ปีหลัง ๆ นี้ ธุรกิจส่งด่วนได้บุกเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนจีน การใช้บริการส่งด่วนกลายเป็นเรื่องที่จำเป็น บางคนใช้วันละ 2-3 ครั้งทีเดียว
ธุรกิจส่งด่วนได้อำนวยความสะดวกให้เราจริง ๆ เมื่อก่อน เวลาส่งของขวัญให้ญาติมิตรในต่างจังหวัด เรามักต้องเดินทางไปที่ไปรษณีย์ แม้ว่าอยู่ในเมืองเดียวกัน ก็ต้องเดินทางไปส่งด้วยตนเอง เดี๋ยวนี้ บริการส่งด่วนทำหน้าที่แทนแล้ว ซึ่งสามารถจัดส่งพัสดุต่าง ๆ ไปยังทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องออกจากบ้าน
เมื่อก่อนเรานิยมไปซื้อของที่ซุเปอร์มาร์เก็ตในวันสุดสัปดาห์ เพื่อเตรียมสิ่งของต่าง ๆ ทั้งของกินและของใช้ไว้ในสัปดาห์หน้า เพราะว่า วันทำงานไม่ค่อยมีเวลาไปซื้อของ บางทีซื้อของเยอะ ต้องหิ้วหนัก ทรมานมาก แต่เดี๋ยวนี้ มีบริการส่งด่วน เราสามารถซื้อของได้ทุกเมื่อ วันหนึ่งกินเท่าไร ก็สั่งซื้อเท่านั้น อยากกินอะไร ก็มีส่งด่วนมาให้ สะดวกสบายมาก
เมื่อเร็ว ๆ นี้ การไปรษณีย์จีนออกรายงานดัชนีว่าด้วยการพัฒนาธุรกิจส่งด่วนประจำปี 2016 และพบว่า เมื่อปี 2016 ธุรกิจส่งด่วนของจีนสร้างรายได้เกือบ 400,000 ล้านหยวน ซึ่งมากกว่าปี 2015 ร้อยละ 43.5 ครองตลาดร้อยละ 40 ของโลก อยู่อันดับแรก ยอดการส่งด่วน 31,280 ล้านชิ้น เฉลี่ยวันละ 85.71 ล้านชิ้น แต่ละคนจะใช้บริการส่งด่วนเฉลี่ยแล้วปีละ 23 ครั้ง โดยบริษัทหยวนทง เป็นบริษัทส่งด่วนที่มีพนักงานมากที่สุดถึง 300,000 คน พอถึงวันที่ 11 พฤศจิกายนของทุกปีเป็นเทศกาลซื้อของทางอินเตอร์เน็ตของจีน และเป็นช่วงเร่งด่วนของการส่งด่วนด้วย บริษัทส่งด่วนจะรับใบสั่งบริการเฉลี่ยวินาทีละ 200 กว่าชิ้น
มีรายงานว่า บริษัท DHLของเยอรมัน บริษัทFedEX และบริษัทUPSของสหรัฐฯ บริษัท TNT ของเนเธอแลนด์ซึ่งล้วนเป็นบริษัทส่งด่วนยักษ์ใหญ่ของโลก และมีความเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดในส่วนแบ่งตลาดโลก แต่ในตลาดจีน ส่วนแบ่งตลาดของบริษัทดังกล่าวไม่ถึงร้อยละ 1 แล้วธุรกิจส่งด่วนของจีนบูมขึ้นตั้งแต่เมื่อไรกันแน่
ธุรกิจส่งด่วนของจีนในฐานะเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของการไปรษณีย์ประเดิมขึ้นตั้งแต่ปี 2000 โดยมีจุดเด่นหลายประการ ตัวอย่างเช่น เพิ่มโอกาสการมีงานทำ มีคุณค่าทางเศรษฐกิจสูง และผสมผสานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่าง ๆ รวมถึงการสื่อสารโทรคมนาคม การขนส่งวัสดุ เงินทุนหมุนเวียน และการเผยแพร่วัฒนธรรม เป็นต้น ถือเป็นอุตสาหกรรมการผลิตขั้นพื้นฐานที่ขาดเสียมิได้ในสังคมที่ทันสมัย
เมื่อปี 2009 จีนจัดตั้งสมาคมธุรกิจส่งด่วนจีนขึ้น ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่อยู่ใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคม การไปรษณีย์ และกระทรวงพลเรือนจีน สมาคมธุรกิจส่งด่วนจีนประกอบด้วยคณะกรรมการมาตรฐาน คณะกรรมการสารสนเทศ คณะกรรมการส่งด่วนกับการชอปปิงทางอินเตอร์เน็ต และคณะกรรมการการลงทุนจากต่างชาติ
เมื่อปี 2012 จีนประกาศมาตรฐานระดับชาติของธุรกิจส่งด่วน โดยระบุว่า การจัดส่งสิ่งของภายในเมืองเดียวกัน จำเป็นต้องส่งให้ถึงภายในเวลา 3 วัน การจัดส่งสิ่งของไปยังต่างจังหวัด จำเป็นต้องส่งให้ถึงภายในเวลา 7 วัน หากว่าเกินเวลา ผู้ใช้บริการสามารถเรียกค่าชดเชยสูงสุด 10 หยวน เท่ากับ 50 บาทได้
ด้านความปลอดภัย มาตรฐานระดับชาติของธุรกิจส่งด่วนกำหนดไว้ว่า การตรวจเช็กพัสดุต้องผ่านอย่างน้อย 3 ขั้นตอน ขั้นแรก พนักงานส่งด่วนต้องตรวจเช็กพัสดุก่อนผนึกหีบห่อ แล้วผู้ใช้บริการต้องระบุชื่อจริง สุดท้าย พัสดุทุกชิ้นจำเป็นต้องผ่านเครื่องเอ็กซ์เรย์ตามบริษัทส่งด่วนต่าง ๆ
ตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา ธุรกิจส่งด่วนของจีนครองแชมป์โลก ทักษะการให้บริการ ระดับการบริการ และความทั่วถึงของธุรกิจส่งด่วนล้วนมีแนวโน้มการพัฒนาที่ดี