จีนปริทรรศน์:ซูโจวหน้าหนาว เหงาไม่หยอก (1)
  2012-01-11 18:14:46  cri

หลังชมพิพิธภัณฑ์ใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ดวงอาทิตย์ก็โลกมืออำลาโลกไปเสียแล้วทั้งที่นาฬิกาดิจิตอลที่กำแพงห้องจำหน่ายของที่ระลึก ซึ่งอยู่ปลายทางออกบอกว่าเพิ่งจะบ่ายสี่โมงเศษๆ เท่านั้น เมื่อชะโงกหน้าผ่านกระจกออกไปดูก็ปรากฎว่าฝนที่ปรอยๆ มาทั้งวันหยุดเม็ดแล้ว จึงตัดสินใจอำลาอย่างเสียดาย ถ้ามีเวลามากกว่านี้ อยากจะกลับมาเดินเก็บความงดงามทางศิลปะต่อให้เต็มที่

แต่เหมือนสถานที่ไม่เป็นใจให้กลับไปพักผ่อน เพราะทางออกของพิพิธภัณฑ์ใหม่แห่งนี้ดันเชื่อมกับบ้านพิพิธภัณฑ์เก่าของจาง หวัง ฝู แม้จะสลัวลางบางแล้ว แต่ก็พอมองเห็นความงดงามอลังการของคฤหาสน์สองชั้นนายทหารนักรบท่านนี้ ที่แบ่งซอยเป็นสัดส่วนต่างๆ ซึ่งประมาณแล้วน่าจะมีผู้คนอาศัยอยู่ร่วมกันได้ไม่ต่ำกว่าสองร้อยคน เพราะมีห้องหับเยอะมาก มีสวนเซนซ่อนตัวอยู่ตามมุมต่างๆ ของบ้าน ทุกหลัง ทุกห้องมีทางเดินใต้ชายคาทะลุถึงกัน ไม่ต้องเปียกปอนยามฝนลง และไม่เหน็บหนาวมากยามหิมะตก เพราะลมไม่สามารถแทรกซึมมาได้ ขณะเดียวกันก็มีลานขวางระหว่างหมู่อาคาร เพื่อรับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ บริเวณใจกลางของคฤหาสน์มีโรงชมงิ้มส่วนตัว มีห้องที่จัดแสดงไว้ในบรรยากาศการวางแผนการรบ เพราะเจ้าของบ้านหลังนี้เป็นผู้ที่กรำศึกตลอดชีวิต จนอายุเพียงสามสิบเศษก็เกิดสติวิปลาส เพราะเข่นฆ่าชีวิตมนุษย์มากจนเกินไป

รูปปั้นของอ๋องนักรบ จาง หวัง ฝู

ตอนเดินออกมาจากพิพิธภัณฑ์แล้ว ก็พบว่า "หยวน หลิง ปู้ อู้ ก่วน" ซึ่งเป็นสวนมรดกโลกที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวตั้งอยู่เรียงเคียงข้างกันเท่านั้นเอง ด้วยทั้งเหนื่อยล้าจากการเดินทอดน่องท่องไปทั่วทั้งเมือง อีกทั้งดวงอาทิตย์ยามหน้าหนาวก็ลาท้องนภาไปไวเสียเหลือเกิน ผมจึงได้แต่มองเมียงมองอย่างเสียดาย กะไว้ว่าวันหลังค่อยมาอีก เพราะดูจากแผนที่แล้วไม่ไกลจากถนนผิงเจียงลู่ซึ่งเป็นที่พักสักเท่าไรนัก

ที่รักครับ บางทีแผนที่ก็เชื่อไม่ได้จากสายตา โดยเฉพาะแผนที่คนเดินเท้าแบบวาดมืออย่างที่ผมมีอยู่ เพราะเย็นนั้น ผมดูชัดเจนแล้ว ตามเส้นทางที่ระบุไว้นั้นเป็นถนนผิง เจียง ลู่ แน่นอน ที่เชื่อต่อกับสี่แยกไม่ไกลจาก "หยวน หลิง ปู้ อู้ ก่วน" แต่ทว่าเมื่อเดินเข้าไปแล้วปรากฎว่ามันเป็นซอยเล็กและแคบมาก ไม่น่าจะเป็นถนนสายวัฒนธรรมได้ แม้จะเลียบคลองไปเหมือนกันก็ตาม จึงคอยถามคนที่เดินผ่านไปมาแถวนั้น ซึ่งทุกคนก็ยืนยันว่าใช่ถนนนี้ถูกต้องแล้ว ผมจึงได้แต่ดุ่มเดินไปเรื่อย ผ่านโรงเรียน ร้านชำเก่าๆ โทรมๆ ที่เด็กรุมกันซื้อขนมสีสันแปร๊ดๆ ซึ่งไม่น่าไว้ใจได้เรื่องโภชนาการ เด็กที่ไหนก็เป็นเหมือนกัน ขนมอะไรที่สีสันสดใสเช่นนี้เป็นถูกอกถูกใจเสมอ เมื่อย้อนคิดถึงอดีตสมัยเด็กๆ ตัวผมเองก็อดออมเงินค่าขนมไว้ซื้อลูกกวาดแบบนี้เหมือนกัน

พอเด็กได้ของถูกใจก็ตามกันเดินหยอกกันไป กินกันไปตามถนน ผมมองดูเสียเพลินจนมาทะลุที่ถนนอีกสายหนึ่งจึงเข้าใจว่า ผมเดินมาถูกถนนแล้วจริงๆ เพียงแต่ในแผนที่คนวาดลืมลงถนนเส้นที่คั่นกลางนี้ เลยทำให้งง ว่าทำไม้เดินเลียบคลองมาตั้งนานแล้วยังไม่ถึงเสียที เมื่อถึงที่พักและหันไปมองเส้นถนนที่เพิ่งเดินผ่านมา และความเหนื่อยล้าที่ปลีน่อง จึงคะเนได้ว่าถนนผิเจียงลู่ทั้งสองตอนนี้น่าจะมีความยาวไม่ต่ำกว่า 2 กิโลเมตร

และคิดว่าหลังมื้อค่ำแล้ว คงต้องให้รางวัลเท้าด้วยการเอาไปแช่ในน้ำอุ่นๆ เสียสักหน่อย

อาหารเย็นวันนี้ผมเลือกแบบพื้นเมืองเต็มที่เลย ถามเพื่อนคนจีนที่พักที่เดียวกันว่าอะไรขึ้นชื่อที่สุด เขาก็ชี้ไปที่ร้านไม่ไกลจากโรงแรมที่พัก ภายในร้านมีอาหารท้องถิ่นชนิดต่างๆ ที่ทำด้วยพลาสติกเลียนแบบของจริง อยากกินแบบไหนก็ชี้ได้เลย ไม่จำเป็นต้องอ่านภาษาจีนเข้าใจ ฟังแล้วผมก็รู้สึกว่าช่างเป็นร้านที่เหมาะกับชาวต่างชาติที่สุด และเข้าใจว่าทำไมเขาถึงแนะร้านนี้ให้ผม แถมยังย้ำอีกว่าให้เลือกอาหารชามใหญ่ๆ ที่ใส่อาหารหลายๆ อย่างลงไปรวมกัน ผมฟังแล้วไม่เข้าใจ สุดท้ายเขาเลยอาสาพาไปชี้ให้ดู ปรากฎว่าอาหารชนิดนั้นคล้ายกับสุกี้ มีลูกชิ้น ไข่เจียว กระเพาะหมู ไข่นกกะทา ปลาอินทรีทอดหั่นแว่น ผักกาดขาว และปูด้วยวุ้นเส้นที่ก้นชาม เขาบอกว่าอาหารชนิดนี้เป็นของพื้นถิ่นเจียงซู ยิ่งในหน้าหนาวแบบนี้คนยิ่งนิยมสั่งกินกันมาก

เสียดายที่ผมดันลืมจดชื่ออาหารไว้ แต่ผมว่าคุณคงไม่ชอบเท่าไร เพราะมันมีเครื่องในหมูอยู่ด้วย แต่ก็นึกถึงเนื้อปลาและวุ้นเส้นยักษ์ที่คุณชอบกิน ถ้ามาด้วยกันคงพอเหมาะพอเจาะ เพราะผมทานคนเดียวไม่มีทางหมดเลย

1 2 3 4 5 6 7 8
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040