ผู้สื่อข่าว:ขณะนี้ ไทยกำลังเร่งดำเนินยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ท่านทูตเห็นว่า ยุทธศาสตร์ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง"จะมีส่วนเกื้อกูลต่อยุทธศาสตร์ดังกล่าวของไทยมากน้อยเพียงใดครับ

เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง:

ไทยแลนด์ 4.0 มีความหมายว่า เราต้องการการลงทุนการพัฒนาด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี แนวความคิดหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางก็เป็นโอกาส แนวความคิดหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางมาพร้อมกับความก้าวหน้าของจีนในเรื่องนวัตกรรม เพราะฉะนั้น การลงทุนด้านนวัตกรรมจากจีนน่าจะช่วยนโยบายไทยแลนด์ 4.0ได้ เพราะอย่างที่ผมเรียน ไทยแลนด์ 4.0เกิดจากว่า เราติดอยู่กับภาวะในปัจจุบันนานเกินไปแล้ว ไม่สามารถที่จะยกระดับประเทศขึ้นไปได้อีก ถ้าตราบใดไม่มีนวัตกรรม ไม่มีการลงทุนทางด้านไฮเทค เราจะขายข้าวอย่าวเดียวตลอด เราต้องมาหาเทคโนโลยีมาพัฒนาข้าว สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการขายข้าว นำข้าวมาพัฒนาเป็นสิ่งอื่นๆที่ขายได้ สิ่งเหล่านี้มันก็ใช้เทคโนโลยีทั้งนั้น จะก้าวถึงจุดนั้นได้ เราต้องมีการลงทุนร่วมกันกับประเทศที่มีความสามารถทางเทคโนโลยี ประเทศไทยโดยลำพังไม่สามารถที่จะก้าวข้ามตรงนี้ได้ เราต้องอาศัยความร่วมมือจากต่างประเทศ ที่จะมาช่วยกันพัฒนาไทย เพราะฉะนั้น ผมคิดว่า การเกิดขึ้นของความคิดของท่านประธานาธิบดีสี จิ้่นผิง เรื่องหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางเป็นสิ่งที่เปิดประตูให้ไทยเข้ามา เชิญชวนการลงทุนด้านนวัตกรรมของจีนให้เข้าไปสู่ไทยมากขึ้น แล้วก็จะช่วยให้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ดิจิตอลไทยแลนด์ประสบความสำเร็จ ในขณะที่ประเทศตะวันตกกำลังอยู่ในภาวะถดถอย เขายังไม่สามารถจะพัฒนาหรือกระเตื้องขึ้นมาได้ ขณะนี้ จีนเป็นเหมือนกับผู้ที่มาช่วยพยุงทั้งหมด สรุปได้ว่า แนวความคิดหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางกำลังมาช่วยพยุงเศรษฐกิจของทั้งโลกและของทั้งภูมิภาค ของภูมิภาคเอเชียแม้จะไม่ถึงขั้นตกต่ำเมื่อเทียบกับทางตะวันตกก็ตามในขณะนี้ แต่ว่าเราก็ต้องกระเตื้องขึ้นให้ได้ เพราะฉะนั้น ขณะนี้ จีนเหมือนเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยสถานการณ์ต่างๆ

ผู้สื่อข่าว: ท่านทูตเห็นว่า โครงการอะไรที่ควรจะจัดอยู่ในยุทธศาสตร์ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" และจะเป็นประโยชน์กับไทยครับ

เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง:

ที่ผมมองเห็นคือการเชื่อมโยงทางด้านไซเบอร์ เพราะว่า ในทางกายภาพ จะมีการเชื่อมโยงเรื่องรถไฟ เรื่องถนน เรื่องอะไรต่างๆ แต่ผมคิดว่าความเชื่อมโยงด้านไซเบอร์มีความสำคัญมาก ประเทศจีนเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จมากจากการใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในการแก้ปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาทางด้านโครงสร้างเศรษฐกิจ เรายังใช้เรดาร์ขนาดใหญ่ในการประเมินข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาทางด้านการจราจร ความปลอดภัยของประเทศ เมื่อเร็วๆ นี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเยือนประเทศจีน เพื่อทอดพระเนตรโครงการเรดาร์ขนาดใหญ่ และโครงการใหญ่ๆ ของจีนที่เป็นเรื่องอวกาศ ผมคิดว่า นิวไฮเทคเหล่านี้เป็นสิ่งที่ช่วยย่อประเทศให้แคบลงได้ ผมคิดว่า การติดต่อสื่อสารด้านไอที อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเป็นจุดหนึ่งที่สำคัญในแนวความคิดหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ไม่จำเป็นจะต้องเป็นกายภาพอย่างเดียว การทำอีคอมเมิร์ซให้ขยายตัวมากๆ ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ช่วยให้เศรษฐกิจมีความคล่องตัว มีความฉับไว ถ้าหากว่า ชาวนสามารถขายข้าว ผลไม้ผ่านอินเตอร์เน็ต ผมคิดว่า นี่เป็นสิ่งที่มีความหมายมากสำหรับชาวนาที่ไม่รู้ภาษาอังกฤษ ไม่รู้การตลาด ผมก็อยากจะเห็นว่า การลงทุนทางด้านนี้ในเขต อีอีซีไอ ของไทยจะมีมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันนี้ เท่าที่ผมทราบ มีบริษัทอาลีบาบาไป บริษัทหวาเหวยเข้าไปลงทุน แต่ก็ไม่ควรจะจำกัดเฉพาะสองบริษัทเท่านั้น น่าจะมีบริษัทอื่นๆ เข้าไปลงทุนในไทยมากขึ้นในด้านไซเบอร์ ในด้านอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ในด้านอะไรอื่นๆ เพื่อจะได้หา platform ในการขายสินค้า เรามีสินค้ามากมายในประเทศไทยที่ควรจะใช้ platform ระดับโลก เพื่อจะขายสินค้าไทยไปสู่ทั่วโลกได้ คิดว่า จุดนี้มันก็ควรจะอยู่ในยุทธศาสตร์หนึ่งแถบหนึ้่งเส้นทางเหมือนกัน

ภาคภาษาไทย สถานีวิทยุซีอาร์ไอ

ขอขอบคุณ

ฯพณฯพิริยะ เข็มพล

เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศจีนเป็นอย่างมากที่กรุณาให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ สวัสดีครับ

(ข้อมูลการสัมภาษณ์ ณ วันที่ 10 พ.ษ. 2017)