หลังจากหลิวเป้ย (เล่าปี่) สิ้นพระชนม์ในค.ศ.223 จูเก่อเลี่ยงหรือขงเบ้งในฐานะอัครมหาเสนาบดีพยายามสร้างความเข้มแข็งให้กับรัฐสู่ และได้ยกทัพไปโจมตีรัฐเว่ยหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ หลังจูเก่อเลี่ยงเสียชีวิต อาณาจักรสู่ก็ถูกกองทัพรัฐเว่ยพิชิตโดยง่าย ซือหม่าเอี๋ยน ขุนศึกผู้สืบตระกูลขุนนางนายทหารที่มีอิทธิพลสูงสุดในรัฐเว่ยก็ได้ตั้งตนเป็นจักรพรรดิอู่ตี้แห่งราชวงศ์จิ้น ต่อมาในค.ศ. 280 จักรพรรดิอู่ตี้แห่งราชวงศ์จิ้นพิชิตอาณาจักรอู๋ได้สำเร็จ เป็นอันว่า อาณาจักรจีนซึ่งเคยแตกแยกออกเป็นสามอาณาจักรได้กลับมารวมกันเป็นเอกภาพอีกครั้งหนึ่ง
หลังจักรพรรดิจิ้นอู่ตี้รวมจีนเข้าเป็นอาณาจักรเดียวกันอีกครั้งหนึ่งแล้ว มีพระราชดำริว่า นับแต่นี้ไป ไม่มีศัตรูภายนอกอาณาจักรของพระองค์อีกแล้ว จึงออกพระราชกฤษฎีกาให้ลดกำลังทหารประจำการในเมืองหลวง และหัวเมืองต่างๆ แล้วทรงแต่งตั้งพระญาติเป็นเจ้ากว่า 20 องค์ โดยบรรดาเจ้าเหล่านี้มีที่ดินกว้างใหญ่อยู่ในอำนาจ มีสิทธิเก็บภาษีจากชาวนา และมีอำนาจในการปกครองทั่วทั้งดินแดนของตน สามารถแต่งตั้งโยกย้ายขุนนางที่มีหน้าที่บริหารดินแดนของตน และมีกองทัพส่วนตัวอีกด้วย เมื่อจักรพรรดิจิ้นอู่ตี้ออกกฎหมายให้ลดกำลังรบ บรรดาเจ้าทั้งหลายต่างไม่ยอมปฏิบัติตาม โดยอ้างว่า มีไว้เพื่อรักษาความปลอดภัยของตนเท่านั้น
ในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ จักรพรรดิจิ้นอู่ตี้ได้จัดสรรที่ดินให้ชาวนาได้มีที่ดินทำกิน รัฐบาลเก็บค่าเช่าที่ดินเป็นข้าวที่ผลิตได้และผ้าไหมแพรที่ทอได้จากชาวนา อย่างไรก็ดี จักรพรรดิจิ้นอู่ตี้ปล่อยให้เจ้าที่ดินและเจ้าขุนมุลนายทั้งหลายตักตวงผลประโยชน์จากชาวนา เนื่องจากบุคคลเหล่านี้เป็นพื้นฐานสนับสนุนพระองค์ในการใช้อำนาจบริหารประเทศ ดังนั้น ผู้ที่ได้ประโยชน์จากการจัดสรรที่ดินก็คือ กลุ่มเจ้าที่ดินและขุนนางชั้นผู้ใหญ่เท่านั้น นโยบายพัฒนาเศรษฐกิจของจักรพรรดิจิ้นอู่ตี้จึงมีแต่จะทำให้ผู้ที่ร่ำรวยอยู่แล้วร่ำรวยยิ่งขึ้น ส่วนผู้ที่ยากจน ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ก็มีแต่ยากจนลงทางเดียว
หลังได้ครองราชสมบัติ จักรพรรดิจิ้นอู่ตี้ทรงใช้ชีวิตสำเริงสำราญ ฟุ่มเฟือย จนเงินในพระคลังขาดแคลน จักรพรรดิจิ้นอู่ตี้ต้องหาเงินด้วยวิธีขายยศและตำแหน่งขุนนางให้แก่พวกพ่อค้าที่ร่ำรวย เพื่อนำเงินมาใช้สอยในความสุขสำราญส่วนพระองค์ จากการที่จักรพรรดิจิ้นอู่ตี้ใช้ชีวิตสุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือยนี้ พวกขุนนางและเจ้าที่ดินก็พลอยใช้ชีวิตแบบเดียวกัน ทำให้ประชาชนเดือดร้อนมาก
หลังจักรพรรดิจิ้นอู่ตี้สิ้นพระชนม์ พวกเจ้าเริ่มสู้รบกันด้วยกำลังทหาร จนลุกลามเป็นสงครามกลางเมืองระหว่างเจ้าทั้งแปดองค์ที่ยืดเยื้อเป็นเวลานาน ช่วงเวลานั้น เจ้าบางองค์ไปขอความช่วยเหลือจากชนเผ่ากลุ่มน้อย 5 กลุ่มที่อาศัยอยู่ในอาณาจักร ได้แก่ ชนเผ่าซงหนู ชนเผ่าเจี๋ย ชนเผ่าเซียนเปย ชนเผ่าตี และชนเผ่าเชียง