จงกั๋วเจี๋ย(中国结) หรือศิลปะเชือกถักจีน นับเป็นอีกหนึ่งผลงานศิลปะประดิษฐ์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ และเปี่ยมด้วยภูมิปัญญาแห่งชนชาติจีน ที่เริ่มต้นจากเงื่อนธรรมดา เพื่อการมัดผูกเครื่องนุ่งห่มของมนุษย์ยุคหิน และต่อมาถูกใช้แทนการจดบันทึกเป็นที่แพร่หลายในสมัยราชวงศ์ฮั่น(206ปีก่อนค.ศ. - ค.ศ.220) ผ่านการพัฒนารูปแบบให้มีความซับซ้อนหลากหลายขึ้น จวบถึงปัจจุบันที่นำมาประยุกต์ใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่งร่างกาย
ชาวจีนรู้จักการผูกเงื่อนมาตั้งแต่ปลายยุคหินเก่า โดยจากหลักฐานการขุดพบทางโบราณคดีที่ ชุมชนโจวโข่วเตี้ยน กรุงปักกิ่ง นอกจากค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ปักกิ่งแล้ว ยังค้นพบเครื่องมือเครื่องใช้ในยุคหินเก่าหลายชิ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นมี"แท่งเข็ม" ทำจากกระดูกรวมอยู่ด้วย ทั้งนี้ การผูกเชือกเงื่อนมีความเกี่ยวข้องผูกพันกับชีวิตประจำวันของชาวจีนมานานแสนนาน เริ่มต้นจากในอดีตก่อนเริ่มมีการประดิษฐ์คิดค้นตัวอักษรขึ้นนั้น การผูกเงื่อนถูกใช้เป็นเครื่องมือช่วยจำแทนการจดบันทึก ซึ่งในหนังสือ โจวอี้จู้ ของเจิ้งเสวียน (ค.ศ.127-200) นักค้นคว้าศึกษาคัมภีร์ขงจื๊อชื่อดัง มีชีวิตอยู่ในช่วงปลายยุคสมัยฮั่นตะวันออก อธิบายเพิ่มเติมว่า การมัดปมจดบันทึกในอดีตนั้น หากเป็นเรื่องใหญ่สำคัญใช้ปมใหญ่ เรื่องเล็กปมเล็ก
ดารานักแสดงหญิงชาวจีนในชุดกี่เพ้ากับที่กลัดเชือกถักจีนแบบต่างๆ
(จากซ้ายบน – จ้าวเวย 赵薇, หลิวเส่ว์หัว 刘雪华, จางป๋อจือ 张柏芝, เฉินห่าว 陈好
จากซ้ายล่าง – หูจิ้ง 胡静, ฟั่นปิงปิง 范冰冰, โจวสวิ้น 周迅, โจวฮุ่ยหมิ่น 周慧敏)
ต่อมางานถักเชือกจีนได้มีการพัฒนารูปแบบให้ซับซ้อนและสวยงามหลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งก่อนจะมีกระดุมและซิปใช้กับเสื้อผ้าอย่างในปัจจุบัน คนจีนสมัยก่อนใช้การถักเชือกเงื่อนเป็นตัวกลัดติดเสื้อผ้า รวมถึงเป็นเครื่องประดับตกแต่งสำคัญ โดยจากภาพวาดโบราณ หนี่ว์สื่อเจิน ผลงานของ กู้ขั่ยจือ(ค.ศ.348-409) จิตรกรเอกสมัยจิ้นตะวันออก สะท้อนให้เห็นถึงเครื่องแต่งกายของหญิงสาวในยุคนั้น อาทิ เครื่องแต่งกายของนางสนมกำนัลในวัง ใช้การผูกโบว์ที่เอวเป็นเครื่องตกแต่งอย่างง่าย หรือภาพวาดฝาผนังในสุสานองค์หญิงหย่งไท่แห่งราชวงศ์ถัง ก็มีให้เห็นเช่นกัน ย่างเข้าสู่ราชวงศ์ชิง การถักเชือกถือเป็นชิ้นงานศิลปะอีกแขนงที่มีความสวยงามและได้รับความนิยมแพร่หลาย ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่งในชีวิตประจำวันมากมาย อาทิ ถักเป็นเชือกห้อยหยกประดับเสื้อ หรือถักมาแขวนประดับเพิ่มความหรูหราสวยงามให้กับเกี้ยวนั่ง หน้าต่าง มุ้ง พัด ขลุ่ย ถุงหอม สร้อยคอ ฯลฯ โดยคำว่า เจี๋ย ประกอบขึ้นจากคำว่า จี๋ ที่แปลว่า มงคล ด้วยเหตุนี้ศิลปะเชือกถักจีน จึงถูกโยงเข้ากับความเป็นศิริมงคล การพกจงกั๋วเจี๋ย หรือมอบจงกั๋วเจี๋ยจึงเสมือนดั่งพกความเป็นศิริมงคลมียันต์กันภัยติดตัวไปด้วยนั่นเอง
"ต้าจางเหว่ย(大张伟)" นักร้องหนุ่มชาวปักกิ่ง อดีตนักร้องนำวง The Flowers กับมาดเฮี้ยวกวนๆ ในภาพถ่ายแฟชั่นโปรโมทงานเพลงอัลบั้มเดี่ยวชุดที่สอง "ต้าจางฉีกู่(大张旗鼓) เอิกเกริก" ที่จับเอาความเป็นจีนมาผสมกับวัฒนธรรมต่างชาติ ภายใต้ชุดเสื้อหนังปักหมุดพร้อมสายรัดข้อมือแนวพังค์ร๊อค แต่สอดไส้ตัวในด้วยเสื้อสไตล์จีนสีแจ่มพร้อมติด "จงกั๋วเจี๋ย" เป็นเครื่องประดับเพิ่มสีสันความกวน,ยวน,เฉี่ยวเข้ากับคอนเซปท์งานอัลบั้มใหม่ได้ไม่น้อย
เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府