จีนปริทรรศน์:ซูโจวหน้าหนาว เหงาไม่หยอก (1)
  2012-01-11 18:14:46  cri

ผมได้ห้องเตียงเดี่ยวริมหน้าต่างราคา 160 หยวน พร้อมห้องน้ำในตัว ที่นอนเป็นแบบจีนโบราณ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ด้วย ที่ประทับมากคือบานหน้าต่างไม้ที่สามารถเปิดออกได้หมดทุกบานเพื่อรับแสงแดดยามเช้า แต่สำหรับค่ำคืนที่หนาวเหน็บอย่างนี้การที่แน่ใจว่ามันหับสนิทย่อมเป็นเรื่องที่ดีกว่า

และก็เป็นอย่างที่เพื่อนคนจีนบอก เพราะห้องนอนนั้นเย็นเฉียบ หลายคนบอกว่าไปซูโจวช่วงนี้นอนหนาวแน่ๆ เพราะเมืองนี้ไม่มีฮีตเตอร์ อย่างดีก็มีเครื่องปรับอากาศ แต่ก็ไม่น่าจะทำความร้อนได้ดีนัก

ผมใช้เวลาเก็บข้าวของต่างๆ เรียบร้อยแล้วก็เริ่มรู้สึกคุ้นกับความเย็น วัดจากความรู้สึกของตัวเองแล้ว ก็ไม่ต่างจากบ้านที่ปักกิ่งตอนที่ฮีตเตอร์ยังไม่มา แม้จะต่ำกว่ายี่สิบองศาก็ใช่ว่าจะทนไม่ไหว ถ้ามีผ้าห่มหนาพอ แต่จะให้ดีก็ต้องมีคนนอนกอด เหมือนอย่างที่เพลงของวง "ดิ อิมพอสซิเบิ้ล" ว่าไว้

แต่คุณก็ไม่ได้มาด้วย

คืนนี้ผมเลยต้องนอนกอดนิยายเล่มหนาที่หอบติดมาอ่านเป็นเพื่อน

สายน้ำและบ้านเรือนยืนเรียงเคียงคู่กันมาหลายร้อยปีไม่เปลี่ยนแปลง

เช้าแรกที่ซูโจวเริ่มต้นจากแสงแดดอ่อนที่ส่องลอดม่านเข้ามาทักทาย หลังจัดแจงชำระร่างกายเรียบร้อยแล้ว ผมก็กินอาหารเช้าชุด "บริติช เบรกฟาสต์" ที่โฮสเทลมีไว้บริการในราคาเพียง 10 หยวน แล้วจึงเริ่มออกเดินเท้า

ใช่...เดินเท้า พอได้ยินคำนี้คุณคงขยาดขึ้นมาทันที เพราะตอนที่คุณมาปักกิ่ง ผมพาคุณเดินซะตั้งแต่เช้ายันเย็น จนคุณขาลากเลยทีเดียว จำได้ไหม คุณถามผมว่าทำไมต้องเดินเยอะขนาดนี้ และผมก็ตอบคุณไปแล้ว

ซึ่งคำตอบนั้นก็ยังคงเดิม ทุกเมืองที่ผมมีโอกาสไปสัมผัสเป็นครั้งแรก ผมจะต้องเดินสำรวจ การเดินช้าๆ ทำให้เราได้เห็นทุกอย่างถนัดตา และยังหยุดบันทึกภาพได้ด้วย ได้เห็นวิถีชีวิต เห็นซอกมุมที่ไม่มีในหนังสือท่องเที่ยว ได้ยินภาษาพูดของผู้คนที่แตกต่างจากเรา ได้สนทนาขณะไถ่ถามเส้นทาง ได้กลิ่นของบรรยากาศที่เดินผ่าน ถ้าโอกาสดีก็จะได้ชิมอาหารท้องถิ่นขนานแท้แบบที่ชาวบ้านกินกัน และที่สำคัญคือได้แลกเปลี่ยนรอยยิ้มระหว่างคนแปลกถิ่น รอยยิ้มที่ใสซื่อและจริงใจ ทั้งหมดนี้ได้จากการเดินเท่านั้น

วันแรกนี้ผมกะจะไปเดินที่ถนนริมคูเมือง ซึ่งตามแผนที่เดินเท้าเที่ยวซูโจวที่เพิ่งซื้อมาจากร้านกาแฟระบุว่าเดินได้ แต่พอไปถึงกลับมีการก่อสร้างรถไฟใต้ดิน เลยต้องย้อนกลับที่ซอยโบราณอีกแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า "คังเจีย" ซึ่งไม่ได้เป็นซอยที่ถูกแนะนำ แต่ดูแล้วสามารถเดินขึ้นไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญได้หลายแห่ง ปรากฏว่าในซอยนั้นเป็นตลาดเล็กๆ จึงสร้างสีสันให้กับวันใหม่ได้เป็นอย่างดี ตามรายทางเห็นว่าชาวซูโจวยังผูกพันกับสายน้ำ ยังมีคนลงไปซักผ้าที่ท่า ยังใช้น้ำจากบ่อบาดาลร่วมกัน และยังใช้ฟืนสำหรับจุดเตาไฟ โดยเฉพาะเตาให้ความร้อนในบ้านที่มีลักษณะคล้ายกับถึงสังกะสี

นอกจากนี้ยังเห็นกะละมังขายปลาสดๆ นานาชนิด ซึ่งสะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของเมืองน้ำแห่งนี้ และทำให้ระลึกถึงตลาดสดต่างๆ ในเมืองไทย เพราะไม่ว่าตลาดไหนก็มีกลิ่นไอเหมือนกัน

หลังจากเดินผ่านสะพานหินโบราณมาหลายแห่ง ก็ทะลุมาถึงสวนตะวันออกที่ปัจจุบันกลายเป็นสวนสัตว์ไปด้วย มีรถบัสนำเที่ยวหลายคันจอดเรียงราย เห็นแล้วอยากจะเข้าไปชวนพวกกรุ๊ฟทัวร์มาเดินด้วยกัน เพราะสนุกกว่าเป็นไหนๆ

ที่หน้าทางเข้าสวนสัตว์มีจักรยานสีเขียวไว้บริการให้เช่า ไม่มีพนักงานคอยเฝ้าเก็บเงิน เพียงเอาบัตรใบหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นบัตรเวลาที่เติมเงินมาแล้วและลงไปบนเสาที่ล็อกจักรยาน เดือยล็อกที่ด้านข้างตะเกียบหน้าของจักยานก็จะคลายออก เราก็สามารถเอาจักรยานมาขี่ได้เลย พอไปถึงจุดต่างๆ ที่มีจุดจอดแบบเดียวกัน ก็เพียงแต่เอาไปเสียบเข้ากับที่ล็อก จักยานก็จะปลอดภัยไม่หาย ที่สำคัญคือสะดวกต่อผู้ยืมมาก เพราะไม่ต้องเอาไปคืนที่จุดเดิม เงินค่าเช่ารายชั่วโมงก็จะถูกหักจากบัตรอัจฉริยะ

1 2 3 4 5 6 7 8
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040