เดี๋ยวนี้เรื่องของโรคภัยไข้เจ็บน่าครัวมากๆ มันพัฒนาตัวแข่งขันไปกับการแพทย์ที่เจริญรุ่งเรืองขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคเรื้อรัง ซึ่งกลายเป็นปัญหาที่ล่อแหลมที่ทุกประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญรวมทั้งจีนด้วย
โดรเรื้อรังที่สำคัญรวมถึง โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ หลอดเลือดสมอง และมะเร็ง จากรายงานสถานการณ์ผู้ป่วยโรคเรื้อรังชาวจีน ปี 2016 ที่จัดทำโดยหน่วยงานสาธารณสุขจีน ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ชาวจีนที่ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคเรื้อรังชนิดอื่นๆ มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้เสียชีวิตจากโรคเรื้อรังคิดเป็น 86.6% ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด โรคเรื้อรังกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่คุกคามถึงความปลอดภัยทางชีวิตของชาวจีน เมื่อเร็วๆ นี้ มีการประชุมเพื่อป้องกันและควบคุมโรคเรื้อรังแห่งประเทศจีนครั้งที่ 4 ที่กรุงปักกิ่ง ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการด้านการแพทย์ที่ร่วมประชุมมีความเห็นพร้อมกันว่า โรคเรื้อรังสามารถป้องกันและควบคุมได้หากใช้ชีวิตที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
นายหวาง หล่งเต๋อ ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคแห่งประเทศจีนเผยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ธนาคารโลกคาดว่า
หากจีนไม่ส่งเสริมสนับสนุนการควบคุมโรคเรื้อรัง พอถึงปี 2030 เฉพาะชาวจีนที่ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบจะมีมากถึง 32 ล้านคน ผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดระบุ ช่วงปี 2012-2030 โรคเรื้อรัง 5 โรค ได้แก่เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ โรคหลอดเลือดสมองและมะเร็งจะสร้างความเสียหายให้กับจีนคิดเป็นเงินถึง 28 ล้านล้าน ดอลล่าสหรัฐ ซึ่งเห็นได้ชัดว่า การป้องกันและควบคุมโรคเรื้อรังไม่เพียงแต่เป็นภารกิจเร่งด่วนของหน่วยงานสาธารณสุขเท่านั้น แต่อย่างเป็นภารกิจเร่งด่วนของทุกคนในสังคมด้วย
วิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้จะต้องแก้จากต้นเหตุของการเกิดโรค คือลดการบริโภคอาหารหวานจัด มันจัด และเค็มจัด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการบั่นทอนสุขภาพ รวมทั้งการบริโภคผักและผลไม้ให้มากขึ้น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งควบคุมอารมณ์ความเครียด เพื่อเป็นการป้องกันและให้ประชาชนส่วนใหญ่ตระหนักถึงการดูแลสุขภาพ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ประชาชนต้องให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของตัวเอง ไม่เช่นนั้น แรงผลักดันต่างๆ ของภาครัฐบาลก็คงยากที่จะประสบความสำเร็จ