สำหรับประเทศที่ค่อนข้างยากจนหรือล้าหลังในเอเชียตันออกเฉียงใต้ นักลงทุนจีนก็ไปลงทุนสร้างทางรถไฟ อสังหาริมทรัพย์และอื่นๆ ทำให้ประเทศเหล่านี้มีบรรยากาศคึกคักขึ้น
สื่อมวลชนจีนมีการรายงานว่า บริษัทการลงทุนหมินเซิงจำกัดของจีนกับกลุ่ม LYP ของกัมพูชาได้ลงนามข้อตกลงวงเงิน 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเกือบเท่าเป็น 1 ใน 10 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีในปัจจุบัน ที่เป็นประมาณ 15,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ของกัมพูชาในปัจจุบัน โดยมีแผนก่อสร้างศูนย์มิตรภาพกัมพูชา – จีน ซึ่งมีทั้งศูนย์การประชุมขนาดใหญ่ โรงแรมระดับหรู สนามกอล์ฟและสวนสนุก เป็นต้น
ลาวเป็นประเทศที่ไม่ติดทะเล การคมนาคมส่วนใหญ่อาศัยทางรถไฟและทางหลวง เมื่อปีที่แล้ว ได้เริ่มโครงการก่อสร้างทางรถไฟจีน – ลาว เป็นทางรถไฟที่เชื่อมชายแดนจีน – ลาวกับกรุงเวียงจันทน์เมืองหลวงของลาว ระยะทาง 414 กิโลเมตร ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ " 1 แถบ 1 เส้นทาง" ยอดการลงทุน 5,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
พม่าเป็นประเทศเพื่อนบ้านของจีน ขณะนี้กำลังผลักดันกระบวนการประชาธิปไตย ขณะเดียวกัน ยังได้ดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจและเปิดสู่ภายนอก กองทุนการเงินระหว่างประเทศคาดว่า ปีนี้ ความเร็วในการเติบโตของเศรษฐกิจพม่าจะสูงถึง 8.1% ซึ่งเป็นความเร็วการเติบโตที่เร็วที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากอิรักเท่านั้น จีนเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญที่สุดของพม่า การค้าระหว่างสองประเทศในปีที่แล้วคิดเป็น 40% ของยอดการค้าต่างประเทศของพม่า ปัจจุบัน จีนกำลังลงทุนช่วยพม่าสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษริมฝั่งทะเลตะวันตก ก่อสร้างสถานีกำเนิดพลังไฟฟ้าและท่าเรือ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคาดว่า ปีนี้ อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจกัมพูชาจะอยู่ที่ 7% และพม่า 7.5% รายได้ประชาชาติจะสูงขึ้น และอัตราผู้ยากจนจะน้อยลง สถิติล่าสุดขอธนาคารโลกแสดงให้เห็นว่า อัตราผู้ยากจนของกัมพูชา (ค่าครองชีพไม่เกิน 1.9 เหรียญสหรัฐฯ ต่อวัน) ลดจาก 30% ของปี 1994 เหลือ 2.2% ในปัจจุบัน ส่วนประเทศลาว อัตราผู้ยากจนลดลงจาก 22.9% เหลือ 16.7%
การค้าระหว่างจีนกับกัมพูชาก็พัฒนาอย่างรวดเร็ว ปี 2016 ยอดการค้าระหว่างสองประเทศสูงถึง 4,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 2 เท่าของปี 2012
องค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องชี้ให้เห็นว่า เงินทุนจีนที่เข้าสู่กัมพูชา ลาวและพม่า ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนที่มีเงื่อนไขพิเศษ อย่างเช่นกำหนดให้ใช้โครงการก่อสร้างที่วิสาหกิจจีนเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยเฉพาะในประเทศลาว ตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา จีนมีการลงทุนในลาวคิดเป็น 15% ของจีดีพีลาว ซึ่งเงินทุนมหาศาลเช่นนี้ ลาวไม่เคยได้รับจากประเทศอื่นๆ
รายงานของธนาคารโลกแสดงให้เห็นว่า เนื่องจากได้รับการช่วยเหลือในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานจากจีน ทำให้ประชากรลาวที่สามารถใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจาก 15% ของช่วงทศวรรษปี 1990 มาเป็น 90% ในปัจจุบัน
(In/Lin)
