ไทยนอกจากมีนโยบายรองรับแนวความคิดหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของท่านประธานาธิบดีจีนแล้ว ยังมีโครงการใหญ่ๆไว้รองรับเลย เช่นโครงการในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ อีอีซี พร้อมกับการเกิดขึ้นของเขตเศรษฐกิจหลายๆ จุดในทั่วประเเทศไทย เพราะฉะนั้น โครงการใหญ่ๆ หล่านี้รองรับการเข้ามาของโครงการลงทุนทางด้านนวัตกรรมของจีน และของต่างประเทศทั่วโลกได้ แต่ขณะนี้ เรามองมาที่จีนมากกว่า เพราะว่า หนึ่ง อยู่ใกล้กับจีน สอง มีนโยบายสอดคล้องกัน คือ แนวความคิดหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ความประจวบเหมาะทำให้การมีโครงการรองรับ ทำให้ไทยสามารถที่จะได้รับประโยชน์จากแนวความคิดหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางอย่างมาก ขณะนี้ นักธุรกิจจีนลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกของเราเยอะมาก นักธุรกิจจากมณฑลเจ้อเจียง เขตบริหารพิเศษฮ่องกง เมืองอู่ฮั่น มณฑลเจียงซูพากันไปลงทุนในนประเทศไทย โครงการลงทุนมีหลายร้อยโครงการ แต่ว่าสิ่งที่เราต้องการเห็นต่อจากนี้ไปก็คือ โครงการลงทุนที่เป็นเรื่องของนวัตกรรม เป็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จีนมีอยู่แล้ว ขณะนี้ จีนอยู่ในระดับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี่สูงมาก เราจึงอยากจะเชื้อเชิญนักธุรกิจจีนให้ไปลงทุน เรามีโครงการรองรับ เรามีกฎหมายใหม่ ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องของการให้แรงจูงใจทางด้านภาษี รองรับการลงทุนจากจีน
เช่นเดียวกัน ถ้าหากว่าขยายไปถึงภูมิภาคอื่นๆ ผมก็มองเห็นว่า หลายประเทศก็ได้ประโยชน์จากแนวความคิดของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นปากีสถาน แอฟริกา หรือยุโรป จะมีเส้นทางเชื่อมโยงไปถึงหมด แต่ว่าเส้นทางการเชื่อมโยงที่ผมเห็น นอกจากทางกายภาพแล้ว ยังต้องมีทางด้านไซเบอร์ด้วย ผมคิดว่า จีนเป็นผู้นำทางด้านไซเบอร์ ทางด้านอีคอมเมิร์ซหรือพาณิชย์อีเล็กทรอนิกส์ ทางด้านธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์สูงมาก เรื่องนี้จีนสามารถที่จะช่วยเหลือหลายๆ ประเทศให้พ้นจากภาวะติดกับดักรายได้ปานกลาง ให้เพิ่มรายได้ต่อหัวได้ เพราะจีนได้ประสบความสำเร็จในการใช้อีคอมเมิร์ซ ทางด้านนี้ จีนก็เป็นผู้นำด้วย สิ่งเหล่านี้จะไปช่วยเหลือภูมิภาค และช่วยเหลือโลกได้ด้วย จริงๆ แล้ว ประเทศใหญ่ๆ สามารถย่อให้เล็กลงได้โดยใช้ความสามารถทางอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงขึ้นมาช่วย ขณะนี้ ไทยมีเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซีไอ บริเวณแถวนั้น ถ้าได้การลงทุนทางด้านอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ทางด้านเทคโนโลยีไอที ก็จะช่วยเชื่อมโยงทางด้านไซเบอร์ที่ผมพูดถึงได้ โดยสรุป แนวความคิดหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางมีความหมายที่กว้างไกล ซึ่งแทบจะครอบคลุมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกายภาพ ไซเบอร์ สิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัย วัฒนธรรม การศึกษา อาหาร การท่องเที่ยว เพราะฉะนั้นแนวความคิดที่ท่านประธานาธิบดีจีนนำมาเสนอนั้นเปิดกว้างให้เห็นความเป็นโอกาสที่กว้างขวางมาก และมีความชัดเจน เพราะจีนในสมัยนี้ก็ต้องยอมรับว่า เศรษฐกิจมีความเจริญรุ่งเรืองมาก มีความคิดริเริ่มใหม่ ๆ ทางการเงินและการธนาคาร เช่น การก่อตั้งธนาคารเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย แล้วก็มีกองทุนเส้นทางสายไหม เพราะฉะนั้นสิ่งที่ประธานาธิบดีจีนพูดไม่ใช่พูดด้วยคำพูดอย่างเดียว มีเงินทุนรองรับด้วยในการผลักดันให้เกิดขึ้น ผมก็เห็นความจริงจังของการผลักดันแนวความคิดหนึ่งแถบหนึ้งเส้นทางนี้สูงมาก ผมเดินทางมาจีนได้แค่สองเดือน แต่เห็นแล้วว่า ความจริงจังของจีนมีสูง ความเข้มข้น ความมุ่งมั่น ความพยายามของทุกภาคส่วนในประเทศจีนที่จะผลักดันแนวความคิดของประธานาธิบดีให้เป็นจริงขึ้นมามีความเข้มข้นมาก รวมทั้งที่จัดการประชุมสุดยอดในวันที่14-15นี้ด้วย ผู้นำจากประมาณ 30 ประเทศ และรัฐมนตรีกว่า200 ท่านจะเดินทางมาร่วมประชุมครั้งนี้ ประเทศไทยเองก็ส่งรัฐมนตรีมาตั้งห้าคนมาร่วมประชุม แสดงว่า เราให้ความสำคัญกับแนวความคิดหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางมาก เรามีโครงการรถไฟความเร็วสูง และอีกหลายเรื่องที่จะต้องทำกันต่อไปในอนาคต ในกรณีไทยกับจีน เรามีความสัมพันธ์ที่มากกว่าความเป็นเพื่อน มากกว่าความเป็นมิตร เรามีความเป็นญาติ แม่ผมก็เป็นคนจีน เพราะฉะนั้น เราสองประเทศมีความสัมพันธ์เหนือกว่าความเป็นเพื่อน มีความเป็นญาติด้วย มีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เราไม่เคยมีความขัดแย้งระหว่างกัน เรามีความร่วมมือที่ดี ผมจึงคิดว่า การเกิดขึ้นของหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางเป็นสิ่งที่ประเทศไทยและภูมิภาครอคอย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม