"ข้าวผัดหยางโจว" อีกหนึ่งรสจีนจี๊ดใจในโรงอาหารของซีอาร์ไอ
ที่ฝากท้องของพนักงานชาวจีนและต่างชาติ
กับสวัสดิการมื้อละ 2 หยวนต่อคนต่อวัน
ข้าวผัด เป็นอาหารที่พบเห็นหารับประทานได้ทั่วไปง่ายสุดๆ จะมีความพิเศษแตกต่างกันไปบ้างตามแต่ท้องที่ ซึ่งสูตรที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ ข้าวผัดหยางโจว(扬州炒饭)หรือข้าวผัดทรงเครื่อง ที่มีส่วนผสมครบครันทั้งไข่ ผัก และเนื้อสัตว์อย่างแฮมหรือกุ้ง
สาเหตุที่ข้าวผัดสูตรหยางโจวได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่ว ส่วนหนึ่งมาจากความทรงเครื่องที่ต่อยอดมาจากข้าวผัดใส่ไข่นั่นเอง โดยว่ากันว่าเนื่องจากจักรพรรดิสุยหยางตี้(ครองราชย์ ค.ศ.605-617) โปรดเสวย "ข้าวเศษทอง(ข้าวผัดใส่ไข่)" มาก เมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปยังเจียงตูหรือเมืองหยางโจวในปัจจุบัน ทำให้ชาวหยางโจวรู้จักกับข้าวผัดใส่ไข่ และประยุกต์ต่อยอดจนกลายเป็นข้าวผัดทรงเครื่องที่นิยมแพร่หลายไปทั่ว
แต่นักวิชาการเห็นว่า ชาวหยางโจวที่จริงรู้จักการผัดข้าวใส่ไข่มานานแล้วตั้งแต่ยุคชุนชิวจั้นกั๋ว(770-221ปีก่อนค.ศ.) พอถึงราชวงศ์หมิงและชิงก็เริ่มเติมเครื่องต่างๆ ลงไป และกลายเป็นอาหารที่รู้จักแพร่หลายไปทั่วโลกผ่านชาวจีนที่ออกไปทำการค้าหรืออพยพไปใช้ชีวิตต่างประเทศ โดยเฉพาะพ่อครัวชาวหยางโจว
สำหรับช่วงหน้าร้อนที่จีน บางคนจะมีอาการไอแห้งๆ ดังนั้น ซุปสาลี่เห็ดหูหนูขาว (雪梨银耳羹) จึงเป็นอีกหนึ่งรายการที่โรงอาหารซีอาร์ไอนิยมจัดรวมมาในเซทอาหาร เพราะสาลี่มีฤทธิ์เย็น ช่วยดับกระหาย คลายร้อน ลดเสมหะ บรรเทาอาการไอ ซึ่งเห็ดหูหนูขาวก็มีสรรพคุณบำรุงปอด และแก้อาการไอแบบแห้งๆ ด้วยเช่นกัน
เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府
ปล. ประเทศจีนมีพื้นที่กว้างใหญ่ถึงกว่า 9.6 ล้านตารางกิโลเมตร มากเป็นอันดับ 3 ของโลกประชากรต่างอาศัยกระจายอยู่ในพื้นที่ที่มีเงื่อนไขทางธรรมชาติแตกต่างกันไป ความเคยชินในการกินการอยู่ก็แตกต่างกันไปด้วย ดั่งสำนวนจีนที่ว่า "ใกล้เขากินเขา ใกล้น้ำกินน้ำ" และ "น้ำดินถิ่นหนึ่ง เลี้ยงคนแบบหนึ่ง" เมื่อจีนทางใต้สามารถปลูกข้าวเจ้าได้ คนทางใต้จึงรับประทานข้าวเจ้าเป็นหลัก ส่วนคนทางเหนือที่ต้องปลูกข้าวสาลี จึงนิยมทานอาหารประเภทเส้นแป้งและหมั่นโถวเป็นหลัก ซึ่งวัฒนธรรมอาหารการกินและกรรมวิธีการปรุงอาหาร ถือเป็นส่วนหนึ่งของการตกผลึกทางวัฒนธรรมอันรุ่งโรจน์และเก่าแก่ของจีน
ซึ่งความต่างของอาหารจีนเหนือและใต้ที่ว่า "จีนทางเหนือหนักเค็มทางใต้หนักหวาน"เริ่มปรากฏชัดในสมัยราชวงศ์ซ่ง(ค.ศ.960-1279) จวบกระทั่งสมัยราชวงศ์ชิงตอนต้นวัฒนธรรมและรสชาติอาหารจีนตระกูลเสฉวน ซานตง กวางตุ้ง และเจียงซู เป็นที่แพร่หลายและได้รับความนิยมอย่างถึงขีดสุดจนได้รับการยกย่องว่าเป็น "4 ตระกูลใหญ่แห่งอาหารจีน" พอถึงปลายราชวงศ์ชิงอาหารเจ้อเจียง ฮกเกี้ยน หูหนาน และอันฮุย ได้กลายเป็น 4 ตระกูลใหม่แห่งอาหารจีนที่ได้รับความนิยมไปทั่วเพิ่มมาจากเดิม จึงถูกผนวกรวมเป็น "8 ตระกูลใหญ่แห่งอาหารจีน" ในปัจจุบัน
ลิงค์เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
CRIThaiClip: รสจีนจีนกับซีอาร์ไอ "โรตีไข่" (คลิป)
https://thai.cri.cn/247/2017/04/20/101s253065.htm
เก่าเล่าไป ใหม่บอกมา:จีนจานด่วน เมนูสิ้นคิด "ไก่ผัดวังระเบิด"
https://thai.cri.cn/247/2012/07/03/225s199690.htm
เก่าเล่าไป ใหม่บอกมา:ปลอกหุ้มเล็บหญิงจีนโบราณ
https://thai.cri.cn/247/2012/05/15/225s198085.htm
เก่าเล่าไป ใหม่บอกมา:ของสื่อรักมัดใจ "หยก"