จีนปริทรรศน์: ศิลปะสมัยใหม่กำลังงอกงามในจีน
  2012-05-23 16:04:24  cri

มีคนจำนวนมากมายตั้งคำถามกันว่า ประเทศจีนจะทำอย่างไรต่อไปกับ "หอจีน" หรือ "กั๋ว เจีย ก่วน" ในงานเวิลด์เอ็กซ์โป เซี่ยงไฮ้ เพราะเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญของประเทศขณะเดียวกัน รูปแบบสถาปัตยกรรมที่หลอมรวมเอาเอกลักษณ์ของความเป็นจีนที่เรียกว่า "เต๋าก๋ง" ซึ่งข้างบนจะใหญ่กว่าข้างล่างลดหลั่นกันลงมา และความทันสมัยของการตกแต่งภายในเข้าไว้ด้วยกันอย่างโดดเด่นนี้ ยิ่งทำให้ชาวเซี่ยงไฮ้และชาวจีนที่เคยไปเยี่ยมชมด้วยความภาคภูมิใจ อบากไปสัมผัสแล้วสัมผัสอีก ซึ่งทางการจีนก็ได้สนองประชาชนของตน โดยให้เข้าชมต่ออีก 1 ปี หลังเสร็จสิ้นงาน นั่นก็คือจนกระทั่งสิ้นปี 2011 แต่พอปี 2012 เป็นต้นมาก็ยังไม่มีกิจกรรมอะไรมากนัก นอกจากการจัดแสดงผลงานศิลปะของปิกัสโซ่ที่จัดข้าวปีมาจนถึงเดือนกุมภาพันธ์

ซึ่งการได้ทดลองแสดงงานของศิลปินชื่อก้องโลกไปก่อนหน้า หรือว่าอยู่ในแผนมาก่อนแล้วก็ไม่ทราบ เพราะไม่มีข่าวอะไรกระเด็นออกมาให้คนหายเป็นห่วงเลย แต่ล่าสุด "หอจีน" ของงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2010 กำลังจะถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "พระราชวังศิลปะ" หรือ "Art Palace" ซึ่งจะกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนและอาจจะใหม่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ เพราะพื้นที่ทั้งหมด 2.1 ล้านตารางฟุตของอาคารสัญลักษณ์ใหม่ของเซี่ยงไฮ้หลังนี้จะถูกนำมาให้ให้เกิดประโยชน์ต่อแวดวงศิลปะมากที่สุด และจะเผยโฉมใหม่ต่อชาวโลกในวันที่ 1 ตุลาคมที่จะถึงนี้

ซึ่งนี่เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่แสดงใหท้เห็นว่ารัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างยิ่งต่องานศิลปะร่วมสมัย หมายความว่าเศรษฐกิจของจีนมีความก้าวหน้าอย่างยิ่ง หมายความว่าชาวจีนมีรสนิยมในการเสพและสะสมผลงานศิลปะมากขึ้น หมายถึงการรู้จักใช้พลังของศิลปะในการสื่อสารกับประชาคมโลกของคนจีน และหมายถึงความภาคภูมิใจของชาวเซี่ยงไฮ้ ที่นอกจากจะเป็นชาวเมืองในนครที่มีระดับเศรษฐกิจสูงสุดของประเทศแล้ว ยังจะได้ร่วมกันเป็นเจ้าของพระราชวังศิลปะร่วมสมัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย

นอกจากนี้ในช่วงก่อนเปิดพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้ ก็จะมีงาน "เซี่ยงไฮ้ เบียนาเล่" เกิดขึ้นในเดือนกันยายน ซึ่งน่าจะเป็นการโหมโรงให้วงการศิลปะของเซี่ยงไฮ้ร้อนแรงอย่างยิ่ง เพราะได้ข่าวจากแวดวงศิลปะจีนว่างานในปีนี้จะจัดอย่างยิ่งใหญ่มาก และมีการเชิญคิวเรเตอร์ชาวตะวันกที่มีชื่อเสียงมาจัดคู่กับคิวเรเตอร์ชาวจีนด้วย เรียกได้ว่าถ้าเป็นคนที่รักและสนใจศิลปะร่วมสมัยก็สามารถอยู่เซี่ยงไฮ้ยาวเต็มหนึ่งเดือนได้เลย เพื่อจะได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่กับทั้งสองงานนี้ต่อเนื่องกัน

นี่คือหนึ่งข่าวใหญ่ของวงการศิลปะที่กำลังจะเกิดขึ้นที่เซี่ยงไฮ้ นครที่เป็นศูนย์กลางการเงินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ขณะเดียวกัน เมืองหลวงอย่างกรุงปักกิ่งก็ไม่น้อยหน้า เพราะใครๆในโลกนี้ที่ชื่อชอบศิลปะก็ทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า "ศูนย์ศิลปะ 798" นั้นโดดเด่นในฐานะเมืองของศิลปะร่วมสมัยขนาดไหน และไม่เพียงเท่านี้เพราะล่าสุดนาย ฟั่น ตี้อัน ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติจีนได้ออกมากล่าวว่า "มีแผนที่จะก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ขึ้นมา ซึ่งจะเกิดขึ้นบนพื้น 1.4 ล้านตารางฟุต บริเวณใกล้เคียงกับ "รังนก" สมนามกีฬาโอลิมปิก 2008 อาคารของพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งใหม่นี้จะกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของกรุงปักกิ่งหยัดยืนอยู่เคียงคู่กัน"

สาเหตุที่อคารพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่นี้กำลังจะกลายเป็นสัญลักษณ์ใหม่ที่ทันสมัยของกรุงปักกิ่ง ก็เพราะว่าขณะนี้กำลังมีการประกวดแบบและราคาอยู่ ซึ่งสถาปนิก 3 คนสุดท้ายที่กำลังห่ำหั่นไอเดียกันอยู่ก็ได้แก่ แฟรงก์ เกห์รี่ สถาปนิกชาวอเมริกัน ซาฮา ฮาดิด สถาปนิกชาวอิรัก และฌอง นูแวล นักออกแบบชาวฝรั่งเศส จะเห็นได้ว่า 3 ชื่อนี้ เรียกได้ว่าเป็นยักษ์ใหญ่ในแวดววงศิลปะการออกแบบของโลกทั้งสิ้น ซึ่งสามารถการันตีความโดดเด่นของอาคารที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

"ผมชอบให้งานออกแแบทันสมัยๆ งอกเงยขึ้นจากพิ้นดินของกรุงปักกิ่ง" ผู้อำนวยการคนเดิมกล่าว

ซึ่งทางการปักกิ่งและสำนักงานพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติจีนจะประกาศรายชื่อผู้ที่ชนะการออกแบบครั้งนี้ภายในไม่เเกิน 2-3 เดือนนี้

กระแสการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ศิลปะรว่มสมัยขนาดใหญ่ขึ้นในเมืองใหญ่ของประเทศจีนนี้ คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสหรัฐอเมริกาเมื่อศตวรรษที่ 19 ซึ่งสนับสนุนแนวคิดของ อ.ถนอม ชาภักดี แห่งคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้เป็นอย่างดีว่า "ในต้นศตวรรษที่ 20 ศิลปะไหลจากฝรั่งเศส จากยุโรปเข้าสู่อเมริกา ผมจึงคิดว่าแต่ในศตวรรษที่ 21 นี้ ศิลปะจากยุโรปและอเมริกาไหลเข้าสู่จีน"

คือนอกจากต้องการความสำเร็จทางด้านเศรษฐกิจแล้ว ปัจจุบันชาวจีนยังต้องการความภาคภูมิใจของชาติมากขึ้นด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่าพิพิธภัณฑ์ศิลปะขนาดใหญ่ทั้งสองแห่งที่เซี่ยงไฮ้และปักกิ่งนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาล เพราะเป็นส่วนหนึ่งในแผนทางวัฒนธรรมของชาติที่มักได้ยินบ่อยๆ จากสื่อจีนที่ว่า "เดินสู่ภายนอก และเชิญชวนเข้ามา" คือ นอกจากจะเปิดโอกาสให้ศิลปินดังระดับโลกมีโอกาสเข้ามาแสดงผลงานในเมืองจีนแล้ว ยังสนับสนุนให้ศิลปินจีนเดินทางออกไปแสดงในต่างประเทศด้วย ทั้งในงานเทศกาลศิลปะต่างๆ และในพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงของโลกทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป

แต่สำหรับพิพิธภัณฑ์ศิลปะทั้งสองแห่งนี้แล้ว ถือได้ว่าเป็นเวทีระดับโลกที่ศิลปินชาวจีนทั้งรุ่นใหม่และเก่าสามารถใช้ก้าวเดินทั้งออกสู่ภายนอกและงอกเงยอยู่ภายใน เป็นเวทีที่ทางรัฐบาลจีนเปิดและทุ่มเทให้อย่างเต็มที่ และเมื่อตัดสินใจทำแล้ว จีนยังไงก็ยังเป็นจีน คือไม่มีทางที่จะทำอะไรเล็กๆ และไม่มีทางที่จะทำอะไรซึ่งเป็นเรื่องหน้าตาของประเทศแบบครึ่งๆ กลางๆ

ตอนนี้ก็อดใจรอดูว่า "พระราชวังศิลปะ" ทีเซี่ยงไฮ้จะออกมาเป็นอย่างไร หน้าตาของ "งานศิลปะที่กำลังจะงอกเงยขึ้นมาจากพื้นดินของกรุงปักกิ่ง" จะอัศจรรย์ใจขนาดไหน

พัลลภ สามสี

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040