ก่อนหน้างานนี้ไปงานเทศกาลหนังสือนานาชาติที่ไหนมาบ้างแล้ว
จริงๆ เราไปมาหลายที่แล้วนะคะ อย่างไต้หวัน เราก็ไปมา 2-3 ปีแล้ว เกาหลีก็ไปมา 2 ปีแล้ว และล่าสุดก็ที่มาเลเซียค่ะ ก่อนหน้านี้ก็เคยไปโบโลญญ่า งานหนังสือเด็กที่สเปนมาแล้ว
แล้วประสบความสำเร็จขนาดไหนในการขายลิขสิทธิ์หนังสือให้กับต่างประเทศ
ก็เท่าที่ไปมาก็ทยอยค่อยเป็นค่อยไป ช่วงแรกอาจจะยากนิดนึงนะคะ อาจจะด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง เพราะว่าการ์ตูนสไตล์อีคิวพลัสนั้น เป็นการ์ตูนคอมมิกส์ ทำให้เข้าใจยากกว่าหนังสือภาพนิดหน่อย ก็เลยต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ว่าพอเริ่มที่จะขายได้ เริ่มที่จะมีคนรู้จักการ์ตูนสไตล์คอมมิกส์มากขึ้น ก็เริ่มที่จะขายได้มากขึ้น ตอนนี้ก็มีขายไปต่างประเทศบ้างแล้ว
ประเทศไหนบ้างครับที่ซื้อลิขสิทธิ์ไปแล้ว
ก็มีมาเลเซียค่ะ ที่ซื้อลิขสิทธิ์แบบการ์ตูนซีรีย์ หรือที่เป็นตอนๆ ไปแล้วหลายชุดทีเดียว แล้วก็มีเกาหลีที่อยู่ในระหว่างการพูดคุย ซึ่งก็คิดว่าน่าจะเร็วๆ นี้แน่นอนค่ะ นอกจากนี้ที่ยังคุยค้างอยู่ก็จะมีจีนและไต้หวันค่ะ
แล้วสำหรับงานครั้งนี้ล่ะครับ มีสำนักพิมพ์จากต่างชาติเข้ามาติดต่อบ้างหรือยัง
ก็มีเหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะสำนักพิมพ์จีนที่มาสนใจทั้งที่เป็นการ์ตูนและนิยาย ซึ่งตัวเองกลับเมืองไทยแล้วก็ต้องไปทำการบ้านอย่างดี ส่งตัวอย่างเรื่องย่อหรือหนังสือที่ได้รับการแปลแล้วมาในเบื้องต้นก่อน เพื่อให้เขาศึกษาว่าจะโอเคไหม
ส่วนใหญ่แล้วหนังสือของอีคิวพลัสเป็นหนังสือประเภทไหนครับ
จริงๆ แล้ว ส่วนใหญ่เป็นหนังสือการ์ตูนความรู้ทั้งหมด แต่เราก็มีสำนักพิมพ์ในเครืออีกหลายแห่งที่แตกออกไป อย่างสำนักพิมพ์พูริก้า ที่ทำหนังสือนิยายและการ์ตูนสำหรับวัยรุ่นด้วย
คาดว่าจะประสบความสำเร็จมากน้อยขนาดไหนในตลอดทั้งงานปักกิ่งบุ๊กแฟร์ครั้งนี้ครับ
ก็คิดว่ากลับแล้วครั้งนี้น่าจะได้อะไรบ้าง ตอนนี้ก็คิดว่าประสบความสำเร็จเกิน 50 เปอร์เซนต์แล้ว และคิดว่าน่าจะมีสัก 70 เปอร์เซนต์ที่น่าจะมีการติดต่อกลับมา และพูดคุยต่อไป เพื่อให้เกิดการซื้อขายเกิดขึ้นได้ในอนาคต
นี่ก็คือความเห็นในส่วนของสำนักพิมพ์ที่เดินทางเข้าร่วมงานหนังสือนานาชาติมาแล้วหลายแห่ง และจากบมสัมภาษณ์ก็แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มในใจว่า ประเทศจีนน่าจะเป็นทางเลือกใหม่ในการเจาะตลาด โดยเฉพาะหนังสือประเภทการ์ตูน และหนังสือภาพที่ดูเหมือนว่าจะเปิดตลาดได้ง่ายที่สุด แต่ผู้แสดงงานหลายท่านก็บอกว่าจริงๆ แล้วหนังสือแนวอื่นก็ได้รับความสนใจ อย่างนิยายไทยเขาก็สนใจ ยิ่งพอบอกว่าเป็นหนังสือรางวัลแล้วด้วยยิ่งสนใจมากขึ้น แต่ติดตรงที่ว่าเราต้องทำการแปลมาก่อน หรือไม่ก็ต้องทำเรื่องย่อมาให้อ่านพิจารณา เพื่อให้เขาทำการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
อย่างน้อยก็น่าโหนกระแสละครไทยกำลังดังในจีน เอาต้นฉบับนวนิยายที่เคยถูกสร้างเป็นละครมาขายก็ยังได้ เพราะได้ข่าวว่าทางบริษัทผลิตละครแห่งหนึ่งของจีน ได้ซื้อลิขสิทธิ์บทละครของไทยมาทำการแสดงใหม่ในจีนด้วย การต่อยอดเอานวนิยายไทยร่วมกระแสด้วยก็น่าจะพอลุ้นอยู่บ้างนะครับ
นอกจากนี้นะครับ ภายในงานนี้ผู้ที่มาเข้าร่วมงานก็ไม่ได้มุ่งแต่จะมาขายของของตัวเองเพียงอย่างเดียวนะครับ เพราะยังมีการออกไปซื้อของคนอื่นด้วย ดังนั้นสำนักพิมพ์ไทยที่มาเข้าร่วมงานครั้งนี้จึงได้มีโอกาสเจรจาโดยตรงกับสำนักพิมพ์ต่างได้เลย
ซึ่งทางบริษัทเอเจนซี่ที่ให้บริการซื้อขายลิขสิทธิ์หนังสือต่างประเทศในไทยมาหลายปีก็ได้ส่งตัวแทนเข้ามาคอยประสานงานด้วยเช่นกัน
บริษัทดังกล่าวก็คือ ทัทเทิล โมริ ผมคาดว่าผู้ที่อยู่ในแวดวงหนังสือรู้จักชื่อนี้กันเป็นอย่างดี ในครั้งนี้ทัทเทิลได้ส่งคุณภารวิณี ยังเจริญยืนยง ผู้แทนเจรจาซื้อขายลิขสิทธิ์หนังสือภาษาจีน มาดูแลเป็นการเฉพาะ
ภารวิณี ยังเจริญยืนยง
มาร่วมงานปักกิ่ง บุ๊ก แฟร์ ในฐานะเอเจนซี มองภาพรวมงานครั้งนี้อย่างไรบ้างครับ
ครั้งนี้ทางจีนเปลี่ยนสถานที่จัดงานมาสู่แห่งใหม่ ซึ่งมีขนาดที่ใหญ่มาก ถามว่ามีผู้สนใจมาร่วมงานเยอะไหม มีพอสมควรค่ะ คือไม่ได้น้อยและไม่ได้เยอะมาก
ในด้านซื้อขายลิขสิทธิ์ทางสำนักพิมพ์ต่างชาติสนใจหนังสือไทยขนาดไหนครับในงานครั้งนี้
คิดว่าค่อนข้างเยอะพอสมควร มีหลายสำนักพิมพ์เข้ามาดูงานของไทย ซึ่งก็คือรอบนี้จะเน้นงานเด็ก หนังสือเด็ก หนังสือภาพ ซึ่งสำนักพิมพ์จีนค่อนข้างที่จะสนใจพอสมควรเลย