ต่อมา หลิวเยียนยกทัพเข้าโจมตีลั่วหยางเมืองหลวงของราชวงศ์จิ้น แต่ไม่สำเร็จ ถัดมาอีกปีเดียว หลิวเยียนเสียชีวิตลง แต่ภารกิจของผู้นำชนเผ่าซงหนูที่จะพิชิตเมืองหลวงของราชวงศ์จิ้นยังคงมีอยู่ ค.ศ.311 หลิวชง บุตรชายของหลิวเยียนนำกองทัพเข้าพิชิตเมืองลั่วหยางสำเร็จ จักรพรรดิหวัยตี้แห่งราชวงศ์จิ้นถูกจับเป็น และถูกประหารชีวิตอีกสองปีต่อมา หลังเมืองลั่วหยางถูกพิชิต ชนชั้นปกครองของราชวงศ์จิ้นถอยไปตั้งหลักที่เมืองฉางอัน จักรพรรดิหมิ่นตี้ได้ขึ้นครองราชย์ ค.ศ.316 กองทัพชนเผ่าซงหนูพิชิตเมืองฉางอันได้ และจักรพรรดิหมิ่นตี้ถูกประหารชีวิตเช่นเดียวกับจักรพรรดิหวัยตี้ นับเป็นกาลอวสานของราชวงศ์จิ้นโดยสมบูรณ์
หลังเมืองฉางอันถูกชนเผ่าซงหนูพิชิต ปีต่อมา ซือหม่ารุ่ย เจ้าแห่งราชวงศ์จิ้นที่ถอยไปตั้งหลักอยู่ที่เมืองหนานจิน ทางภาคใต้ของจีนได้ตั้งตนเป็นจักรพรรดิ ทรงพระนามว่า จิ้นหยวนตี้ ราชวงศ์จิ้นที่ตั้งขึ้นอยู่ทางภาคใต้ของจีนนี้เรียกว่าจิ้นตะวันออก เพื่อให้ต่างไปจากราชวงศ์จิ้นยุคแรก คือ จิ้นตะวันตก
ช่วงเวลานั้น ทางภาคเหนือของจีนมี 3 อาณาจักรสำคัญ ได้แก่ โฮ่วจ้าว เฉียนเอี้ยน และเฉียนฉิน
อาณาจักรโฮ่วจ้าวก่อตั้งขึ้นโดยสือเล่อเมื่อ ค.ศ.330 เมืองหลวงอยู่ที่สิงไถ มณฑลเหอเป่ย สือเล่อเป็นคนชนเผ่าเจี๋ย เคยเป็นทาสมาก่อน ภายหลังได้เป็นแม่ทัพภายใต้บังคับบัญชาของหลิวเยียน ต่อมา สือเล่อได้นำกองทัพพิชิตอาณาจักรเฉียนจ้าว แล้วก่อตั้งอาณาจักรโฮ่วจ้าวของตนขึ้น ซึ่งเป็นอาณาจักรที่มีความเข้มแข็ง ได้ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ในภาคเหนือของจีน นับเป็นอาณาจักรที่ใหญ่สุดในบรรดา 16 อาณาจักรในภาคเหนือของจีนด้วยกัน
อาณาจักรเฉียนเอี้ยนที่มีเมืองหลวงอยู่ที่มณฑลเหลียวหนิงก่อตั้งขึ้นโดยมู่หรงห่วง หัวหน้าชนเผ่าเซียนเปย อาณาจักรนี้มีความเข้มแข็งและเสถียรภาพทางการเมืองอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง จนถูกฝูเจี้ยน หัวหน้าชนเผ่าตีพิชิตใน ค.ศ.352
ฝูเจี้ยนหัวหน้าชนเผ่าตีได้ก่อตั้งอาณาจักรเฉียนฉินขึ้นเมื่อ ค.ศ.352 ตั้งเมืองหลวงอยู่ที่เมืองฉางอัน หลังฝูเจี้ยนเสียชีวิต ฝูเจียน หลานของฝูเจี้ยนได้ขึ้นมาเป็นผู้นำแทน ได้ดำเนินนโยบายห้ามไม่ให้เจ้าที่ดินทำการกดขี่ขูดรีดชาวนาตามอำเภอใจ ยังผลให้อาณาจักรเฉียนฉินมีเสถียรภาพ เศรษฐกิจเริ่มพัฒนาเจริญขึ้น ช่วงเวลานั้น ฝูเจียนแผ่ขยายอาณาเขตโดยผนวกดินแดนของหลายอาณาจักรในภาคเหนือของจีน ทำให้ภาคเหนือจีนที่เคยแตกแยกเป็นอาณาจักรเล็กอาณาจักรน้อยกลับมารวมตัวกันได้อีกครั้งหนึ่ง
ส่วนทางภาคใต้ของจีน เมื่อราชวงศ์จิ้นตะวันออกมีความมั่นคงขึ้น ขุนนางที่รักชาติก็พากันเรียกร้องให้จักรพรรดิหยวนตี้แห่งราชวงศ์จิ้นตะวันออกส่งกองทัพขึ้นไปพิชิตภาคเหนือ เพื่อกอบกู้ดินแดนภาคเหนือที่เสียไปแก่ชนเผ่าน้อยกลับคืนมา ผลที่สุด จัรกรพรรดิราชวงศ์จิ้นตะวันออกต้องยินยอมให้จู่ตี๋นำกองทัพขึ้นไปภาคเหนือ หลังสู้รบอยู่หลายปี จู่ตี๋สามารถกอบกู้ดินแดนบางส่วนคืนมาได้ แต่เนื่องจากทางราชสำนักจิ้นตะวันออกไม่เต็มใจสนับสนุน เมื่อจู่ตี๋เสียชีวิตลง ปฏิบัติการกอบกู้ดินแดนภาคเหนือก็ยุติลง