เก่าเล่าไป ใหม่บอกมา:"ผูกด้ายแดง" ควงแขน "ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์"
  2012-02-14 16:52:45  cri
ตามวัฒนธรรมตะวันตกได้ถือกำหนดให้วันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรักตรงกับวันที่สิบสี่กุมภาพันธ์ของทุกปี โดยถือว่า คิวปิด เป็นเทพผู้ช่วยแผลงศรรักไปปักอกดลใจให้คนหนุ่มสาวต่างตกหลุมรักในกันและกัน ซึ่งความเชื่อเรื่องมีกามเทพช่วยดลบันดาลรักให้นี้สำหรับชาวจีนก็มีเช่นเดียวกัน ทว่ามิใช่มีรูปลักษณ์เป็นเด็กตัวน้อยจ้ำม่ำที่มีปีกด้านหลังอย่างชาวตะวันตก แต่กลับเป็นผู้เฒ่าที่มีด้ายแดงแผลงฤทธิ์มัดใจนามว่า "เย่ว์เซี่ยเหล่าเหริน 月下老人"

เย่ว์เซี่ยเหล่าเหริน หรือเย่ว์เหล่า 月老 ผู้เฒ่าใต้แสงจันทร์

เป็นเทพผู้บันดาลรักและการแต่งงานตามความเชื่อของชาวจีน

มือหนึ่งกำด้ายแดง มือหนึ่งถือครองไม้เท้าแขวนสมุดสมรสสมรัก

เรื่องความรักของหนุ่มสาวจีนในอดีตนับแต่โบราณ นอกจากจะคุ้นเคยกันดีกับการมีผู้ช่วยเป็นแม่สื่อแม่ชักอย่าง "หงเหนียง" แล้ว ยังมีที่พี่งทางใจนิยมไปขอพรขอรักกับ "เย่ว์เหล่า" นี้ด้วย โดยเชื่อกันว่า ผู้ที่แต่งงานเป็นคู่สามีภรรยากันได้นั้น เกิดจากการจับคู่ให้ของเย่ว์เหล่าทั้งสิ้น โดยยามค่ำคืนภายใต้แสงจันทร์นวลผ่องส่องกระจ่าง เย่ว์เหล่าผู้เฒ่าจะนั่งอยู่บนก้อนหิน เมื่อใดที่ได้นำด้ายแดงในถุงผ้าที่แบกไว้บนหลัง ไปผูกมัดขาชายหญิงคู่ใดเข้าไว้ด้วยกันแล้วไซร้ คนทั้งสองนั้นก็จะได้ครองรักเคียงคู่กันไปเป็นนิรันดร์

มีตำนานเล่าขานกันว่า ในสมัยถังนั้นมีหนุ่มคนหนึ่งนามว่า เหวยกู้韦固 ทุกอย่างดีพร้อมแต่ทำอย่างไรก็ยังหาคู่ชูใจไม่ได้สักที จนอยู่มาวันหนึ่งได้พบเข้ากับเย่ว์เหล่าโดยบังเอิญ และรับรู้ถึงเนื้อคู่ที่มีด้ายแดงมัดไว้กับตนคือใครแต่ก็ไม่เชื่อ จนต่อมาภายหลังได้แต่งงานและรับรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วหญิงที่ตนแต่งงานด้วยนั้นตรงตามคำบอกเล่าของเย่ว์เหล่าไม่ผิดเพี้ยน ซึ่งภายหลังจากผ่านการสู่ขอเข้าพิธีแต่งงานกันเรียบร้อยแล้ว ชาวจีนก็ยังมีธรรมเนียมนิยม "ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์" เหมือนอย่างชาวตะวันตกด้วยเช่นกัน

ตำนานการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ของชาวจีนว่ากันว่า ในอดีตนานแสนนานมาแล้วนั้น มีหนุ่มสาวนักล่าสัตว์ฝีมือฉกาจอยู่คู่หนึ่ง ฝ่ายชายนามว่า สือตุน石墩 ฝ่ายหญิงนามว่า มู่เหมียว木苗 ต่อมาฝ่ายผู้ใหญ่ของทั้งสองเห็นควรให้ทั้งคู่แต่งงานกัน หลังผ่านพ้นการแต่งงาน ทั้งคู่ใช้ชีวิตร่วมกันได้ไม่ถึงสิบวันดี

ฝ่ายชาย "สือตุน" ก็เริ่มรู้สึกว่าอยู่ด้วยกันทุกวันอย่างนี้ ชีวิตคู่ช่างจืดชืดไร้รสชาติเสียนี่กระไร ไม่เหมือนกับก่อนแต่งงานที่ถูกใจใครก็ไปหา ไปคุยอยู่เป็นเพื่อนใครก็ได้ วันเดียวจะไปหากี่คนก็ได้ อิสระเสรีเป็นที่สุด ซึ่งตัวฝ่ายหญิงเองก็ค่อยๆ รู้สึกอย่างเดียวกันว่า อยู่กับสือตุนทั้งวันนี่น่าเบื่อไม่สุขใจสบายอุราเหมือนแต่ก่อนที่ยังเป็นโสด เมื่อทั้งคู่ต่างคิดอย่างนี้ ชีวิตคู่ก็ยากนักที่จะดำเนินต่อไป ด้วยเหตุนี้กลางดึกคืนหนึ่ง เมื่อผู้คนต่างเข้าบ้านปิดประตูหลับสนิทกันหมดแล้ว คนทั้งคู่ก็แอบกระโดดกำแพงหนีออกมาเหมือนกันโดยมิได้นัดหมาย

สือตุน และมู่เหมียว ต่างคนต่างดุ่มเดินกันไปเรื่อยอย่างไม่รู้ทิศรู้ทาง สุดท้ายก็ต่างพลัดหลงเข้าไปในป่า เพื่อเอาชีวิตให้รอดจากอันตราย ทั้งคู่จึงเลือกที่จะร่วมทางกัน แต่โชคไม่ดีเดินไปเจอะรังผึ้งใหญ่ก็ถูกรุมต่อย ทั้งสองรีบก่อไฟหวังเผาไล่ฝูงผึ้งซึ่งก็ได้ผลดีเกินคาด เพราะนอกจากจะไล่พวกผึ้งได้ดังหวังแล้ว ของเหลวที่ไหลออกมานั้นยังมีกลิ่นหอม สือตุนลองแตะชิมดูพบว่ารสชาติหอมหวาน และเพื่อดับความหิวระหว่างที่ยังหลงทางอยู่ในป่านั้น ทั้งสองก็ได้อาศัยผลไม้ป่าและดื่มน้ำผึ้งประทังชีวิต ทุกข์สุขอยู่ด้วยกันเป็นเดือน และต่างก็ค่อยๆ สัมผัสได้ถึงความรักความผูกพันที่มีต่อกัน ทั้งสองจึงหวนสู่สถานะเป็นคู่สามีภรรยาอีกครั้ง ครองรักได้โดยไม่คิดแยกจากกันอีกเลย

ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างวันที่ 1 -10 กุมภาฯ ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ซื้อสินค้าบริการผ่านออนไลน์เชียนผิ่นหว่าง qianpin ดอทคอม ได้ทำการสุ่มสำรวจผู้ใช้บริการของเว็บไซต์ถึงความคาดหวังหรือกิจกรรมที่จะทำในวันวาเลนไทน์ที่จะถึงนี้ สำหรับคนมีคู่แล้วก็หวังจะได้อยู่ด้วยกันกับคนรัก ส่วนบรรดาคนโสดไร้คู่นั้น ให้คำตอบว่า ยังคงตั้งความหวังว่าจะได้พบ "คนที่ใช่" ในวันนี้

โดย "สถานที่ฮิตในใจคนโสด" อันดับแรกคิดเป็น 40% นั้นเลือกที่จะอยู่กับบ้าน ใช้เวลาให้หมดไปกับการหาเพื่อนใหม่คนทีใช่ผ่านโลกสังคมออนไลน์ แต่เดิมคนโสดส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะอยู่บ้าน ดูหนัง หรือโทรศัพท์หาเพื่อนคุยในวันแห่งความรักตามประสาคนไร้คู่อยู่แล้ว  เมื่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มีอินเตอร์เน็ตสามารถย่อโลกให้เล็ก ย่นระยะทางให้ใกล้เข้ามาได้ คนโสดไม่น้อยจึงเลือกที่จะท่องอินเตอร์เน็ต หาเพื่อนคุย รวมถึงการออนไลน์ค้างอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ รอชมความหวานที่คนมีคู่เผื่อแผ่แบ่งปันผ่านทางเว็บไซต์ไมโครบล็อคทั้งหลาย

แต่ก็มีไม่น้อยอีกเช่นกันที่ทนความเหงาเปล่าเปลี่ยวไม่ไหว เรียกพลรวมตัวเพื่อนคนโสดด้วยกันออกมาพบปะสังสรรค์ในวันแห่งความรัก โดย 20% เลือกนัดไปรับประทานอาหารอร่อยๆ ด้วยกัน และ16% ว่าจะไปชมภาพยนตร์ เที่ยวผับ หรือนั่งตามร้านกาแฟ ซึ่งไม่แน่อาจจะได้เจอเพื่อนใหม่ที่ลงเอยเป็นคนรู้ใจกันในอนาคตก็ได้ใครจะรู้

นอกจากนี้ ผลสำรวจดังกล่าวยังระบุถึง "รูปแบบการจับจ่ายของคนโสด" ในวันวาเลนไทน์ที่จะถึงนี้ สรุปได้ว่า 60% เลือกที่จะใช้จ่ายไปเพื่อกิจกรรมพบปะสังสรรค์ปาร์ตี้ ที่แม้จะไม่มีคนรักในวันแห่งความรัก แต่ก็ใช่ว่าจะขาดความรัก การนัดรวมตัวชวนกันมาสังสรรค์ ไปกินไปดื่มไปร้องคาราโอเกะระหว่างหมู่เพื่อนก็ช่วยให้อุ่นที่ใจได้เช่นกัน ส่วนอีก 19% เลือกที่จะใช้เงินไปกับการดูแลตัวเองอย่างไปนวดฝ่าเท้า ทำสปา ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าทางกายที่เชื่อว่าส่งผลถึงใจ ได้ไม่น่าจะแพ้การเอาอกเอาใจจากคนรัก ส่วนอีก10% เลือกที่จะไปจับจ่ายซื้อหาสิ่งของเครื่องใช้ตามซุปเปอร์มาร์เกตมาเติมช่องว่างในหัวใจให้เต็ม เป็นต้น

การสำรวจดังกล่าวใช้วิธีสุ่มโทรศัพท์สอบถามผู้ใช้บริการเว็บไซต์ในสี่หัวเมืองสำคัญของจีน ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว และเซินเจิ้น โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมตอบคำถามการสำรวจนี้ 800 คน ประกอบด้วยเพศชาย 472 คน เพศหญิง 328 คน

เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040