะที่นักท่องเที่ยวจีนลดลง เวียดนามจะเพิ่มกำลังในการประชาสัมพันธ์ในจีน และเน้นว่า "เวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย"

Yim/Lr