จีนปริทรรศน์:ซูโจวหน้าหนาว เหงาไม่หยอก (1)
  2012-01-11 18:14:46  cri

บ้านริมคลองของซูโจว

สวัสดีที่รัก

ผมเพิ่งไปซูโจวกลับมา และหลงรักเมืองแห่งสายน้ำแห่งนี้เข้าเต็มเปา บ้านเก่าแก่โบราณสีขาวกับดำ ดูแล้วยังกะเมืองของหมีแพนด้า แต่มาคิดดูอาจจะไม่ใช่ คงเพราะเขาอาจจะใช้สีตามหลักหยินหยางตามแนวคิดศาสนาเต๋า บ้านแต่ละหลังที่เรียงชิดติดกันอยู่ตามริมคลองนั้นมีท่าน้ำของตนเอง หน้าบ้านที่ติดถนนก็มีบ่อน้ำสาธารณะ ที่ชาวบ้านปัจจุบันยังมาตักมาเอาไปใช้กันอยู่ เช้าๆ ก็ยังมีพวกป้าๆ เอาเสื้อผ้าพร้อมท่อนไม้มานั่งทุบตุบตับไปพลางคุยกันไปพลาง ส่วนคนที่ว่างก็พากันออกมานั่งรับแดดอุ่นกันอย่าง ชีวิตของผู้คนในเมืองเก่าซูโจวยังไหลเอื่อยเหมือนสายน้ำสีเขียวใสในคลองของเมืองเก่า ขณะที่ชีวิตในเมืองใหม่เต็มไปด้วยธุรกิจที่วุ่นวายและรวดเร็ว

ก่อนเดินทางมีเพื่อนคนจีนหลายคนถามว่า ทำไมถึงเลือกไปซูโจว ทำไมไม่เป็นหางโจว ทำไมไม่ไปเส้าซิง เพราะว่าซูโจวเป็นเมืองครึ่งๆ กลางๆ ระหว่างทั้งสองเมืองดังกล่าว คือซูโจวนั้นเป็นเมืองเล็กกว่าหางโจว หากจะเทียบกับเรื่องการจัดสวนที่ทั้งสองเมืองนี้ขึ้นชื่ออย่างยิ่ง เพราะเป็นสถานที่ตากอากาศยอดนิยมของจักพรรดินักท่องเที่ยวอย่างคังซีและเฉียนหลง แม้จะมีชื่อคู่เคียงกันในคำกล่าวโบราณที่ว่า "บนฟ้ามีสวรรค์ บนดินมีซูหาง" ซึ่งหมายความว่าทั้งสองเมืองนี้งดงามไม่แพ้วิมานบนสรวงสวรรค์ แต่ผู้คนกลับพูดถึงหางโจวกันมากกว่า ด้วยดินแดนแห่งสายน้ำซึ่งเป็นมรดกโลกนั้นมี ทะเลสาบซีหู ที่สวยงามที่สุดในจีน ทำให้ซูโจวเป็นรองลงมา

และนี่คือสาเหตุหนึ่งที่เลือกมาซูโจว

เพราะไม่ชอบสถานที่ที่คนชื่นชอบมาก ไม่ชอบอะไรที่เป็นอันดับหนึ่ง เพราะนั่นหมายความว่านักท่องเที่ยวจะต้องมีจำนวนมาก ต้องแย้งกันกินแย้งกันเดิน อย่างนั้นคงไม่สนุกแน่

ผมก็เลยเลือกมาซูโจว ซึ่งคุณเองคงไม่ประหลาดในความคิดเช่นนี้ของผม เพราะเราก็รู้จักใจคอกันเป็นอย่างดี

ส่วนที่คนอื่นๆ อีกส่วนหนึ่ง ถามว่า ทำไมไม่ไป "เส้าซิง" ล่ะ อยู่ไม่ไกลจากเซี่ยงไฮ้เหมือนกัน แล้วก็มีความเป็นชนบทมากกว่าซูโจวเสียอีก ถ้าอยากสัมผัสความเป็นท้องถิ่นแท้ๆ บรรยากาศแบบชาวบ้านๆ ก็ต้องไปเส้าซิง

ผมจะบอกให้ก็ได้ ใจแรกนั้นก็อยากไปมาก เพราะตอนที่เข้าไปดูเว็บไซต์ของโฮสเทลที่จะไปพัก ก็ได้เห็นรายละเอียด รวมทั้งบรรยากาศจากภาพถ่ายหลายรูปที่บอกได้ว่าน่าจะเป็นเป้าหมายการเดินทางที่ดี แต่ที่ตัดสินใจไม่ไปก็เพราะว่าข้อจำกัดเรื่องเวลาในการเดินทาง ถ้าผมไม่ต้องไปแวะเซี่ยงไฮ้เพื่อดูปิกัสโซเสียก่อน คงจะเปลี่ยนทริปนี้เป็น ซูโจว-เส้าซิง ไม่ใช่ว่าเมืองใหญ่ไม่ดีนะ แต่เพราะผมไปมาหลายครั้งแล้ว และก็คิดว่าเมืองใหญ่ที่ไหนก็เหมือนๆ กัน ไปดูธรรมชาติ ดูวิถีชีวิตของผู้คนในท้องถิ่นดีกว่า เพราะจะได้สามารถสัมผัสวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง

อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ จากปักกิ่งผมเลือกที่จะนั่งรถไฟความเร็วสูงหรือ "เกาเถี่ย" เพราะสะดวกสบาย ปลอดภัย ราคาถูกกว่าเครื่องบิน และใช้เวลาเดินทางรวมๆ แล้วใกล้เคียงกันมาก จากปักกิ่งไปเซี่ยงไฮ้แค่ 5 ชั่วโมงเอง ถึงแล้วก็ต่อรถไฟใต้ดินเข้าเมืองได้ทันที แล้วจากเซี่ยงไฮ้ไปซูโจวก็ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ไม่ต้องจองล่วงหน้าด้วย เพราะซูโจวเป็นเมืองผ่านของรถไฟความเร็วสูงหลายสาย

ดังนั้นท้ายที่สุดผมจึงหยุดการเดินทางสั้นๆ ในช่วงปลายปีนี้ไว้ที่เซี่ยงไฮ้และซูโจว

ซูโจวเป็นเมืองหนึ่งของมณฑลเจียงซู เป็นเมืองท่าค้าขายสำคัญมาตั้งแต่สมัยโบราณ เพราะเอกลักษณ์สำคัญของเมืองที่เต็มไปด้วยคลองธรรมชาติและคลองขุด บ้านเรือนของผู้คนในยุคเก่าจึงปลูกกันอยู่ตามริมคลอง ซึ่งมีเรือเป็นพาหนะสำคัญ นอกจากนี้ซูโจวยังเคยเป็นราชธานีในยุคสามก๊ก เป็นสถานที่พักตากอากาศของจักรพรรดิหลายยุคหลายสมัย เพราะที่นี่โดดเด่นในเรื่องการจัดอุทยานและสวนสวย จำลองภูเขา น้ำตก ทะเลสาบ และแมกไม้นานาพันธุ์มารวมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

คุณจำพระราชวังฤดูร้อนหรือ "อี้เหอหยวน" ที่กรุงปักกิ่งได้ไหม ที่ผมพาไปเดินเที่ยวเมื่อหน้าร้อนที่แล้ว สวนทั้งหมดของที่นั่น พระนางซูสีไทเฮาได้สั่งให้ช่างหลวงสร้างขึ้นตามแบบสวนของซูโจวทั้งสิ้น

1 2 3 4 5 6 7 8
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040