หลังย่างเข้าเดือนกันยายน พุทราเริ่มวางขายในท้องตลาดของกรุงปักกิ่งแล้ว เมื่อเทียบกับผลไม้สดอื่นๆ พุทราอุดมด้วยวิตามันและแร่ธาตุ เช่น วิตามินซี โปแตสเซียม และแมกนีเซียม สามารถทำให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น ป้องกันความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยขัดขวางการสร้างสารพิษที่ทำให้เกิดมะเร็ง โปแตสเซียมสามารถทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น แมกนีเซียมสามารถยับยั้งไม่ให้ประสาทตื่นตั่วเกินไป ปรับอุณหภูมิในร่างกาย แม้ว่าพุทรามีบทบาทบำรุงกระเพาะอาหารและม้าม บำรุงเลือดลม แต่คนที่กระเพาะอาหารและม้ามอ่อนแอไม่ควรรับประทานมากเกินควร วันละ 8-10 ลูกก็พอ และคนที่มีเสมหะมากและท้องผูกไม่ควรรับประทานมาก เพราะจะทำให้เกิดร้อนใน พุทราสดไม่ใช่สีแดงทั้งลูก ควร 2/3 เป็นสีเขียว อีก 1/3 เป็นสีแดง พุทราแบบนี้มีน้ำตาลมาก หวานกว่า
พุทราอุดมด้วยวิตามันและแร่ธาตุ
ทับทิมเป็นผลไม้ที่ไม่ว่าเด็กหรือผู้สูงอายุล้วนชอบรับประทาน เป็นผลไม้ที่ช่วยแก้ท้องเสียและท้องผูกได้ ทับทิมทุก 100 กรัมมีเซลลูโลสสูงถึง 4.8 กรัม และเป็นเซลลูโลสที่ละลายในน้ำได้ จึงป้องกันท้องผูกได้ อีกทั้ง เชื้อในลำไส้สามารถใช้เซลลูโลสจากทับทิมสร้างวิตามิน B แม้ว่าบางคนรู้สึกการรับประทานทัมทิมลำบาก แต่เพื่อสุขภาพควรรับประทานบ้างในฤดูใบไม้ร่วง หรือปั่นน้ำทับทิมดื่มก็ได้
คนจีนเชื่อว่า รับประทานเกาลัดในฤดูใบไม้ร่วงสามารถป้องกันโรคและอายุยืนยาว เกาลัดมีแร่ธาตุหลายชนิด เช่น โปแตสเซียม แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี เหมาะสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ในเกาลัดมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวและวิตามินอันอุดมสมบูรณ์ สามารถป้องกันความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หลอดเลือดแข็งตัว และกระดูกพรุน
นอกจากอาหารหลากหลายชนิดแล้ว คนจีนยังให้ความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตในฤดูใบไม้ร่วงอย่างมาก กล่าวง่ายๆ คือ ควรนอนเร็วและตื่นนอนแต่เช้า ป้องกันความหนาวเข้าสู่ร่างกายจนทำร้ายปอด ด้านจิตใจ ควรรักษาความสงบ และเริงร่า หลีกเลี่ยงเกิดอารมณ์เศร้า จะได้บำรุงปอด
ด้านการออกกำลังกาย สามารถเลือกรายการที่เหมาะกับตนเอง เช่น ไต่เขา ฝึกมวยไท้เก๊กและว่ายน้ำ เพื่อเสริมสมสมรรถนะของหัวใจและปอด หรือวิธีง่ายที่สุดคือ เดินเล่น ทุกวันหลังอาหารออกไปเดินเล่นสักครึ่งชั่วโมง จะช่วยย่อยอาหาร กระดูกแข็งแรงขึ้น ทำให้การนอนมีคุณภาพดีขึ้น
คนจีนเชื่อว่า ถ้าฤดูใบไม้ร่วงได้บำรุงสุขภาพอย่างดี ถึงฤดูหนาวจะไม่เกิดโรคร้ายแรงขึ้น สรุปแล้วมีข้อระวังดังนี้
1. รับประทานอาหารตามหลักการที่ต้องบำรุงปอด ผู้สูงอายุหรือผู้ที่กระเพาะอาหารอ่อนแอ ควรรับประทานข้าวต้มในอาหารเช้า เช่นข้าวต้มแป๊ะฮะและเมล็ดบัว ข้าวต้มข้าวเหนียวเห็ดหูหนูขาว หรือข้าวต้มงาดำ นอกจากนี้ ควรรับประทานผลไม้และผักรสเปรี้ยว แต่รับประทานอาหารเผ็ด และเลี่ยนให้น้อย เพื่อบำรุงตับและปอด
ข้าวต้มเป็นผลดีต่อสุขภาพ
2. บำรุงกระเพาะอาหารและม้ามมีความสำคัญมาก ไม่ควรรับประทานอาหารเย็นหรือผลไม้สดมาก ควรรับประทานอาหารอุ่นและสุกที่ย่อยง่าย
3. ป้องกันการเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า การมีอาการเมื่อยล้าง่ายในฤดูใบไม้ร่วงเพราะร่างกายได้เสียพลังมากในฤดูร้อน ดังนั้น ถึงฤดูใบไม้ร่วงจึงควรนอนหลับให้พอเพียง และออกกำลังอย่างเหมาะสม
4. ป้องกันร้อนใน เนื่องจากในฤดูนี้ฝนตกน้อย อากาศแห้ง ทำให้ปอดถูกทำร้ายง่าย จนเกิดอาการไอ ผิวแห้ง ควรรับประทานสาลี อ้อย เป๊ะฮะ เห็ดหูหนูขาว และแห้วให้มาก
5. ป้องกันการเป็นหวัด ควรเพิ่มและลดเสื้อผ้าตามการเปลี่ยนแปลงของอากาศ รักษาอุณหภูมิภายในห้องระหว่าง 25℃~27℃ และดื่มน้ำมากๆ
6. นอนเร็วและตื่นนอนแต่เช้า การตื่นนอนแต่เช้าในฤดูใบไม้ร่วงสามารถลดความเสี่ยงเป็นลิ่มเลือด